แม่ค้าแตงโมงสุดเซ็งตื่นมาเจอแตงโมถูกทุบหน้าร้านเสียหายห่างจากป้อมสายตรวจประจำหมู่บ้านเพียง 10 เมตร แถมถูกขโมยไปทิ้งร่องรอยทำหล่นไว้ข้างทาง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวนคาดกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านมาป่วนและทำเพราะคึกคะนองเร่งติดตามเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
เวลา 11.00 น.วันที่ 21 มีนาคม 2568 นายสมคิด จูงวงษ์สุข นายกองการบริหารส่วนตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ได้มายังร้านแตงโมซึ่งตั้งอยู่ข้างทางหน้าที่ทำการของตัวเอง เห็นแตงโมนั้นแตกเกลื่อนกระจายเสียหาย จึงได้สอบถาม นายวิเชียร จำนงค์ อายุ 80 ปี และนางรัตนา จำนงค์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี สองสามีภรรยาซึ่งมีร้านขายแตงโมเล็กๆ โดยใช้ผ้าใบเป็นร่มเงาอยู่ข้างทางหน้า อบต.ดังกล่างหลักกิโลเมตรที่ 9 ถนนสายอุทัยธานีไปอำเภอทัพทัน และทั้งสองคนนั้นเปิดเผยว่าได้รับซื้อแตงมามาขายครั้งละประมาณ 60 กว่าลูกหากแตงโมขายหมดก็จะซื้อมาขายใหม่ แต่เมื่อวานหลังจากที่ปิดร้านในเวลาช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น.ก็เก็บร้านซึ่งในร้านนั้นมีนั่งร้านเล็กๆ ทำด้วยไม้และเรียงแตงโมไว้และใช้ผ้าคลุมไว้อย่างเรียบร้อยจากนั้นก็จะใช้ผ้าใบคลุมทั้งร้านอีกทีหนึ่ง พอตื่นมาในเวลา 04.45 น.ของวันนี้ก็ตกใจพอมาถึงร้านนั้นแตงโมถูกรื้อออกมาจนกระจัดกระจายและถูกทุ่มให้แตกกระจายและมีร่องรอยใช้มือนั้นควักกินแตงโมที่แตกอีกด้วย จึงได้โทรศัพท์ไปหา นายสมคิด นายก อบต.เพราะอาศัยตั้งร้านอยู่ที่หน้า อบต.หนองแก แถมยังมีป้อมสายตรวจตำบลหนองแก อยู่ห่างจากร้านแตงโมเพียง 10 กว่าเมตรเท่านั้น โดยทางนายสมคิด นั้นได้พานายวิเชียรและนางสาวรัตนา ไปแจ้งความที่สถานนีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยหลังจากที่ทำการแจ้งความแล้วนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งมายังที่เกิดเหตุเพื่อมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที
โดยทาง พ.ต.ท.มานพ ชาวไร่ รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายได้ดูกล้องวงจรปิดของ อบต.หนองแก ซึ่งก็ไม่พบร่องรอยหรือเหตุการณ์อะไรที่บ่งบอกตัวของผู้กระทำได้เพราะมุมของกล้องนั้นไม่ได้ส่องไปทางร้านแตงโมเลย จากการสอบถามนายวิเชียรและนางรัตนาเปิดเผยว่า ก่อนปิดร้านนั้นได้นับแตงโมไว้ซึ่งมีแตงดมประมาณอยู่ 60 ลูกซึ่งเป็นพันธ์ตอปิโด แตงโมที่ถูกทุบจนเละเสียหายไปประมาณ 30 กว่าลูกแถมยังมีแตงโมหายไปอีกประมาณ 20 ลูกเห็นจะได้ ที่เหลือก็กองเละทุกทุบอย่างที่เห็นอยู่หน้าร้าน แถมยังทิ้งแตงโมตกอยู่ไว้ข้างทางอีก 4 ลูกข้าง อบตหนองแก ซึ่งเป็นทางเข้าไปบ้านหนองเต่า ซึ่งคาดว่าคนร้ายนั้นจะหนักหรือขนไปไม่หมดนั่นเองหากคิดเป็นมูลค่าความเสียหายก็อยู่ประมาณ 3,500 บาท ที่ลงทุนซื้อแตงโมมาขาย และทางพ.ต.ท.มานพ นั้นได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำอยู่ป้อมสายตรวจบอกว่าเมื่อคืนประมาณเที่ยงคืนนั้นไม่ได้อยู่ป้อมเนื่องจากว่ามีคนแจ้งเหตุว่าที่เขื่อนวังร่วมเกล้านั้นมีวัยรุ่นจับกลุ่มเพื่อจะแข่งรถกันจึงไปดู ซึ่งมีการแจ้งเหตุถึงสองครั้งด้วยกันจึงไม่ทราบว่ามีคนมาร้านแตงโมเพื่อขโมยหรือมาทุบด้วยซ้ำไปเพราะกำลังอยู่ระหว่างระงับเหตุที่ได้แจ้งเข้ามานั่นเอง
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นตั้งปมเป็นวัยรุ่นในพื้นที่มีพฤติกรรมคึกคะนองจึงเข้ามาทุบแตงโมจนแตกเกลื่อนแถมยังขโมยไปด้วย ซึ่งคาดว่าคนที่มาลงมือขโมยนั้นไม่น่าจะมาคนเดียวหรืออาจจะนำรถสามล้อมาสำหรับขนแตงโมด้วยแต่ด้วยแตงโมที่นำไปประมาณ 20 ลูกนั้นหนักจึงทิ้งลงข้างทางไปหรือไม่ก็อาจจะขนไม่ไหวเพราะแตงโมแต่ละลูกมีน้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัม โดยในตอนนี้ได้เร่งให้ชุดทีมสืบสวนสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ไกล้เคียงและไปขอดูกล้องวงจรปิดตามหมู่บ้านทั้งสองหมู่บ้านก็คือบ้านหนองแกและบ้านหนองเต่าเพื่อจะหาขดมยมือบอนทั้งทุบทั้งขโมยกลับไปมาดำเนินคดีให้ได้และคาดว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีในเร็วๆนี้ โดยจากการสอบถาม นายวิเชียรและนางรัตนา ก็ไม่เคยไปขัดแย้งกับใครหรือมีศัตตรูที่ไหนแม้กระทั่งการซื้อแตงโมมาขายก็ไม่เคยไปตัดราคาใครซึ่งแตงโมที่ซื้อมาขายนั้นก็ซื้อเงินสดมาขายไม่เคยเป็นหนี้หรือติดไว้อีกด้วย
ขณะเดียวกันทั้งสองคนเจ้าของร้านแตงโมยังบอกอีกว่าไม่น่ามารังแกกันแบบนี้แลยหากมาขอกันกินก็จะให้ไปกินแบบฟรีๆ เลยไม่น่ามาทำให้เสียความรู้สึกถึงขนาดนี้เลยและขอให้ทางตำรวจได้ตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว