นันทศักดิ์ วัฒนพานิช

ชาวนาบ้านหนองมะกอกร่วมส่งกำลังใจช่วยม็อบชาวนา

ชาวนาบ้านหนองมะกอกร่วมส่งกำลังใจช่วยม็อบชาวนา อยากให้รัฐหนุนราคาข้าวตันละ 11,000 บาท พร้อมลดค่าปุ๋ยค่ายา เพราะปัจจุบันราคาต้นทุนทำนาสูงเท่าราคาข้าวที่ขายได้   วันที่ 20 ก.พ.68 ที่ จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มชาวนาบ้านหนองมะกอก ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี พากันรวมตัวมาที่ลานตากข้าวหมู่บ้าน เพื่อร่วมส่งกำลังใจไปให้กลุ่มชาวนาภาคกลาง ที่กำลังเดินหน้าไปชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาข้าวราคาตกต่ำ โดยเสนอให้มีโครงการประกันรายได้ข้าวตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 50 ตันต่อราย หรือโครงการรับจำนำข้าวในราคาเดียวกัน นอกจากนี้ ขอให้เยียวยาเกษตรกรในพื้นที่รับน้ำด้วยเงินชดเชย 300 บาทต่อไร่ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือนต่อปี และยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าว หรือขอให้รัฐรับซื้อตอซังข้าวแทน โดยกลุ่มชาวนาบ้านหนองมะกอก เปิดเผยว่า ที่พวกเรามารวมกลุ่มกันในวันนี้เพราะอยากส่งกำลังใจไปให้กลุ่มชาวนาที่เป็นตัวแทนเดินทางไปเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพวกเราชาวนาทุกคน ซึ่งก็อยากให้ราคาอยู่ที่ 10,000-11,000 บาทต่อตัน เพราะตอนนี้ราคารับซื้อข้าวนั้นต่ำมาก อยู่ที่ตันละ 6,000-7,000 บาทเท่านั้น ซึ่งมันไม่รับกับค่าปุ๋ยยาที่สูงขึ้นมาก เพราะปัจจุบันต้นทุนการทำนานั้นอยู่ที่ไร่ละ 3,000-5,000 บาท อยู่ที่ว่าใครจะมีอุปกรณ์ในการทำนามากน้อยไม่เท่ากัน และประสบปัญหาแตกต่างกันไป […]

ชาวนาบ้านหนองมะกอกร่วมส่งกำลังใจช่วยม็อบชาวนา Read More »

นายกเผด็จ​ฯโต้เดือด ท้ามือร้องเปิดหน้า หลังบุกห้องผู้ว่าฯตามเรื่องร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่​คดีฮั๊วประมูล

นายกเผด็จ​ฯโต้เดือด ท้ามือร้องเปิดหน้า หลังบุกห้องผู้ว่าฯตามเรื่องร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่​คดีฮั๊วประมูล ยืนยันปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตโปร่งใส หากพบเห็นกระทำผิดแจ้งความดำเนินคดีได้เลย วันที่ 12 ก.พ.68 ที่ จังหวัด​อุทัยธานี​ จากกรณีที่​ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์​ ที่ผ่านมา ได้มีนายเอ (นามสมมุติ)​ ได้เดินทางมายื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เพื่อขอพบตัวผู้ว่าราชการจังหวัด​ หลังจากที่​ตนเองได้มีการยื่นหนังสือร้องเรียนก่อนหน้านี้ต่อ ปปช.จังหวัดอุทัยธานี แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้า​ เกี่ยวกับที่ทาง นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ไม่หยุด​ปฏิบัติหน้าที่​ แม้ทาง ปปช.ได้มีการชี้มูลความผิดและศาลชั้นต้นยกฟ้อง ซึ่งคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ นายเอ จึงเห็นว่า นายเผด็จฯควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่งทาง นายเอ ผู้ร้องเรียนนั้นได้ให้ข้อมูล​ว่า  นายเผด็จฯนั้น ได้รับหนังสือสั่งการจากจังหวัด แต่ไม่รายงานหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ กลับยังปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.อุทัยธานี ผู้ร้องเรียนจึงขอให้ผู้ว่าฯอุทัยธานี สั่งให้นายเผด็จฯ พ้นจากตำแหน่ง และเดินทางไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ ทางนายเอ นั้น ไม่ได้พบกับผู้ว่าราชการจังหวัด​

นายกเผด็จ​ฯโต้เดือด ท้ามือร้องเปิดหน้า หลังบุกห้องผู้ว่าฯตามเรื่องร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่​คดีฮั๊วประมูล Read More »

ชายนิรนามบุกห้องผู้ว่าทวงถามเรื่องการดำรงค์ตำแหน่งนายก อบจ.

