นันทศักดิ์ วัฒนพานิช

คืบหน้ารถบบรรทุกชนเสาไฟฟ้าแรงสูงไฟดับทั้งจังหวัด

คืบหน้ารถบบรรทุกชนเสาไฟฟ้าแรงสูงไฟดับทั้งจังหวัด กว่าจะจ่ายไฟได้เต็มระบบได้เกือบตี 3 ขณะที่ล่าสุดเช้าวันนี้ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ชุดปักเสาพาดสายจากจังหวัดใกล้เคียงเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 16.30 น.วันนี้ ด้านคนขับรถบรรทุกล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป เวลา 09.00 น.วันที่ 28 มีนาคม 2568  นายประเวศน์ กวางแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการ ด้านเทคนิค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดอุทัยธานี กล่าวถึง เหตุรถบรรทุกชนเสาไฟฟ้าที่บริเวณหน้าปั๊มบางจาก ถนนทางหลวงหมายเลข 333 ในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ( เวลา 22.30 วันที่ 27 มี.ค. ) ได้สร้างความเสียหายเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 1 ต้น และเสาไฟฟ้าแรงต่ำหักโคล่นอีก 1 ต้น ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทุกอำเภอของจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีการเร่งแก้ไขให้ไฟติดได้ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชม. แต่ยังไม่เต็มระบบไฟฟ้าจะไม่สามารถติดได้ครบถ้วน และมีการแก้ไขเป็นการชั่วคราวเกือบตลอดทั้งคืนจนถึงเวลา 02.30 น.จึงสมารถทำให้ไฟฟ้าติดได้ตามปกติ แต่เป็นการแก้ไขชั่วคราว ล่าสุดช่วงเช้า ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทั้งในจังหวัดอุทัยธานีจากทุกอำเภอ และเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าจากจังหวัดใกล้เคียง ที่เป็นชุดปักเสาพาดสาย นำเสาไฟฟ้าต้นใหม่ และอุปกรณ์ในส่วนที่เกี่ยวข้อง […]

คืบหน้ารถบบรรทุกชนเสาไฟฟ้าแรงสูงไฟดับทั้งจังหวัด Read More »

รถบรรทุกชนเสาไฟฟ้าแรงสูงไปดับทั้งจังหวัด

รถบรรทุกชนเสาไฟฟ้าแรงสูงไปดับทั้งจังหวัด คนขับอาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำรถเครนมายกเสาไฟฟ้าไฟดับ 3 ชั่วโมง ส่งผลให้ร้านขายของประเภทของสดเดือดร้อนเสียหายหนักทั้งนี้ต้องรอว่าใครจะมาแจ้งความว่าเกิดความเสียหายมากหรือน้อย เวลา 22.30 น.วันที่ 28 มีนาคม 2568 บริเวณถนนสาย 333 หน้าปั้มบางจาก ซึ่งเลยสี่แยกไฟแดงวัดสังกัสรัตนคีรีมาประมาณ 200เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตรวิ่งมาด้วยความเร็วสูงแล้วเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าจนเพลาหน้านั้นหลุดออก โดบนนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีได้รุดมายังที่เกิดเหตุเพื่อสั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาโดยการนำรถเครนขนาด 35 ตัน ของ หจก.สหขนส่ง จำกัดและรถของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดอุทัยธานี มาช่วนนำเสาไฟฟ้าให้ออกจากตัวรถบรรทุก ท่ามกลางคนที่มามุงดูเหตุการณ์กันเยอะมาก ซึ่งผู้ขับรถบรรทุกข์นั้นทาง นายชัยพร แซ่ตัน จ้าหน้าที่อาสามูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานีเปิดเผยว่าพอมาเกิดเหตุรถบรรทุกไม่ทราบชื่อคนขับ ทะเบียน 81-3976 อุทัยธานี เป็นรถบรรทุกพืชผลของการเกษตรคนขับนั้นมีอาการสาหัส เจ็บและแน่นหน้าอกและหายใจแล้วเหนื่อย ซึ่งคนขับนั้นกระเด็นออกมานอกรถบรรทุกทะลุกระจกออกมาเพราะชนเข้าอย่างจังกับเสาไฟฟ้าแรงสูง จากนั้นก็เร่งช่วยคนขับนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาล ซึ่งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้นายพรชัยฟังว่ารถบรรทุกมาด้วยความด้วยความรวดเร็วมากและชนนั้นมีเสียงสั่นดังไปทั่วอำเภอเมืองจนตกใจกัน และในเบื้องต้นนั้นไม่ทราบว่าจะดื่มสุราหรือเปล่าแต่ตอนช่วยคนขับออกมานั้นไม่มีกลิ่นสุรา โดยในตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลอุทัยธานีอยู่ ซึ่งจากการสังเกตุล้อหน้านั้นมีร่องรอยยางแตกจนเพลาขับเคลื่อนด้านหน้าหลุดออกมาอาจะเป็นสาเหตุให้รถบรรทุกเสียหลักก็ได้ทั้งนี้ทางตำรวจต้องหากล้องวงจรปิดหรือพยานที่เกิดเหตุอีกครั้งว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่ โดยทางเจ้าหน้าที่นั้นใช้เวลาการยกเสาไฟฟ้าแรงสูงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงกว่า จากนั้นไฟฟ้าก็เริ่มติดหรือทางฟ้าส่วนภูมิภาคเริ่มจ่ายไฟเป็นบางส่วน และทางนายธีรพัฒน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้โทรสำรวจพบว่าไฟนั่นดับทั้ง 8 อำเภอ หรือทั่วจังหวัดอุทัยธานีทั้งหมดและแน่นอนผู้ขับรถบรรทุกนั้นจะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทเพราะชนเสาไฟฟ้าจนเสียหายแถมยังมีท่อประปาแตกอีกด้วย ซึ่งไปที่ดับนานกว่า 3

