ผู้ใจบุญรวมกลุ่มกันเปิด”ร้านมีข้าว” ไม่ได้ขายแต่แจกฟรีเนื่องในวันไหว้เจ้าหรือตรุษจีน

ใจบุญรวมกลุ่มกันเปิด”ร้านมีข้าว” ไม่ได้ขายแต่แจกฟรีเนื่องในวันไหว้เจ้าหรือตรุษจีนแถมมีอั่งเอาติดมือกลับบ้านต่างไหว้ขอบคุณ

เวลา 19.00 น.วันที่ 28 มกราคม 2568  ที่บริเวณทางเข้า ทางแยกเข้าศาลเจ้าแม่ขาวทอง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองไผ่  อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี แบน   ถนนอุทัยธานี-โกรกพระ คนในชุมชนที่รวมกลุ่ม ในชื่อว่า \”ลูกแม่ขาวทอง\”  โดยการนำของ  คุณวงศ์เกษม หรือ คุณโจ๊ก   ประธานมูลนิธิแม่ขาวทองและนายจักรรินทร์ เถรปัญญา ผู้บริหการอาณาจักรบ๊องร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นชื่อดีงของจังหวัดและบรรดาเพื่อนและชาวบ้านต่างร่วมมือร่วมใจกันเปิดร้านข้าวต้มที่ใช้ชื่อว่า “ร้านมีข้าว”ขึ้น โดยใครที่ผ่านไปมาก็สงสัยว่าต้องเป็นร้านข้าวต้มเปิดใหม่อย่างแน่นอนเลย แต่พอแวะดูจึงรู้ว่าเป็นร้านข้าวต้มที่แจกฟรีจึงมารับประทานกันจนแน่นร้าน โดยทางคุณโจ๊กเปิดเผยว่า ตั้งใจอยากจะทำบุญใหญ่สักครั้งจึงปรึกษากับบรรดาเพื่อนๆและชาวบ้านในชุมชน ว่าจะทำร้านข้าวต้มเป็นเวลา 5 วันก็คือ วันที่ 27 ถึงวันที่ 31 มกราคม เนื่องในช่วงไหว้เจ้าหรือเทศกาลตรุษจีนนั่นเองโดยทุกวันเมนูจะไม่ซ้ำกันอีกด้วยเนื่องจากกลัวว่าจะเบื่อกันเช่นในวันนี้  มีเมนู ข้าวต้มกุ๊ยใบเตย  ต้มซุปเปอร์ตีนไก่ ผัดแขนงน้ำมันหอย ผัดคะน้าน้ำมันหอย  ไชโป๊ผัดไข่  ยำไชโป๊สามรส ยําไข่เค็ม ยำไข่เยี่ยวม้า  ผัดผักบุ้งไฟแดง ผัดคะน้าปลาอินทรีย์ และผัดกระเฉดน้ำมันหอย ซึ่งผู้ที่สัญจรไปมาหรือผู้ที่ผ่านมารวมถึงชาวบ้านในหมู่บ้านต่างก็มาแวะเวียนกันจนต้องยืนรอคิวกันเลยทีเดียว

โดยจากการสอบถามผู้ที่มากินต่างบอกว่าอร่อยมากซึ่งรสชาตินั้นไม่แพ้ร้านข้าวต้มดังๆในเมืองเลยแถมยังเติบกันแบบไม่อั้นอีกด้วยต่างก็ขอบคุณผู้ใจบุญที่เลี้ยงข้าวต้มฟรีๆแบบนี้ ซึ่งต่างก็ยกครอบครัวมากินกันหมดบ้านเลยก็มี แถมวัตถุดิบที่นำมาทำเช่นผักต่างๆก็ซื้อมาจากของชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเพื่อเป็นการอุดหนุนคนในชุมชน ซึ่งโดยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังปลากด  และกลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลหนองไผ่แบนก็นำผักมาให้อีกด้วย ซึ่งชาวบ้านบางคนนั้นก็ใจดีรู้ว่าจะนำมาทำอาหารเพื่อแจกฟรีก็ให้มากันมาก็มีแถมยังมาช่วยงานกันอีกด้วนยที่ร้านข้าวต้ม ซึ่งจะเปิดในเวลา 17.00 น.ทุกวันไปจนว่าของจะหมด ซึ่งต่างก็อนุโมธนาสาธุบุญในครั้งนี้ซึ่งกลุ่มลูกแม่ขาวทองไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนอะไรแต่อยากให้ผู้ที่มากินนั้นมีความสุขกันถ้วนหน้ามีรอยยิ้มกลับบ้านกันไป

ขณะเดียวกัน ทางคณะกรรมการมูลนิธิแม่ขาวทองและศาลเจ้าพ่อเสือยังได้แจกอั่งเปากันอีกด้วยให้กับผู้ที่มานั่งกินข้าวต้มและให้ครบทุกคน แต่ก็ต้องลุ้นกันว่าใครจะได้มากได้น้อย โดยบางคนนั้นได้อั่งเปาซองละ 2,000 บาท บางคนก็ได้ไป 500 บาท บางคนก็ได้ไป 1,500 บาท ซึ่งคุณโจ๊คบอกว่าขอให้อั่งเปาที่แจกนั้นไปเป็นทุนการศึกษาให้ลูกให้หลานหากเป็นผู้สูงอายุก็นำไว้ใช้ซื้อข้าวของที่จำเป็นนั่นเอง ซึ่งผู้ที่มากินข้าวต้มนั้นทั้งอิ่มท้องแถมได้อั่งเปากลับไปบ้านกันอีกด้วยต่างรู้สึกซาบซึ้งผู้ใจบุญอย่างมาก และในวันพรุ่งนี้นั้นจะมีเมนูส้มตำอีกด้วยส่วนเมนูหรืออาหารอื่นทางกลุ่มก็กำลังคิดกันอยู่ ซึ่งหากใครผ่านมาก็ขอให้แวะมากินกันได้แบบฟรีๆได้เลยจนกว่าจะถึงวันที่ 31 มกราคม เลยทีเดียว โดยที่ผ่านมานั้นทางมูลนิธิแม่ขาวทอง นั้นช่วยเหลือคนในหมู่บ้านมาตลอดบางครั้งก็แจกจ่ายข้าวสารอาหารแห้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ยากไร้อีกด้วย