นันทศักดิ์ วัฒนพานิช

เปิดเทอมวันแรกประเพณีเกาะรั้วส่องลูกกลับมาอีกครั้งโรงเรียนอนุบาลตักไข่ปลาพาโชคมอบรางวัลให้กับนักเรียนที่มาเช้า ผู้ปกครองว้าวุ่นเพราะห่วงยืนเฝ้าลูกแทบจะเข้าห้องเรียนด้วย เวลา 07.00 น.วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 หน้าโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี เป็นวันเปิดเทอมวันแรก โดยทางผู้ปกครองนั้นทยอยมาส่งลูกเข้าโรงเรียน และที่เห็นกันจนแทบเป็นประเพณีก็คือหลังจากที่ลูกนั้นเข้าโรงเรียนแล้วก็ต่างเกาะรั้วชะเง้อดูลูกเพราะความเป็นห่วงนั่นเอง และในวันนี้ทางโรงรียนได้โรงเรียนได้เซอร์ไพรนักเรียนที่มาโรงเรียน โดยได้จัดกิจกรรมตักไข่ปลาลุ้นโชค แจกของขวัญให้กับเด็กนักเรียน ที่หน้าโรงเรียน   ซึ่งช่วยสร้างสีสัน ความสุขและเสริมบรรยากาศในการเรียนหลังจากที่ ตักไข่ปลาลุ้นโชคก็นำไปแลกรางวัล ทั้งหมด 800 รางวัลจากนักเรียนทั้งหมด 1500 คน  ของรางวัลที่แจก เช่น ของของกิ๊ฟชอป ยางมัดผม อุปกรณ์การเรียน ดินสอ ยางลบ สมุด กล่องดินสอ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเด็กที่ได้รางวัลต่างก็ดีใจมากต่างก็ยิ่มแย้มบรรยากาศคึกคักอย่างมาก นายสมเกียรติ มาแก้ว ผู้อำนวยการในวันนี้ เปิดเทอมวันแรก เลยอยากจะสร้างสีสันในการมาโรงเรียนวันแรก ให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น อยากมาโรงเรียน หลังจากที่ปิดเทอมไปนาน เลยจัดกิจกรรมลุ้นโชค มีความสุข ซึ่งนักเรียนคนไหนมาเช้าก็จะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล ช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจและให้นักเรียนอยากมาเรียนตั้งแต่เช้า ขณะเดียวกันนางสาวกุลธิดา อ่อนมี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี (เขต 1 […]