ชายนิรนามบุกห้องผู้ว่าทวงถามเรื่องการดำรงค์ตำแหน่งนายก อบจ.หลังก่อนหน้านี้มีหนังสือให้หยุดปฎฺบัติหน้าที่หลังเพราะมีคดีค้างคาอยู่ที่ศาลยังไม่ได้ตัดสินถึงสิ้นสุดกลับมาลงสมัครนายกได้ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 นายเอ(ขอสงวนชื่อและนามสกุล)ได้มายังศาลาลกลางจังหวัดอุทัยธานี เพื่อยื่นหนังสือกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นถึง ปปช.จังหวัดอุทัยธานีไปแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าหรือคำตอบว่าสาเหตุอะไรว่า นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ยังคงดำรงค์ตำแหน่งอยู่ได้ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดโดยศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤมิชอบภาค 6 มีคำสั่งประทับรับฟ้อง ซึ่งในศาลชั้นต้นยกฟ้องเป็นคดีหมายเลขที่ดำที่ อท.41/2563 คดีหมายเลขแดง อท.98/2565คดีอยู่ในชั้นอุธรณ์จึงถือว่ายังไม่ถึงที่สุดและยังไม่ได้ตัดสินคดีเลย อันต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมาย ตามมาตรา93ประกอบมาตรา 81 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561ในการนี้ จังหวัดอุทัยธานี ได้แจ้งการบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ให้ดำเนินการดังนี้ให้บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้กำกะบและดูแลตามกฎหมายทราบโดยด่วน(2)ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้กำกับดูแลตามกฎหมายพิจารณากำชับให้บุคคลดังกล่าวหยุดปฎิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด(3)บุคคลใดฝ่าฝืนไม่ปฎิบ้ติตามหรือจงใจปกปิดข้อเท็จจริงไม่รายงานการถูกฟ้องคดีอาญาตามข้อ 1 หรือไม่หยุดปฎิบัติหน้าที่ตามข้อ 2 อาจเข้าข่ายเป็นการประพฤติฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยซึ่งผู้มีอำนาจกำกับดูแลอาจดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้วรายงานผู้มีอำนาจสั่งให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งได้ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี พพ.ศ.2540 มาตรา 77และมาตรา 79 นั้น ซึ่งผู้ที่ร้องนั้นเป็นชาวจังหวัดอุทัยธานีได้ทราบว่านายเผด็จได้รับหนังสือสั่งการจากจังหวัดอุทัยธานีแต่ปรากฎว่านายเผด็จไม่มีรายงานแต่อย่างไรให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีได้ทราบและไม่มีการหยุดปฎิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดกลับมีการแสดงตนในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานีไปเป็นประธานการเปิดงานต่างๆ และเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ยังร่วมงานแถลงข่าวงานบุญเดือนสามที่วัดหนองขุนชาติรวมถึงพิธีเปิดงานอีกด้วย โดยถือว่านายเผด็จ นั้นประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยดังนั้นขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีนั้นมีคำสั่งให้นายเผด็จนั้นพ้นจากตำแหน่งโดยทันทีเพื่อรักษาผลประโยชน์ ขณะเดียวกันผู้ที่ร้องเรียนนั้นจะไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางที่กรุงเทพมหานครเพื่อขอให้ไตร่สวนในเรื่องนี้ต่อไปซึ่งยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่าหากไม่มีใครร้องท้องฟ้าจังหวัดอุทัยธานีก็จะมืดครึ้มอยู่แบบนี้เพราะความจริงนั้นไม่ออกมาให้ประชาชนได้รับรู้ โดยทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อผ่านทางหน้าห้องหรือคณะทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอสัมภาษณ์ โดยทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้แต่ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อซึ่งทางผู้ว่านั้นติดประชุมอยู่จึงต้องรอต่อไปว่าทางผู้ว่านั้นจะให้ข้อมูลว่าอย่างไรต่อไป