รถบรรทุกชนเสาไฟฟ้าแรงสูงไปดับทั้งจังหวัด Read More »

แล้งส่งผลกระทบฝูงควายเกษตรกรต้องต้อนฝูงควายออกจากคอกไกลกว่าเดิม

แล้งส่งผลกระทบฝูงควายเกษตรกรต้องต้อนฝูงควายออกจากคอกไกลกว่าเดิมเพื่อหาหญ้าหรือตอซังข้าวกินในท้องทุ่งนา เสี่ยงเป็นโรคขาดสารอาหารเพราะควายเริ่มซูบผอมลง เวลา 09.30 น.วันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่บ้านทุ่งกฐิน ตำบลทุ่งนาไทย อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี สถานการณ์แล้งนั้นมาเร็วจนเกษตรผู้เลี้ยงควายนั้นแทบตั้งตัวไม่ทัน ท้องทุ่งนามองไปทางไหนก็มีแต่ความแห้งแล้งผืนดินแตกระแหง ต้นไม้และหญ้าที่ขึ้นอยู่ในนาข้าวนั้นตายกันหมดโดนแดดเผา โดยในตอนนี้ชาวนาในหมู่บ้านดังกล่าวต้องหยุดทำนาหรือการเกษตรเนื่องจากน้ำนั้นไม่เพียงพอที่จะทำ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ของบ้านทุ่งกฐินแห่งนี้นอกจากจะทำนาแล้วยังเลี้ยงควายอีกกันเยอะมาก ซึ่งในตอนนี้ต้องต้อนฝูงควายออกจากคอกแล้วเดินไปหาพื้นที่นาข้าวที่ยังเขียวขจีหรือมีตอซังข้าวหรือหญ้าที่ขึ้นอยู่ในนาข้าว แต่ด้วยควายนั้นต้องกินอาหารทุกวันในตอนนี้พื้นที่นาข้าวก็แทบจะไม่เหลือซังตอข้าวหรือหญ้าแล้วซึ่งเหลือน้อยมากแล้ว และหากไม่มีอาหารก็จำต้องต้อนฝูงควายไปไกลกว่าเดิมเรื่อยๆเพราะเกรงว่าควายนั้นจะซูบผอมลงกว่าเดิมนั่นเอง ขณะเดียวกันที่บ้านโคกโค ตำบลทุ่งนาไทย อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ก็เช่นกันฝูงควายกว่า 50 ตัวมีทั้งลูกควายที่เกิดใหม่หลายตัว ก็จำต้องต้อนฝูงควายเพื่อหาแหล่งอาหารที่อยู่ตามท้องทุ่งนาเช่นกันโดยแหล่งอาหารนั้นก็เหลือน้อยเต็มทีเพราะผู้ที่เลี้ยงควายนั้นต่างก็ต้องนำฝูงควายมากินหญ้าซึ่งก็เหมือนเป็นการแย่งแหล่งอาหารตามธรรมชาติกันอีกด้วย โดยผู้ที่เลี้ยงควายมาเจอกับสภาพแล้งแบบนี้สิ่งที่หลักเลี่ยงไม่ได้นั้นต้องเจอกับโรคควายขาดสารอาหารและจะผอมลงเรื่อยๆ ซึ่งเจ้าของควายก็ภาวนาขอให้ฝนตกลงมาบ้างเพื่อให้หญ้าตามท้องทุ่งขึ้นหรือแตกมาใหม่ แค่เดือนมีนาคมยังแล้งขนาดนี้ซึ่งในช่วงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม จะโดนผลกระทบมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน ผู้เลี้ยงควายหวั่นว่าหากฝนไม่ตกก็จำเป็นจะต้องหาฝางข้าวมากักตุนไว้อย่างน้อยก็ป้องกันควายอดอยากถึงแม้ว่าฝางข้าวนั้นจะเป็นอาหารของควายที่หาได้ง่ายแต่ก็ไม่เหมือนหญ้าซึ่งมีวิตามินหรือสารอาหารครบและมากกว่าฝางจะทำให้ควายนั้นอ้วนขึ้นหากขายก็ได้ราคาอีกด้วย