ร้านรับซ่อมเสื้อผ้านำชุดนักเรียนไปแก้เพื่อผู้ปกครองแห่ไปร้านความประหยัดเพราะบางครอบครัวมีลูกหลายคนส่วนร้านขายชุดนักเรียนคึกคักจนร้านแน่นทุกวันเนื่องจากไกล้เปิดเทอมแล้วเจ้าของร้านเผยปีนี้ชุดนักเรียนนั้นขึ้นราคาตัวละ 5 บาทแต่ยังคงปักชื่อฟรี เวลา 08.00 น.วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านรับซ่อมแซมเสื้อผ้าของนางสุธิวรรณ มานะเสถียร์ อายุ 65 ปี ตั้งอยู่ที่ ถนนเปรมประชา อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยเปิดเผยว่าในตอนนี้บรรดาผู้ปกครองนั้นนำชุดนักเรียนมาให้แก้ไซค์ของชุดกันเยอะมากกว่า 200 ตัวแล้วในตอนนี้และส่วนใหญ่ผู้ที่นำชุดมาแก้นั้นจะเป็นครอบครัวที่มีลูกเยอะ โดยนำชุดของพี่ที่เลื่อนชั้นไปแล้วมาแก้ให้น้องใส่เพื่อที่ต้องการประหยัดกันนั่นเองจะได้ไม่ต้องไปซื้อชุดใหม่กันเนื่องจากในช่วงเปิดเทอมต้องใช้เงินกันเยอะมาก โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นลูกค้าประจำที่ใช้บริการกันมาตลอด ซึ่งในตอนนี้นั้นต้องเร่งงานเพื่อให้ทันเปิดเรียนกันโดยมีสามีมาช่วยเย็บจักรทั้งกลางวันและกลางคืนโดยราคาที่รับแก้ไซส์กระโปรงนักเรียนหรือแก้เอวก็คิดตัวละ 40 บาท เท่านั้น ส่วนกางเกงก็ราคาเดียวกันแต่ถ้าหากแก้ทั้งตัวก็ราคาจะสูงขึ้นไปแต่อย่างไรก็ไม่เกิน 100 บาทดีกว่าไปซื้อใหม่ซึ่งราคา 200 กว่าขึ้นไปแล้ว ขณะเดียวกันที่ร้านที่ร้านกนกวรรณ บูติค ตั้งอยู่ที่ท่ารถ บขส.อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี เป็นร้านขายชุดนักเรียนและชุดเครื่องแบบข้าราชการบรรดาผู้ปกครองพาลูกมากันจนแน่นร้านเพื่อมาลองชุดนักเรียนและรองเท้านักเรียนให้พอดีกับตัว โดยทางนางสาววนิดา บุญวรนุช เจ้าของร้านบอกว่าในปีนี้ราคาชุดนักเรียนขยับขึ้นมาตัวละ 5 บาท ยกตัวอย่างเช่นเสื้อนักเรียนหญิงจากเดิมตัวละ 250 บาทก็ขึ้นเป็น 255 บาท ซึ่งทางโรงงานที่ตัดชุดมาส่งนั้นบอกเหตุผลว่าในตอนนี้ข้าวของและอุปกรณ์ที่นำมาตัดชุดนักเรียนแพงมากขึ้นมากจึงขยับราคาขึ้นมา ซึ่งทางผู้ปกครองก็เข้าใจเพราะราคานั้นไม่ขึ้นเยอะมาก โดยช่วงตั้งแต่กลางเดือนเมษายนมาถึงเดือนพฤษภาคม ร้านนั้นก็คนแน่นทุกวันเพราะไกล้เปิดเทอมแล้วซึ่งจะเปิดพร้อมกันในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568

ข้าวไข่เจียวบุฟเฟต์ขวัญใจเด็กๆ และคนทำงานยามเช้ายันไม่ขึ้นราคาถึงแม้ราคาไข่ไก่จะปรับขึ้นไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ยังคงราคาเดิมถึงแม้กำไรน้อยแต่ได้ขายความสุขและรอยยิ้มของคนที่มาซื้อ เวลา 08.00 น.วันที่ 23 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านไข่เจียวบุฟเฟต์ ตั้งอยู่บริเวณหน้าเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาสวนสองร้อยปี ถนนศรีน้ำซึม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งนายรณชัย หรือ นายมูบาร๊อค หนุ่มมุสลิม และแฟนสาวนั้นพลัดเปลี่ยนกันมาขาย จะเปิดร้านตั้งแต่เวลา 07.30-09.30 น.ทุกวัน ซึ่งเปิดเผยว่าถึงแม่ราคาขาไก่จะขยับขึ้นราคาก็ยังคงขายข้าวไข่เจียวบุฟเฟต์ราคาเดิมก็คือ ไข่เจียวราดข้าว 1 ฟอง กล่องละ 25 บาท แถมลูกค้ายังเลือกใส่ท็อปปิ้งให้ใส่ลงในไข่แล้วแต่จะเลือกกันมากมาย เช่น ไส้กรอกไก่ กุนเชียงปลา ปูอัด ไก่สับ ไก่ยอและอีกมากมาย ส่วนผักก็เช่นกัน มีให้เลือกใส่ลงในไข่เจียว ตั้งแต่ ข้าวโพด หัวหอมซอย ต้นหอมซอย มะเขือเทศ พริกสดซอย  แครอท ชะอม ซึ่งเลือกได้ตามใจชอบ ส่วนราคาพิเศษไข่ 2 ฟองราดข้าวก็จะคิดเพียง 35 บาท โดยขายราคานี้มากว่า 2 ปีแล้ว