ชายนิรนามบุกห้องผู้ว่าทวงถามเรื่องการดำรงค์ตำแหน่งนายก อบจ. Read More »

ก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์เจ๊แมวมีครบทั้งเนื้อ หมู ไก่ ตุ๋นยาจีนหอมกรุ่น

ก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์เจ๊แมวมีครบทั้งเนื้อ หมู ไก่ ตุ๋นยาจีนหอมกรุ่น เห็นชามก็จะอิ่มแล้วแถมยังมีเมนูข้าวหรืออาหารตามสั่งอีกเพียบชมบรรยกาศท้องทุ่งนาชนบทไปดื่มด่ำกับธรรมชาติ ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้แมวก๋วยเตี๋ยวชามโต เลขที่ 192/1 หมู่ที่ 2 บ้านหนองขาหนาก อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเปิดมากว่า 20 ปีแล้ว นางสาวกันยารัตน์ ชินเขตรกิจ หรือเจ๊แมวและนางสาวนงลักษณ์ ชินเขตรกิจ หรือน้องของขวัญ  ผู้เป็นลูกสาวเปิดเผยว่าก๋วยเตี๋ยวของที่นี่ใช้เตาฟืนมาตั้งแต่เริ่มเปิดเลยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่ร้านนี้เลยก็ว่าได้และส่วนเมนูก๋วยเตี๋ยวนั้นก็ช่วยกันคิดค้นว่าจะทำอย่างไรให้เป็นจุดดึงดูดความสนใจรวมถึงรสชาติจะต้องโดดเด่นอร่อยแถมเป็นเอกลักษณ์ จึงลองผิดลองถูกคิดสูตรด้วยตัวเอง จนได้ที่ ตั้งแต่ ไก่ตุ๋น ขาไก่ตุ๋นนั้นจะเปื่อยมากแทบจะไม่ต้องเคี้ยวเลยก็ว่าได้ ส่วนเนื้อตุ๋นก็เช่นกันต้องคัดสรรเนื้ออย่างดีมาทำ รวมถึงหมูตุ๋นและกระดูกหมูอีกด้วย โดยทั้งหมดนั้นจะนำไปตุ๋นยาจีนโดยใช้เตาถ่านและใช้ไฟแรงมากโดยตุ๋นเป็นเวลา 2 ชั่วโมงก็จะมีความพอดีเนื้อนั้นหอมเพราะตัวยาจีนนั้นเข้าไปแทรกนั่นเอง ส่วนชามที่นำมานั้นก็ตั้งใจใช้ชามที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านอื่นๆ เพราะมีความคิดว่าเวลาคนมานั่งกินนั้นเวลาซดน้ำก็จะไม่หกเละเทะและรู้สึกว่าอบอุ่นเวลากิน ส่วนก๋วยเตี๋ยวนั้นก็แล้วแต่จะสั่งกันหรือแล้วแต่ชอบบางคนก็สั่งแบบรวมกันทีเดียวเลยทั้งเนื้อหมูและไก่ เพราะความที่อร่อยทุกอย่าง ซึ่งราคาเริ่มต้นนั้น ชามธรรมดาเริ่มต้นที่ 40 บาท หากสั่งพิเศษก็ 50-60 บาท และทีเด็ดก็คือก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์ที่มาแบบไซค์พิเศษซึ่งจะแยกเส้นให้ในราคา 199 บาทและอีกไซค์หนึ่งก็ 299 บาท สำหรับไซค์นี้มาแบบแทบจะเป็นกาละมังซักผ้ากันเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับก๋วยเตี๋ยวไซค์ยักษ์นั้นทางร้านนั้นคิดว่าหากว่ามีลูกค้ามากินด้วยกันแล้วก็อยากจะกินด้วยกันหรือแบ่งกันกินได้หมากมากันหลายคนก็สั่งได้เลยโดยการกินก๋วยเตี๋ยวที่นี่นั้นเรียกได้ว่าหลากหลายให้เลือกแถมยังมีเมนูอาหารตามสั่ง อย่างเช่นกะเพราะถาดเริ่มต้นเพียง 59 บาท เท่านั้นมาพร้อมกับไข่ยางมะตูมที่น่ากินอย่างมากและยังมีเมนูลวกจิ้มซึ่งน้ำจิ้มนั้นรสชาติแซ่บถึงใจรวมถึงเกาเหลาต่างๆ ขณะเดียวกันสำหรับร้านเจ๊แมวก๋วยเตี๋ยวชามโตแห่งนี้ไม่เพียงแค่มีดีแค่รสชิตเท่านั้นยีงมีท้องทุ่งนาให้ชมอีกด้วยแถมยังมีโต๊ะให้นั่งลมเย็นธรรมชาติตลอดทั้งวัน

