นายกเผด็จ​ฯโต้เดือด ท้ามือร้องเปิดหน้า หลังบุกห้องผู้ว่าฯตามเรื่องร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่​คดีฮั๊วประมูล

นายกเผด็จ​ฯโต้เดือด ท้ามือร้องเปิดหน้า หลังบุกห้องผู้ว่าฯตามเรื่องร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่​คดีฮั๊วประมูล ยืนยันปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตโปร่งใส หากพบเห็นกระทำผิดแจ้งความดำเนินคดีได้เลย

วันที่ 12 ก.พ.68 ที่ จังหวัด​อุทัยธานี​ จากกรณีที่​ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์​ ที่ผ่านมา ได้มีนายเอ (นามสมมุติ)​ ได้เดินทางมายื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เพื่อขอพบตัวผู้ว่าราชการจังหวัด​ หลังจากที่​ตนเองได้มีการยื่นหนังสือร้องเรียนก่อนหน้านี้ต่อ ปปช.จังหวัดอุทัยธานี แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้า​ เกี่ยวกับที่ทาง นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ไม่หยุด​ปฏิบัติหน้าที่​ แม้ทาง ปปช.ได้มีการชี้มูลความผิดและศาลชั้นต้นยกฟ้อง ซึ่งคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ นายเอ จึงเห็นว่า นายเผด็จฯควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561

ซึ่งทาง นายเอ ผู้ร้องเรียนนั้นได้ให้ข้อมูล​ว่า  นายเผด็จฯนั้น ได้รับหนังสือสั่งการจากจังหวัด แต่ไม่รายงานหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ กลับยังปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.อุทัยธานี ผู้ร้องเรียนจึงขอให้ผู้ว่าฯอุทัยธานี สั่งให้นายเผด็จฯ พ้นจากตำแหน่ง และเดินทางไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ ทางนายเอ นั้น ไม่ได้พบกับผู้ว่าราชการจังหวัด​ เนื่องจากผู้ว่าฯนั้นติดประชุมอยู่

\"\" \"\"

โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทาง นายเผด็จ​ นุ้ย​ปรี​ นายก​อบจ.อุทัยธานี​ ได้เปิดเผยข้อเท็จจริง​เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว​ ให้ทางผู้สื่อข่าว​ว่า ต้องขอขอบคุณทางสื่อที่ เปิดช่องทางให้ตนเองนั้นได้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองอยากจะขอชี้แจงว่า ในสมัยที่ตนเองนั้นดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.อุทัยธานี มาตั้งแต่พ.ศ 2547-2548 ได้มีการร้องเรียนในเรื่องของการฮั้วประมูลเกิดขึ้นจนต่อเนื่องมา เป็นเรื่องตามกฎหมายพรบ.ปปช.ปี พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นกฎหมายเก่า ซึ่งกฎหมายของ ปปช.นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัว คือปีพ.ศ 2542 จะเป็นกฎหมายเก่า และปีพ.ศ 2561 เป็นกฎหมายใหม่

ซึ่งข้อกฎหมายเก่าในช่วงนั้น ได้มีการชี้มูลตนเองเมื่อประมาณ ปี พ.ศ 2559 ก่อนได้มีการสั่งฟ้องตนเองเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 ซึ่งเป็นการสั่งฟ้องตนเองตามกฎหมายเก่า กรณีข้ามวาระสมัยนั้น ทางปปช.ไม่ได้มีการขอให้ตนเองหยุดดำเนินหน้าที่

พอมาปี พ.ศ 2565 ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ซึ่งหมายถึงว่าตนเองนั้นไม่ได้มีความผิดในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเมื่อได้มีการยกฟ้องแล้วนั้น ทางปปช.ได้มีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งในการอุทธรณ์ของปปช.นั้น ก็ไม่ได้มีการขอให้ตนเองหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด และพอมาถึงปี พ.ศ 2567 ตนเองได้มาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.อุทัยธานี อีกสมัย ซึ่งก็ผ่านคุณสมบัติของทาง กกต. ซึ่งตอนนั้นก็ได้มีการร้องเรียนมาเหมือนกันว่าคุณสมบัติของตนเองไม่ควรได้ ผ่านทางกกต.กลางมาแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งตนเองนั้นก็ได้กลับมาดำรงตำแหน่ง เป็นนายก อบจ. อีกสมัย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ปี 2567 และรับรองเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม​ 2567​  ที่ผ่านมา

ซึ่งหลังจากรับรองแล้วตนเองก็ได้กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แถลงนโยบายสภา และกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เมื่อศาลยกฟ้องแล้ว ตนเองก็ถือว่าไม่มีความผิด ถึงแม้ว่าทางคดีจะยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากเป็นกรณีที่ทางปปช.นั้นได้ยื่นอุทธรณ์ แต่ก็ไม่ได้มีการขอให้ตนเองนั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้กล่าวไว้เมื่อข้างต้น ตามหลักแล้วถือว่าตนเองนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ยังไม่มีความผิด ยังไม่ได้มีความผิดในเรื่องใดเกิดขึ้น และทางผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นก็ไม่ได้มีหนังสืออะไรส่งมาให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด เมื่อพี่น้องประชาชนเลือกตนเองมา ตนเองก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับต่อไป ยืนยันว่าตนเองปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตโปร่งใส หากเห็นว่าตนเองกระทำผิดตรงไหนสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับตนเองได้เลยทันที อยากให้คนที่ร้องเปิดหน้าออกมาพูดเลยว่าเป็นใคร มาหาตนเองก็ได้ รวมไปถึงทุกสื่อทุกช่อง ตนเองยินดีที่จะให้ข้อมูลเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ได้รับทราบว่าเป็นเช่นไร

เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ตนเองนั้นได้รับความเสียหายด้วยเหมือนกัน ซึ่งหลังจากที่ได้มีคำพิพากษายกฟ้องออกมาแล้วนั้น ตนเองก็ได้มีการฟ้องกลับ ผู้ที่ได้มีการร้องเรียนตนเอง เมื่อปีพ.ศ 2547-2548 ซึ่งตอนนั้น ผู้ที่ร้องเรียนตนเองนั้นก็ได้มีการขอขมาตนเองในศาลที่จังหวัด​พิษณุโลก​ และได้มีการให้เงินเยียวยาตนเองมาแล้วด้วยเช่นกัน