แล้งส่งผลกระทบฝูงควายเกษตรกรต้องต้อนฝูงควายออกจากคอกไกลกว่าเดิม Read More »

หมูขึ้นรายวันแม่ค้าโอดตลาดสดเงียบเหงาเพราะผู้บริโภคหันไปซื้อหมูร้านสะดวกซื้อ

หมูขึ้นรายวันแม่ค้าโอดตลาดสดเงียบเหงาเพราะผู้บริโภคหันไปซื้อหมูร้านสะดวกซื้อกันหมดเนื่องจากถูกกว่าบางเขียงถึงกับต้องปิดไปก่อนเพราะขืนเปิดขายก็ไม่มีคนเข้ามาซื้อ เวลา 07.30 น.วันที่ 26 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาหมูสดหลังจากที่ผู้บริโภคเข้าไปซื้อแล้วต่างก็บ่นกันว่าหมูนั้นแพงมาก จากการสอบถามนางสาวอุบลรัตน์ กาญจนอุทัย เจ้าของเขียงหมูที่ขายในตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี มากว่า 20 ปี เปิดเผยว่าในตอนนี้หมูนั้นประกาศขึ้นราคามาออย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมูเป็นก่อนเชือดราคาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 97 บาทแล้ว และหมูสดที่ผ่านการชำแหละหรือแยกชิ้นส่วนแล้วราคาก็ขึ้นมาต่อเนื่องเรียกได้ว่าแพงจนผู้บริโภคที่มาซื้อนั้นบ่นกันระนาว โดยหมูเนื้อแดงเดิมทีราคากิโลกรัมละ 160 บาท มาในตอนนี้ขายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 180 บาท ซึ่งขึ้นทีเดียว 20 บาทเลย หมูสามชั้นจากเดิมกิโลกรัมละ 190 บาทขึ้นมาเป็น 200 บาท ส่วนหมูบดไม่ติดมันจากเดิมกิโลกรัมละ  160 ในตอนนี้ขายในราคากิโลกรัมละ 170 บาท  และไม่เพียงเท่านั้นราคาหมูที่ชำแหละมาส่งขายขึ้นกิโลกรัมละ 2 บาท ทุกวันและและอย่างต่อเนื่องซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะประกาศหยุดขึ้นราคา ส่งผลกระทบในตอนนี้ตลาดสดแห่งนี้เงียบเหงา ซึ่งแม่ค้าเขียงอื่นก็บอกว่าตอนนี้ต้องสั่งหมูมาเพื่อให้พอขายเท่านั้นเองไม่เอามาขายครั้งละมากๆ ก็ไม่มีคนซื้อ ขนาดลดจำนวนหมูลงมาก็แทบจะขายไม่หมดกันอยู่แล้วเพราะผู้บริโภคหันไปซื้อหมูร้านชอปกันหมดเพราะมีราคาถูกกว่า แถมยังสะดวกเวลาซื้อแถมยังติดแอร์อีกด้วย โดยในตัวเมืองอุทัยธานีในตอนนี้ก็มีหลายร้านมาก ส่งผลให้ตลาดสดเงียบเหงาอย่างมากบางวันในช่วงกลางวันนั้นแทบจะนอนหลับรอลูกค้ากันได้เลย ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สังเกตุว่าบางเขียงหมูหรือร้านขายหมูนั้นปิดลงไปเยอะมากซึ่งก็ตั้งเขียงล้างทำความสะอาดร้านไว้แต่ปิดไฟไม่เปิดขาย จึงได้สอบถามแม่ค้าด้วยกันจึงทราบว่า เขียงหมูที่ปิดร้านไม่ขายนั้นก็เพราะว่าหากมาขายก็แทบจะไม่มีคนมาซื้อเพราะราคาหมูนั้นแพงมากซึ่งหากมาขายก็จะเป็นการดึงลูกค้าที่มาเดินซื้อหมูกัน จึงยอมที่จะปิดร้านชั่วคราวไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นและในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้หมูจะขึ้นราคาอย่างแน่นอน

