นันทศักดิ์ วัฒนพานิช

สวนทุเรียนศักฎาทรัพย์ หมอนทองเกรดพรีเมี่ยม เจ้าของเผยไถสวนยางทิ้งเพราะได้เงินยากแถมราคาตกหันมาปลูกทุเรียนหมอนทอง พื้นที่รอบเขาปลาร้าเป็นดินภูเขาไฟมีแร่ธาตุสูงทำให้พูใหญ่เนื้อนุ่ม คนแห่จองล่วงหน้าก่อนที่จะออกเพราะติดใจรสชาติ เวลา 17.00 น.วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังสวนทุเรียนศักฎาทรัพย์ โดยนายสำเริง ศักฎาทรัพย์ อายุ 58 ปี สวนนั้นตั้งอยู่ที่ 96/2 หมู่ที่ 8 บ้านร่องตะเคียนเตี้ย ตำบลเขากวางทอง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ได้เปิดเผยเรื่องราวก่อนจะมาเป็นสวนทุเรียนว่าก่อนหน้านี้ได้ทำสวนยางแต่เนื่องจากการปลูกต้นยางนั้นได้เงินช้ากว่าจะกรีดก็ต้องใช้เวลาแถมยังราคาตกต่ำมากเสียทั้งทุนไม่เคยได้กลับคืนมาเลยจึงโค่นสวนยางทิ้ง และปลูกทุเรียนพันธ์หมอนทอง ในพื้นที่ 2 ไร่กว่า จำนวน 80 ต้น และตอนนี้ผ่านมา 4 ปีกว่าแล้วกำลังออกผลอย่างดงาม โดยสวนศักฎาทรัพย์แห่งนี้โอบล้อมด้วยเทือกเขาปราร้าและดินนั้นมีแร่ธาตุหรืออาหารที่ส่งผลให้ทุเรียนนั้นโตไวซึ่งที่เรียกกันว่าดินภูเขาไฟซึ่งแถวภาคอิสานที่มีดืนแบบนี้ก็ปลูกทุเรียนได้ผลกันเยอะมาก ดินนั้นจะเป็นสีแดง โดยในปีนี้ถือว่าเปิดสวนให้จองทุเรียนอย่างเป็นทางการ ขายกิโลกรัมละ 150 บาท ในตอนนี้ยอดสั่งจองนั้นแทบจะไม่พอขายเลย โดยต้องบอกผู้ที่จองให้รอทุเรียนนั้นแก่ได้ที่ก่อน แถมยังปลูกเงาะไว้อีกด้วยเพื่อเก็บขายควบคู่ไปกับทุเรียนซึ่งเงาะพันธ์โรงเรียนนั้นก็ดกอย่างมาก ซึ่งสวนแห่งนี้ไม่ใช้สารเคมีใช้ปุ๋ยชีวะภาพที่ทำการลองผิดลองถูกลงมือทำเองเพื่อป้องกันแมลงและโรคต่างๆเพื่อให้ผู้ที่มาซื้อนั้นมั่นใจว่ามีมีสารอะไรตกค้างในร่างกายเวลาซื้อทุเรียนไปอย่างแน่นอน นายสำเริง ยังเปิดเผยว่าทุเรียนของตัวเองนั้นพูใหญ่มากและเมล็ดเล็กแถมยังเปลือกบางอีกด้วย ส่วนเนื้อนั้นเกรดระดับพรีเมี่ยมนุ่มหอมละมุนลิ้น ซึ่งก็แล้วแต่ว่าลูกค้าจะชื่นชอบกินแบบไหนก็จะคัดให้ไป บางคนก็ชอบแบบกรอบนอกนุ่มในบางคนก็ชอบแบบสุกมากๆ ซึ่งผลพวงของดินที่ดีหรือดินที่เรียกว่าภูเขาไฟนั้นทำให้ทุเรียนออกผลอย่างดงามรสชาติดีอย่างมาก โดยทางนายสำเริง เจ้าของสวนผ่าทุเรียนให้ทีมข่าวดูและลองชิมพูนั้นใหญ่มากส่วนเนื้อนั้นอร่อยที่เรียกกันว่าเนื้อไก่ฉีกจะไม่มีใยหรือเส้นใยอะไรมารบกวนเวลากินแถมเมล็ดนั้นเล็กมาก ซึ่งเป็นการปลูกทุเรียนได้อย่างประสพความสำเร็จและดีใจมากที่เริ่มขายได้แล้วดีกว่าทำสวนยางเหมือนก่อนเยอะเรียกได้ว่าหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว […]

ชาวนาหนีข้าวถูกหันมาปลูกดาวเรืองส่งขาย กลับได้แค่ดอกละ 10 สตางค์​ หวังได้เงินใช้หนี้ แต่กลับได้หนี้เพิ่มมาอีกก้อน วอนรัฐ​ช่วยดูแลราคาสินค้าเกษตรทุกวันนี้ต่ำลงทุกอย่าง        เวลา 08.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม25.68 ที่ จังหวัด​อุทัยธานี​ ผู้​สื่อข่าว​ได้รับทราบความเดือดร้อน​ของเกษตร รายหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านหนองขุนทอง ตำบล​หนองนางนวล อำเภอ​หนองฉาง​ จ.อุทัยธานีได้เปิดเผยเรื่องราวสุดเศร้าใจของคนทำอาชีพเกษตรกร หลังหนีราคาข้าวที่ตกต่ำทำแล้วไม่คุ้มทุน หันมาปลูกดอกดาวเรืองส่งขาย หวังมีเงินใช้ลืมตาอ้าปาก​ แต่สุดท้ายไม่เป็นอย่างหวัง หลังราคาดาวเรืองรับซื้อต่ำสุดเพียงดอกละ 10 สตางค์​เท่านั้น รวมแล้ว 100 ดอก จะได้เงินแค่ 10 บาทเท่านั้น ทำให้ขาดทุนหนักซ้ำเติม​ ตัดสินใจยอมแพ้ไม่ขอสู้ทำต่อ ปล่อยดาวเรืองที่เหลือทิ้งยกสวน โดย นางสำเริง อินทนู อายุ 50 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองนั้นประกอบอาชีพทำนา แต่ด้วยราคาข้าวที่ถูกลงมากทำให้ไม่คุ้มทุน เลยตัดสินใจลองเปลี่ยนมาปลูกดอกดาวเรืองส่งขาย เพราะเห็นว่ามีเกษตรกรในหมู่บ้านหลายรายที่ปลูกแล้วได้เงินดี แต่สุดท้ายราคาดอกดาวเรืองกลับถูกยิ่งกว่าข้าว โดยตนเองได้ในเนื้อที่ 1 ไร่