มูลนิธิแม่ขาวทองแจกจ่ายหมูแดดเดียวและข้าวโพดให้กับผู้ยากไร้สร้างรอยยิ้มในวันสงกรานต์ เวลา 09.00 น.วันที่ 16 เมษายน 2568 ที่มูลนิธิแม่ขาวทอง หมู่ที่ 3 บ้านล่อมอ้ายหมอง ตำบลหนองไผ่แบน อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ได้นำหมูแดดเดียวและข้าวโพดสดๆเพื่อมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ยากไร้และผู้ที่ชรา โดยมีชาวบ้านนั้นต่างก็มายืนรอรับกว่า 100 คน โดยทางนายจักรรินทร์  เถระปัญญาและผองเพื่อนที่นับถือเจ้าแม่ขาวทอง หมอดูเลื่องชื่อที่โด่งดังในโลกโซเชียล นั้นตั้งใจในช่วงสงกรานต์นั้นอยากจะทำบุญจึงได้ช่วยกันลงทุนลงแรงซื้อหมูมาหมักทำเป็นหมูแดดเดียวซึ่งแจกคนละครึ่งกิโลกรัม เพราะในช่วงนี้นั้นหมูนั้นมีราคาสูงขึ้นอย่างมากกิโลกรัมละ 180 บาท จึงเป็นแนวคิดของการทำหมูแดดเดียวขึ้นมาซึ่งพอได้ไปแล้วผู้ที่รับก็จะนำไปทอดเป็นกับข้าวได้เลยแถมยังมีข้าวโพดสดๆให้นำไปต้มคนละ 1 ถุงใหญ่ๆอีกด้วยเพื่อให้นำไปต้มกินกัน ซึ่งผู้ที่มารับของนั้นต่างก็ยิ้มแย้มและขอบคุณผู้ใจบุญที่มีน้ำใจให้กับผู้ยากไร้กัน โดยที่ผ่านมานั้นไม่ว่าจะเป็นเทศกาลอะไรก็จะเรียกชาวบ้านมารับของ แต่ก็ผลัดเปลี่ยนของที่แจกจ่ายกันไปบางทีก็เป็นข้าวสารอาหารแห้งและเครื่องปรุงในครัวเรือน ซึ่งผู้ที่เลื่อมใสและศรัทธานั้นต่างก็มาร่วมทุนทรัพย์กันเพื่อแจกขแงให้กับผู้ยากไร้อย่างน้อยให้ผู้ที่มารับของนั้นมีรอยยิ้มเพราะได้กินของอร่อยกันเป็นการลดค่าใช้จ่ายอีกด้วยทั้งนี้ชาวบ้านนั้นต่างก็กล่าวคำขอบคุณและซึ้งใจมากที่มีผู้ใจบุญเห็นคุณค่าของผู้ยากไร้เหล่านี้

  โรงพยาบาลทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี จัดกิจกรรมนิมนต์พระสงฆ์เจริญพุทมงคล และรับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และให้ผู้ป่วยนอนเตียงใสบาตร พร้อมจัดรดน้ำพระพุทธรูปประทานพรเป็นสิริมงคลและสืบสานเทศกาลวันสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทย วันที่ 11 เมษายน 2568 นายแพทย์วิศิน โพธิพฤกษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระภิกษุจำนวน 7 รูป จากวัดทัพทัวัฒนาราม เจริญพระพุทธมนต์ที่รับนิมนต์จาก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทัพทัน ได้ถวายอาหารปิ่นโต และนำเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วย ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งยังได้นิมนต์พระสงฆ์ ออกรับบิณบาตรตามตึกผู้ป่วยใน เพื่อให้ผู้ป่วยที่นอนเตียงพักรักษาตัว และ ญาติผู้ป่วย เพื่อความเป็นสิริมงคลและสืบสานเทศกาลสงกรานต์ เนื่องในวันปีใหม่ไทย นอกจากนี้โรงพยาบาลทัพทันยังได้นำพระพุทธรูปประจำโรงพยาบาลออกไปประดิษฐานให้ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันสรงน้ำพระเพื่อสิริมงคลตามประเพณี อันดีงามของไทย กิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและญาติๆที่จำเป็นต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทัพทัน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้มีโอกาสร่วมประเพณีสงกรานต์ เช่นเดียวกับชาวไทยคนอื่นๆ บรรยากาศเปี่ยมด้วยความสุขทั่วหน้า ทั้ง ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทัพทันทุกคน อีกด้วย