หมูขึ้นรายวันแม่ค้าโอดตลาดสดเงียบเหงาเพราะผู้บริโภคหันไปซื้อหมูร้านสะดวกซื้อ Read More »

แม่ค้าแตงโมงสุดเซ็งตื่นมาเจอแตงโมถูกทุบหน้าร้านเสียหายห่างจากป้อมสายตรวจประจำหมู่บ้านเพียง 10 เมตร

แม่ค้าแตงโมงสุดเซ็งตื่นมาเจอแตงโมถูกทุบหน้าร้านเสียหายห่างจากป้อมสายตรวจประจำหมู่บ้านเพียง 10 เมตร แถมถูกขโมยไปทิ้งร่องรอยทำหล่นไว้ข้างทาง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวนคาดกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านมาป่วนและทำเพราะคึกคะนองเร่งติดตามเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี เวลา 11.00 น.วันที่ 21 มีนาคม 2568 นายสมคิด จูงวงษ์สุข นายกองการบริหารส่วนตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ได้มายังร้านแตงโมซึ่งตั้งอยู่ข้างทางหน้าที่ทำการของตัวเอง เห็นแตงโมนั้นแตกเกลื่อนกระจายเสียหาย จึงได้สอบถาม นายวิเชียร จำนงค์ อายุ 80 ปี และนางรัตนา จำนงค์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี สองสามีภรรยาซึ่งมีร้านขายแตงโมเล็กๆ โดยใช้ผ้าใบเป็นร่มเงาอยู่ข้างทางหน้า อบต.ดังกล่างหลักกิโลเมตรที่ 9 ถนนสายอุทัยธานีไปอำเภอทัพทัน และทั้งสองคนนั้นเปิดเผยว่าได้รับซื้อแตงมามาขายครั้งละประมาณ 60 กว่าลูกหากแตงโมขายหมดก็จะซื้อมาขายใหม่ แต่เมื่อวานหลังจากที่ปิดร้านในเวลาช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น.ก็เก็บร้านซึ่งในร้านนั้นมีนั่งร้านเล็กๆ ทำด้วยไม้และเรียงแตงโมไว้และใช้ผ้าคลุมไว้อย่างเรียบร้อยจากนั้นก็จะใช้ผ้าใบคลุมทั้งร้านอีกทีหนึ่ง พอตื่นมาในเวลา 04.45 น.ของวันนี้ก็ตกใจพอมาถึงร้านนั้นแตงโมถูกรื้อออกมาจนกระจัดกระจายและถูกทุ่มให้แตกกระจายและมีร่องรอยใช้มือนั้นควักกินแตงโมที่แตกอีกด้วย จึงได้โทรศัพท์ไปหา นายสมคิด นายก อบต.เพราะอาศัยตั้งร้านอยู่ที่หน้า