ก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์เจ๊แมวมีครบทั้งเนื้อ หมู ไก่ ตุ๋นยาจีนหอมกรุ่น Read More »

ผู้ใจบุญรวมกลุ่มกันเปิด”ร้านมีข้าว” ไม่ได้ขายแต่แจกฟรีเนื่องในวันไหว้เจ้าหรือตรุษจีน

ใจบุญรวมกลุ่มกันเปิด”ร้านมีข้าว” ไม่ได้ขายแต่แจกฟรีเนื่องในวันไหว้เจ้าหรือตรุษจีนแถมมีอั่งเอาติดมือกลับบ้านต่างไหว้ขอบคุณ เวลา 19.00 น.วันที่ 28 มกราคม 2568  ที่บริเวณทางเข้า ทางแยกเข้าศาลเจ้าแม่ขาวทอง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองไผ่  อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี แบน   ถนนอุทัยธานี-โกรกพระ คนในชุมชนที่รวมกลุ่ม ในชื่อว่า \”ลูกแม่ขาวทอง\”  โดยการนำของ  คุณวงศ์เกษม หรือ คุณโจ๊ก   ประธานมูลนิธิแม่ขาวทองและนายจักรรินทร์ เถรปัญญา ผู้บริหการอาณาจักรบ๊องร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นชื่อดีงของจังหวัดและบรรดาเพื่อนและชาวบ้านต่างร่วมมือร่วมใจกันเปิดร้านข้าวต้มที่ใช้ชื่อว่า “ร้านมีข้าว”ขึ้น โดยใครที่ผ่านไปมาก็สงสัยว่าต้องเป็นร้านข้าวต้มเปิดใหม่อย่างแน่นอนเลย แต่พอแวะดูจึงรู้ว่าเป็นร้านข้าวต้มที่แจกฟรีจึงมารับประทานกันจนแน่นร้าน โดยทางคุณโจ๊กเปิดเผยว่า ตั้งใจอยากจะทำบุญใหญ่สักครั้งจึงปรึกษากับบรรดาเพื่อนๆและชาวบ้านในชุมชน ว่าจะทำร้านข้าวต้มเป็นเวลา 5 วันก็คือ วันที่ 27 ถึงวันที่ 31 มกราคม เนื่องในช่วงไหว้เจ้าหรือเทศกาลตรุษจีนนั่นเองโดยทุกวันเมนูจะไม่ซ้ำกันอีกด้วยเนื่องจากกลัวว่าจะเบื่อกันเช่นในวันนี้  มีเมนู ข้าวต้มกุ๊ยใบเตย  ต้มซุปเปอร์ตีนไก่ ผัดแขนงน้ำมันหอย ผัดคะน้าน้ำมันหอย  ไชโป๊ผัดไข่  ยำไชโป๊สามรส ยําไข่เค็ม ยำไข่เยี่ยวม้า  ผัดผักบุ้งไฟแดง ผัดคะน้าปลาอินทรีย์ และผัดกระเฉดน้ำมันหอย ซึ่งผู้ที่สัญจรไปมาหรือผู้ที่ผ่านมารวมถึงชาวบ้านในหมู่บ้านต่างก็มาแวะเวียนกันจนต้องยืนรอคิวกันเลยทีเดียว โดยจากการสอบถามผู้ที่มากินต่างบอกว่าอร่อยมากซึ่งรสชาตินั้นไม่แพ้ร้านข้าวต้มดังๆในเมืองเลยแถมยังเติบกันแบบไม่อั้นอีกด้วยต่างก็ขอบคุณผู้ใจบุญที่เลี้ยงข้าวต้มฟรีๆแบบนี้

ผู้ใจบุญรวมกลุ่มกันเปิด”ร้านมีข้าว” ไม่ได้ขายแต่แจกฟรีเนื่องในวันไหว้เจ้าหรือตรุษจีน Read More »

สาววัย 37 รมควันฆ่าตัวตายแต่งชุดตรุษจีน​ดับคารถริมเขื่อน

สาววัย 37 รมควันฆ่าตัวตายแต่งชุดตรุษจีน​ดับคารถริมเขื่อนแฟนหนุ่มสุดเศร้าเผยสาเหตุคาดมาจากซึมเศร้า​และเครียดหนี้สินสะสม วันที่ 27 ม.ค.68 พ.ต.ท.​อัคนิตย์ เกตุมณี ร้อยเวร สภ.ทัพทัน พร้อมด้วย​เจ้าหน้าที่​ชุดพิสูจน์​หลักฐาน​ พร้อมชุดกู้ภัย​อุทัยธานี​  รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ 1 ราย ที่บริเวณแก้มลิง เขื่อนวังร่มเกล้า​ ฝั่งบเานดอนหวาย อำเภอทัพทัน​ จังหวัดอุทัยธานี​ โดยที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า HR-V สีดำ หมายเลขทะเบียน​ ขง 351 นครสวรรค์​ สภาพรถจอดดับเครื่อง​ยนต์ประตูฝั่งคนขับและฝั่งท้ายด้านเดียวกันถูกเปิดอยู่ และกระจกประตูแตก ใกล้กันกับรถพบมีหมวกกัน​น็อค​สีดำเต็มใบตกอยู่ ด้านหน้ารถมีถ่าน 1 ถุง พร้อมด้วย กระป๋องเบียร์ 1 กระป๋อง ด้านท้ายรถมีบุหรี่ตกอยู่ 1 มวน ตรวจสอบ​ด้านในรถยนต์ที่บริเวณฝั่งคนขับ พบผู้เสียชีวิต​ 1 ราย เป็นหญิงทราบชื่อคือ นางสุภัตรา เบียดตะคุ อายุ 37 ปี เป็นชาวท่าตะโก​ จังหวัด​นครสวรรค์​ สภาพนั่งเสียชีวิตอยู่หลังพวงมาลัย​

สาววัย 37 รมควันฆ่าตัวตายแต่งชุดตรุษจีน​ดับคารถริมเขื่อน Read More »

