ไทยเตรียมปิด 6 ด่านถาวร 10 จุดผ่อนปรน ตอบโต้เขมร ผู้ประกอบการ-หอการค้า-ชาวบ้านหวั่นเดือดร้อนหนัก กระทบไปทั่ว

เมื่อวันที่ 31 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังหน่วยงานความมั่นคงของไทย ได้รายงานด่วนถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ตึงเครียด หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บหลายราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าว จุดกระแสความไม่พอใจในประเทศกัมพูชา จนมีการปลุกกระแสในโซเชียลมีเดีย รณรงค์ไม่ซื้อสินค้าไทยทุกชนิด เพื่อแสดงพลังรักชาติ ตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งเพิ่มเติมระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ และรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย จึงได้จัดประชุมด่วน และมีแนวโน้มที่จะประกาศปิดจุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง และจุดผ่อนปรน 10 แห่ง ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด่านผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนดังกล่าว ประกอบด้วย จุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง 1. ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ 2. ช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ,3. บ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว , 4. บ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดราชบุรี ,5. บ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดราชบุรี และ 6. บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด

ส่วน จุดผ่อนปรน 10 แห่ง ประกอบด้วย 1. ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ,2. บ้านตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ,3. บ้านหนองปรือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว, 4. บ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ,5. บ้านซับตารี อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี, 6. บ้านบึงชนังล่าง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ,7. บ้านสวนส้ม อำเภอสายดาว จังหวัดจันทบุรี, 8. บ้านหมื่นดาน ตำบลบ่อพร้อย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ,9. บ้านชมง ตำบลนนทรี อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด  และ 10. ช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านปวด จังหวัดบุรีรัมย์

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มปิด ช่องทางท่องเที่ยวขึ้นเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และ จุดผ่อนปรนตามเมืองธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ด้วย โดยหน่วยงานความมั่นคงจะมีการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงเย็นวันนี้ และจะมีการประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงและผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระยะยาว

ผู้สื่อข่าว จ.สระแก้ว รายงานว่า ภายหลังทางการไทยเตรียมเปิดด่านดังกล่าว ที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว บรรยากาศที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังคงมีประชาชนชาวกัมพูชาและประชาชนชาวไทยเดินทางข้ามเข้า-ออก ยังประเทศไทย ซึ่งมีค่อนข้างบางตาลง คาดว่า เป็นเพราะเศรษฐกิจและจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการปิดด่านแต่อย่างใด โดยพบว่า เป็นรถยนต์ของชาวกัมพูชาที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ ที่ขับข้ามไป-มาในฝั่งประเทศไทย เพราะเข้ามาดูร้านค้าที่ค้าขายในฝั่งนี้เป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านคอยตรวจบุคคลและตรวจยานพาหนะเข้า-ออก ตามปกติ เพื่อป้องกันการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายข้ามแดน ทั้งนี้ ในส่วนด้านจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีตลาดการค้าชายแดน อาทิ ตลาดโรงเกลือ ซึ่งมีชาวกัมพูชา ส่วนใหญ่เข้ามาค้าขายและรับจ้างทำงานกันส่วนมาก ยังคงติดตามสถานการณ์กระแสการปิดด่านกันอย่างต่อเนื่อง หากมีการปิดด่านจริง จะส่งผลต่อชาวกัมพูชาที่ต้องเดินทางมาค้าขายฝั่งประเทศไทยในพื้นที่ตลาดโรงเกลืออย่างมาก เนื่องจากผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 90 เป็นผู้เช่าที่เป็นชาวกัมพูชา

ขณะเดียวกัน นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงกระแสการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ดีอยู่จะปิดทำไม ทางฝ่ายความมั่นคงอาจจะคิดผิด ประเทศชาติเรายังเหนื่อยอยู่เลย ข้าราชการยังมีเงินเดือนกิน แต่พ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้านไม่มีเงินเดือน จะเอาอะไรกิน ขณะนี้ตนได้สอบถามไปยังฝ่ายทหารบอกว่า ยังไม่มีอะไร ยังไม่มีคำสั่งให้ปิด ส่วนฝั่งกัมพูชาเองก็ยังไม่มีอะไร ไม่รู้จะปิดไปทำไม่

\”ช่วงสมัยที่มีการสู้รบกรณีเขาพระวิหาร ก็ไม่มีการปิดด่านชายแดน ปัญหาเกิดที่ไหนควรจะไปแก้ตรงนั้น การปิดด่าน ถือว่า ทำขั้นรุนแรงเกินไป ต้องเห็นแก่ พ่อค้า ประชาชน คนชายแดนด้วย หากจะมีการปิดจริง หน่วยงานความมั่นคงจะทำต้องปรึกษาทุกฝ่าย ต้องคุยกัน ตรงนั้นมีปัญหาก็ต้องไปคุยกันให้จบ ๆ กัน ชาวบ้านอีก 70 กว่าล้านคน ต้องกินต้องใช้ หาเช้ากินค่ำ มันจะกระทบไปทั่ว ถ้าเราเกเรไปปิด แล้วเราจะขายของให้ใคร ทุกวันนี้เราส่งของไปขายปีละ 1 แสนกว่าล้าน เราซื้อของเค้าแค่ 1-2 หมื่นล้าน ถ้าปิดเรากระทบแน่ อยากให้หน่วยความมั่นคงคิดใหม่ เพราะถ้าเราปิดเค้าก็ออกไปทางอื่นได้ เค้าสามารถออกทางเรือได้ เขาก็ซื้อของจากที่อื่น ถ้าฝ่ายความมั่นคงฯ คิดอะไรขอให้คิดดี ๆ ก่อน\”  นายบำรุง กล่าว

——————————-

ข่าวโดย/ธนภัท กิจจาโกศล ,รักพงษ์ กิตติวรเมธี ทีมข่าวสระแก้ว