แม่ค้าแตงโมงสุดเซ็งตื่นมาเจอแตงโมถูกทุบหน้าร้านเสียหายห่างจากป้อมสายตรวจประจำหมู่บ้านเพียง 10 เมตร Read More »

ส่องเลขเด็ดขันน้ำมนต์งานไหว้ครูหลวงพ่อเปี๊ยกวาจาสิทธิ์

ส่องเลขเด็ดขันน้ำมนต์งานไหว้ครูหลวงพ่อเปี๊ยกวาจาสิทธิ์ ขายดีหมดเกลี้ยงทุกแผง เวลา 11.00 น. วันที่ 13มีนาคม 2568 ที่ วัดคูเมือง หรือ วัดหนองสะแก ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี มีการจัดพิธีไหว้ครูประจำปี 2568​ บรรดาพุทธบริษัท และศิษยานุศิษย์ หลวงพ่อสด วาจาสิทธิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดคูเมือง (หนองสะแก)​ และ พระครูอุทิตกิตติสาร หรือหลวงพ่อเปี๊ยก วาจาสิทธิ์ เกจิอาจารย์ชื่อดัง และเป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน โดยบรรดาพุทธบริษัท และศิษยานุศิษย์ พากันมาร่วมงานพิธีไหว้ครูดังกล่าวกันจำนวนมาก เพื่อร่วมกันประกอบพิธีบูชาครูทุกแขนง และเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเอง ครอบครัว และธุรกิจการงาน ประกอบกับอีก 3 วันที่จะถึงนี้ จะถึงวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มีนาคม 2568 บรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ที่มาร่วมงาน พลาดไม่ได้ที่จะหาเลขนำโชคไปลุ้นกัน เพื่อนำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่วันนี้มีบรรดาพ่อค้า แม่ค้า มารอจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล​กันถึงที่ โดยจะมีทางตัวแทนขึ้นไปถ่ายภาพขันน้ำมนต์ที่กำลังทำพิธีไหว้ครูอยู่ภายในวิหารหลวงพ่อสด วาจาสิทธิ์ เพื่อดูว่าปีนี้เลขในขันน้ำมนต์ขึ้นเป็นเลขอะไร ก่อนส่งต่อภาพที่ถ่ายได้ให้กัน และหนึ่งในเลขเด็ดที่คนในงานหาซื้อกันมากที่สุดก็คือเลข 13

ส่องเลขเด็ดขันน้ำมนต์งานไหว้ครูหลวงพ่อเปี๊ยกวาจาสิทธิ์ Read More »