ขนมเทียนเจ้าเก่าทำมากว่า 30 ปี เร่งห่อกันทั้งวันทั้งคืนเพราะคนสั่งเพียบ

ขนมเทียนเจ้าเก่าทำมากว่า 30 ปี เร่งห่อกันทั้งวันทั้งคืนเพราะคนสั่งเพียบจนทำแทบไม่ทัน กว่า 1,300 กิโลแล้วเนื่องจากเป็นขนมมงคลที่ใช้ในเทศการในวันตรุษจีนสูตรเด็ดมีดีที่ใส้ไม่เค็มเกินไปกลมกล่อมหอมละมุนลิ้น เวลา 16.00 น.วันที่ 26 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่ามีผู้ที่ทำขนมเข่งและขนมเทียนมานานและมีผู้ที่สั่งจองกันประจำ จึงไปบ้านของนางสาวยุพิน พึ่งพวก อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 37 หมู่ที่ 7 ตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งอยู่ติดกับวัดกลางเขา โดยนางสาวยุพินบอกว่าเริ่มหมักแป้งตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาแล้วและในวันนี้ก็เร่งห่อขนมเทียนกันเพื่อให้ทันยอดที่สั่งจอง โดยทำทั้งขนมเข่งและขนมเทียน โดยขนมทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นของมงคลและขาดไม่ได้ในการประกอบพิธีในวันตรุษจีน โดยยอดสั่งจองในตอนนี้ทั้งขนมเข่งและขนมเทียนนั้นมียอดสั่งประมาณ 1,300 กิโลกกรัมแล้วและยังมีคนโทรมาสังกันอีกเรื่อยๆ โดยขนมเข่งนั้นจะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาทส่วนขนมเทียนขายกิโลกรัมละ 90 บาท โดยผู้ที่สั่งนั้นโทรมาจากทั่วสารทิศมีทั้งแม่ค้าทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดมาสั่งนำไปขายต่ออีกทีและในกรุงเทพก็มีสั่งกันเยอะ รวมถึงผู้ที่จะทำพิธีไหว้ก็จะมาสั่งกันถึงบ้านกันเลยทีเดียว ซึ่งยังให้ชาวบ้านนั้นมีรายได้อีกด้วยเพราะต้องจ้างมาแพคขนมเข่งและห่อขนมเทียนกันเพื่อให้ทันยอดที่สั่งนั่นเองแต่ผู้ที่จ้างมานั้นจะต้องเคยมาทำแล้วเนื่องจากการห่อขนมเทียนนั้นไม่ใช่เรื่องงายๆต้องฝึกจนชำนาญกันเลยทีเดียว นางสาวยุพิน เปิดเผยว่าได้ทำขนมเทียนและขนมเข่งมาตั้งแต่ยังสาวหรือประมาณ 30 กว่าปีมาแล้วจนเป็นที่รู้จักกันอย่างดีและไม่ใช่ทำแต่ขนมสองอย่างนี้ หากเทศกาลออกหรือเข้าพรรษายังทำข้าวต้มมัดขายอีกด้วย ซึ่งสูตรขนมเทียนของที่นี่นั้นทั้งแป้งจะต้องหมักก่อนเพื่อให้นุ่มส่วนใส้นั้นจะไม่ออกรสไม่เค็มจนเกินไปเวลากินกลมหล่อมหอมแล้วต้องมีความรู้สึกละมุนลิ้น ส่วนขนมเข่งนั้นแป้งจะออกนุ่มมากรสชาติหวานพอดี ซึ่งหลังจากที่ทำการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษกันเรียนร้อยแล้วขนมทั้งสองอย่างนี้เจ้าของบ้านหรือผู้ที่ไหว้ก็จะแจกจ่ายให้กับลูกหลานถือว่าเป็นขนมมงคลดังที่กล่าวมาซึ่งยังบอกอีกว่าจะสืบสานการทำขนมเข่งและขนมเทียนต่อไปเพราะยังมีลูกสาวอีกคนหนึ่งที่สนใจในการทำขนม โดยใครที่อยากลองลิ้มชิมรสหรือจะซื้อไปไหว้ช่วงตรุษจีนสามารถโทรมาสั่งกันได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 087-5742100 รับรองว่าขนมที่ทำนั้นอร่อยทุกชิ้นเพราะใส่ใจในการทำและสูตรนั้นจะต้องอร่อยเกมือนกันทุกปีเพื่อเป็นการดึงดูดหรือเอาใจใส่ลูกค้านั่นเอง ส่วนบรรดาแม่ค้านั้นจะนำไปขายต่ออีกทีในตลาดก็อยู่ที่กิโลกรัมละ 130-140 บาท

ขนมเทียนเจ้าเก่าทำมากว่า 30 ปี เร่งห่อกันทั้งวันทั้งคืนเพราะคนสั่งเพียบ Read More »

แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว​วัย 67 ปี สุดดีใจ ได้เงินหมื่นเฟส2 ตั้งใจเอามาต่อยอดลงทุนขายของต่อ

แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว​วัย 67 ปี สุดดีใจ ได้เงินหมื่นเฟส2 ตั้งใจเอามาต่อยอดลงทุนขายของต่อ เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลง วันจันทร์ที่ 27 มกราคม​ นี้ ผ่านแอปทางรัฐ ส่งผลให้ผู้สูงอายุที่ตรวจสอบสิทธิ์​ผ่านโครงการ เตรียมรอรับเงินก้อนดังกล่าวนี้กันด้วยความดีใจ อย่างเช่น ป้าปิ๋น อายุ 67 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว​ในหมู่บ้าน ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง​ จังหวัดอุทัยธานี​ เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเงินโครงการ​นี้แล้วด้วยเช่นกัน โดย ป้าปิ๋น เปิดเผยว่า ตนเองนั้นใช้มือถือ​ไม่เป็นเลยใช้มือถือ​ของลูกลงทะเบียน​ และตรวจสอบสิทธิ์​ผ่านได้เงิน 10,000​ บาท เฟส 2 นี้กับเขาแล้วด้วยเช่นเดียวกัน รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเงินก้อนนี้ โดยตั้งใจว่าจะนำเงินก้อนนี้มาไว้ต่อยอดขายก๋วยเตี๋ยว​ เพราะเป็นอาชีพเดียว​ที่ทำให้มีรายได้หาเลี้ยงตัวเอง และยังพอทำไหวอยู่ในตอนนี้ โดยที่ร้านยังขายก๋วยเตี๋ยว​ในราคาเพียงชามละ 25 บาท พิเศษ​ 30 บาทเท่านั้น เพราะทุกวันนี้คนก็มีรายได้กันไม่มาก

แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว​วัย 67 ปี สุดดีใจ ได้เงินหมื่นเฟส2 ตั้งใจเอามาต่อยอดลงทุนขายของต่อ Read More »

หมูขึ้นราคารับตรุษจีนกิโลละ 10 บาท แถมไก่ไทยขึ้นมากิโลกรัมละ 20 บาท

หมูขึ้นราคารับตรุษจีนกิโลละ 10 บาท แถมไก่ไทยขึ้นมากิโลกรัมละ 20 บาท เนื่องจากอากาศหนาวไก่นั้นตายกันเป็นระนาวแต่ความต้องการบริโภคนั้นมีเยอะ เวลา 07.00 น.วันที่ 23 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดเทศบาล 2 อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานีหลังพบว่าราคาเนื้อหมูนั้นเริ่มขยับขึ้นแล้ว โดยนางสาวอุบลรัตน์ กาญจอุทัย แม่ค้าเจ้าของเขียงหมูเปิดเผยว่าตอนนี้รคาคาหมูเป็นหน้าฟาร์มขยับขึ้นก่อนตรุษจีนแล้วทางเราก็จำเป็นจะต้องขึ้นหรือขยับราคาตามกันไปหากไม่ขึ้นก็ต้องแบต้นทุนหรือไม่ได้กำไรเลยตอนนี้ราคาหมูเนื้อแดง จากเดิมกิโลกรัมละ 150 บาท ตอนนี้ขึ้นมา 160 บาท ส่วนเนื้อหมูสันในจากเดิมราคา 170 บาท ขึ้นมาเป็น180 บาท  สันนอกจากเดิมกิโลกรัมละ 150  ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมบะ 160 บาทหมู 3 ชั้น จากเดิมกิโลกรัมละ 190 ตอนนี้ กิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนซี่โครงจากราคาเดิมกิโลกรัมละ 190 บาท ก็ขึ้นมาเป็ฯกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งบรรดาแผงหมูที่อยู่ใลตลาดบอกว่าลูกค้าที่มาซื้อก็บ่นกันระนาวว่าขึ้นครั้งละ 10 บาทกันเลยทีเดียวแต่ก็อธิบายเหตุผลของการขึ้นไปว่าทางเขียงนั้นไม่ได้ขึ้นเองเนื่องจากราคาหมู่ป็นก่อนเชือดหน้าฟาร์มขึ้นมาแบบนั้นก็ต้องขยับตามหากไม่ขึ้นก็ต้องแบบต้นทุนไว้หรือขายขาดทุนแน่นอน และแน่นอนเป็นไปตามที่คาดไว้พอหลังจากที่กมูขึ้นราคาตลาดนั้นก็แทบจะไม่มีคนเดินเลยเพราะหนีไปซื้อหมูของร้านขายติดแอร์หรือร้านที่ทันสมัยกว่า (เช่นของซีพี)

หมูขึ้นราคารับตรุษจีนกิโลละ 10 บาท แถมไก่ไทยขึ้นมากิโลกรัมละ 20 บาท Read More »