พายุถล่มเต้นท์งานเทศกาลควายไทยพังยับ ลุ้นจะซ่อมแซมทันวันงานหรือไม่

พายุถล่มเต้นท์กว่าร้อยหลังพังยับซึ่งกำลังจัดเตรียมการงานเทศกาลควายไทย โดยมีผู้อยู่ในเหตุการณ์โพสต์เฟซบุ๊กระหว่างลมมาแรงจนต้านไม่อยู่ ส่วนผู้ที่จะนำควายมากระกวดรอลุ้นว่าจะเสร็จทันกำหนดการจัดงานหรือไม่ จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ theeradach pius ได้อยู่ในเหตุการณ์และโพสต์คลิปวีดีโอซึ่งมีลมพายุกำลังถล่มบริเวณแก้มลิงเขื่อนวังร่มเกล้า จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดเตรียมการแข่งขันเทศกาลควายไทยครั้งที่ 13 ซึ่งมีกำหนดการจัดวันที่ 14-16 มีนาคม 2568 นี้ โดยในคลิปนั้นแสดงให้เห็นความแรงของลมที่ผัดกระหน่ำลงมาจนเต้นท์ที่กางไว้พังยับ ซึ่งเหตถการณ์ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 17.00 น.ของวันที่ 12 มีนาคม 2568 หรือช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา ล่าสุดเวลา 07.30 น.วันที่ 13 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจบริเวณจัดงานที่บริเวณแก้มลิงเขื่อนวังร่มเกล้า อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี พบเต้นท์นับร้อยหลังที่ติดตั้งไว้พังราบเป็นหน้ากองซึ่งเหล็กที่ใช้ประกบเต้นท์นั้นมีหักและงอ โดยนับคร่าวๆแล้วกว่า 100 เต้นท์ที่เสียหาย ซึ่งต้องรอเจ้าของเต้นท์นั้นระดมกำลังคนงานมาช่วยกันเก็บซากเต้นท์เพื่อนำของใหม่มาติดตั้ง และหากบางส่วนที่ซ่อมแซมได้ก็จะซ่อมแซมกันไป ซึ่งความเสียหายของเต้นท์นั้นหากคิดเป็นมูลค่ารวมกันแล้วคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ซึ่งเต้นท์ที่นำมากางนั้นมีทั้งเต้นท์ของหน่วยงาน อบต.ต่างๆ และเต้นท์ที่ให้เช่าซซึ่งเป็ฯของเอกชนซึ่งเต้นท์ที่ติดตั้งไว้นั้นเพื่อรองรับกระบือหรือควายจากทั่วประเทศมาแข่งขันความงามกันซึ่งเรียกได้ว่าเป็นงานที่โด่งดังและทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานีนั้นได้ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานีจัดขึ้นทุกปี ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากเกษตรกรที่เลี้ยงควายและนักท่องเที่ยวแห่มาชมกันจำนวนมากทุกปีเลยก็ว่าได้ จากการสอบถามทีมงานที่รับงานเดินไฟประดับตกแต่งในงาน นายชยพล กุลชี อายุ 63 ปี หรือทีมงานช่างเปรี๊ยว บอกว่าอยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานด้วยซึ่งกำลังเดินสายไฟและติดตั้งหลอดไฟตามเต้นท์ต่างๆกับลูกน้องและอยู่ดีๆลมพายุมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากจนถล่มเต้นท์ลงมากระจัดกระจายอย่างที่เห็นกันซึ่งอุปกรณ์ของตัวเองก็เสียหายไปเกือบ 5 หมื่นบาททั้งสายไฟนั้นขาดกระจุยด้วยความแรงของลมรวมถึงหลอดไฟอีกด้วยซึ่งในช่วงเช้านี้ก็ต้องเริ่มเดินสายไฟกันใหม่ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ซึ่งก็ขออย่าให้พายุมาซ้ำอีกเลยเพราะได้มีพยากรอากาศว่าเย็นนี้จะมีฝนและลมมาอีกระลอกหนึ่ง

พายุถล่มเต้นท์งานเทศกาลควายไทยพังยับ ลุ้นจะซ่อมแซมทันวันงานหรือไม่ Read More »

น้ำแข็งใสโบราณไต้ต้นมะขามวัดหนองขุนชาติ

น้ำแข็งใสโบราณไต้ต้นมะขามใช้มือใสน้ำแข็งฤดูร้อนขายดี มีเครื่องให้เลือกเยอะ เจ้าของเผยก่อนหน้านี้เป็นชาวนาผันตัวมาเปลี่ยนอาชีพขายดีกว่า 27 ปีแล้ว วันที่ 9 มีนาคม 2568   ที่วัดหนองขุนชาติ ตำบลหนองสรวง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี มีร้านหวานเย็นที่ขายมากว่า 27 ปีแล้ว โดยของ ลุงสำเนียง จันทร์เส็ง อายุ 70 ปี ตั้งร้านขายอยู่ใต้ต้นมะขาม เปิดเผยว่าได้ขายหวานเย็นที่มีเครื่องเป็นแบบฉบับหวายเย็นโบราณแบบนี้ตั้งแต่เริ่มต้นขาย มีเครื่องให้เลือกมากกว่า 10 อย่าง เช่น เผือก มัน ฟักทอง รากบัว เฉาก๊วย ลูกชิด ขนมปัง  กล้วยเชื่อม มันเชื่อม ลูกชิด  สาคู เมล็ดแมงลัก น้ำกะทิคั้นเองใหม่และสดทุกวัน ส่วนน้ำเชื่อมก็เช่นกันเองหวานพอดีและยังมีน้ำแดงสำหรับเด็กๆอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้มีอาชีพทำนาและผันตัวมาขายหวานเย็นเพราะอยากจะมีร้านน้ำแข็งใสหรือหวานเย็นเล็กๆไว้ประกอบอาชีพ โดยขายตั้งแต่ถ้วยละ 5-10 บาทในสมัยก่อน มาจนปัจจุบันนี้ขายถ้วยละ 20 บาท ซึ่งเลือกใส่ได้ 2-3 อย่างกันเลยทีเดียว หากจะสั่งกลับบ้านนั้นก็จะห่อน้ำแข็งใส่หนังสือพิมพ์แยกไปให้เป็นการเก็บความเย็นแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งมนต์เสน่ห์ของน้ำแข็งใสก็คือยังคงชิวิธีทำให้น้ำแข็งละเอียดโดนใช้มือใส่ผ่านใบมีดที่มีแท่นไม้ตั้งอยู่ เวลาใสนั้นต้องนำถ้วยหวานเย็นไปรองหลังจากที่ลูกค้านั้นเลือกใส่เครื่องแล้วจากนั้นก็จะราดด้วยน้ำกะทิและน้ำเชื่อม

น้ำแข็งใสโบราณไต้ต้นมะขามวัดหนองขุนชาติ Read More »

ต่อไปทางรัฐมันตรีหรือรัฐบาลจะกินกล้วยแทนข้าวกันหรือยังไง

ชาวนาขอถามคนต้นคิดเรื่องปลูกกล้วยในนาข้าว ต่อไปทางรัฐมันตรีหรือรัฐบาลจะกินกล้วยแทนข้าวกันหรือยังไง น่าจะมาดูแลเรื่องราคาข้าวหรือเงินช่วยเหลือมากกว่าทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เวลา 08.00 น.วันที่ 10 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ นางจำรูญ เก่งธัญกรรม อายุ 70 ปี ซึ่งมีผืนนาอยู่กว่า 10 ไร่ที่ หมู่ที่ 3 บ้านหมกแถว ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาอย่าง จังหวัดอุทัยนธานี ซึ่งได้ให้ความคิดเห็นในเรื่องที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมาให้ความเห็นว่าหากราคาข้าวนั้นตกต่ำมาก ก็น่าจะมาปลูกกล้วยแทน  นางจำรูญ นั้นบอกว่านาข้าวนั้นก็ไม่ใช่จะเอาอะไรมาปลูกได้ซึ่งตั้งแต่การปรับสภาพดินแล้ว ซึ่งจะปลูกได้ก็เพียงข้าวเท่านั้น จะเอาอะไรมาปลูกแซมหรือทดแทนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย แล้วถ้าเกิดปลูกได้จริง ๆ ชาวนาทั่วประเทศปลูกกล้วยกันจริงๆแล้วจะเอาตลาดที่ไหนมารองรับต่างประเทศจะมารับซื้อจริงหรือ หากมันมีปัญหาล้นตลาดแล้วจะทำอย่างไรหากปลูกได้จริงๆ ทางรัฐบาลน่าจะมาเอาใจใส่ในเรื่องแหล่งน้ำที่ทำนามากกว่าเพราะในแต่ละพื้นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือความแห้งแล้ง ซึ่งก็ต้องยอมรับในชะตากรรมในเรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มทำนาในสมัยเป็นสาวจนมาถึงอายุป่านนี้ก็ยังคงไม่พ้นเรื่องนี้ แต่ด้วยพ่อและแม่นั้นทำมาก่อนและทิ้งผืนนาไว้ให้ก็ต้องสืบต่ออาชีพของครอบครัว นางจำรูญได้พาไปดูสระกักเก็บน้ำหรือที่เรียกกันติดปากว่าสระหลวง ซึ่งในหมู่บ้านหมกแถวแห่งนี้ทำนากันเยอะหลายพันไร่อยู่แหล่งน้ำทำนาอาศัยสระที่ทาง อบต.หรือทางเกษตรจังหวัดแห่งนี้เพียงสระเดียวเท่านั้นแต่มันไม่เพียงพอเพราะละแวกนี้มีเพียงสระน้ำสระเดียวที่ขุดไว้กักเก็บไว้นานแล้วในตอนนี้ก็แห้งขอดจนลงไปจับปลากันแทนแล้วหากบ้านไหนนั้นไม่ทำนาเพราะคิดว่าเสี่ยงเพราะขืนทำนาก็ไม่มีข้าวให้เกี่ยวจึงต้องหยุดไปเพราะแล้งนั้นมาเร็วกว่าทุกปี สิ่งที่เลี้ยงปากท้องเกษตรชาวนาได้ก็อาศัยปลาในสระนี้เองอย่างน้อยก็ไว้ทำกับข้าวได้หรือทำปลาเกลือไว้กิน โดยชาวนานั้นแย่งน้ำกันสูบจนแห้งขอดหมดแล้วซึ่งหากช่วยอยากให้มีการสำรวจว่าพื้นที่ไหนแล้งและมีคนทำนากี่ครัวเรือนแล้วมาแก้ไขโดยการหาแหล่งน้ำเพิ่มให้จะดีกว่าในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นสนับสนุนให้ปลูกกล้วยอย่างที่บอกมา การปลูกข้าวนั้นหากให้ปุ๋ยน้อยไปก็จะออกรวงไม่สวยแต่ถ้าหากใส่เยอะก็เป็นการเพิ่มต้นทุนไปออีกทั้งที่ราคาขายข้าวยังคงเท่าเดิมโดยไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยและดูเหมือนทางรัฐบาลจะไม่ใส่ใจในเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำไป ขณะเดียวกันในตอนนี้ราคาปุ๋ยยาก็แพงหรือขึ้นราคาจนต้องเพิ่มต้นทุนในการทำนาแต่ละครั้งต่อหนึ่งไร่จะลงทุนประมาณ 6,000 กว่าบาทเข้าไปแล้ว  แต่พอไปขายได้เกวียนละ 6,000 บาทถ้วน อยากให้พยุงราคาข้าวขึ้นมาเป็นเกวียนละ 8,000

ต่อไปทางรัฐมันตรีหรือรัฐบาลจะกินกล้วยแทนข้าวกันหรือยังไง Read More »

ส่องเลขเด็ดบวงสรวงพระนาคปรกเชื่อพญานาคพลิกชีวิต

ส่องเลขเด็ดบวงสรวงพระนาคปรก หนุ่มกรุงเทพฯประธานสร้างพระเผยที่มา เชื่อพญานาคพลิกชีวิตจากขายของแบกะดินหลัก 10 บาท จนมีหลัก 10 ล้านได้จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย วันที่ 26 ก.พ.68 ที่ วัดมงคลรัตนคีรี (เขาระแหง) ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี มีการจัดพิธีบวงสรวงจัดสร้างองค์พระปางนาคปรก หรือ พระพุทธจริยาที่เสด็จประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขภายในวงขนดของพญานาคมุจลินท์นาคราชที่ขดแวดล้อมพระกาย โดยมี พระครูอุทัยมงคลวัตร เจ้าอาวาสวัดมงคลรัตนคีรี (เขาระแหง) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธี โดยผู้ที่จัดสร้างพระปางนาคปรกในครั้งนี้คือ นายมานะ ศรีวิไลทนต์ อายุ 45 ปี เป็นคนจังหวัดกรุงเทพมหานคร เจ้าของร้าน ราชา ธนบัตรไทย ได้ร่วมกับครอบครัว เพื่อน ๆ ญาติสนิท และผู้มีจิตเลื่อมใสศรัทธา องค์พญานาคปู่ดำแสงจันทรา ร่วมกันจัดสร้างขึ้น และนำมาประดิษฐานไว้ที่ วัดมงคลรัตนคีรี (เขาระแหง) แห่งนี้ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่าเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งผู้สร้างหวังไว้เพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในกับคนในยุคต่อ ๆไปได้มากราบไหว้ ได้ช่วยบำรุงพระพุทธศาสนา ท่ามกลางบรรดาศิษยานุศิษย์ และผู้ที่มีจิตเลื่อมใสศรัทธาองค์พญานาคปู่ดำแสงจันทรา

ส่องเลขเด็ดบวงสรวงพระนาคปรกเชื่อพญานาคพลิกชีวิต Read More »