ขนมเทียนเจ้าเก่าทำมากว่า 30 ปี เร่งห่อกันทั้งวันทั้งคืนเพราะคนสั่งเพียบจนทำแทบไม่ทัน กว่า 1,300 กิโลแล้วเนื่องจากเป็นขนมมงคลที่ใช้ในเทศการในวันตรุษจีนสูตรเด็ดมีดีที่ใส้ไม่เค็มเกินไปกลมกล่อมหอมละมุนลิ้น
เวลา 16.00 น.วันที่ 26 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่ามีผู้ที่ทำขนมเข่งและขนมเทียนมานานและมีผู้ที่สั่งจองกันประจำ จึงไปบ้านของนางสาวยุพิน พึ่งพวก อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 37 หมู่ที่ 7 ตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งอยู่ติดกับวัดกลางเขา โดยนางสาวยุพินบอกว่าเริ่มหมักแป้งตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาแล้วและในวันนี้ก็เร่งห่อขนมเทียนกันเพื่อให้ทันยอดที่สั่งจอง โดยทำทั้งขนมเข่งและขนมเทียน โดยขนมทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นของมงคลและขาดไม่ได้ในการประกอบพิธีในวันตรุษจีน โดยยอดสั่งจองในตอนนี้ทั้งขนมเข่งและขนมเทียนนั้นมียอดสั่งประมาณ 1,300 กิโลกกรัมแล้วและยังมีคนโทรมาสังกันอีกเรื่อยๆ โดยขนมเข่งนั้นจะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาทส่วนขนมเทียนขายกิโลกรัมละ 90 บาท โดยผู้ที่สั่งนั้นโทรมาจากทั่วสารทิศมีทั้งแม่ค้าทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดมาสั่งนำไปขายต่ออีกทีและในกรุงเทพก็มีสั่งกันเยอะ รวมถึงผู้ที่จะทำพิธีไหว้ก็จะมาสั่งกันถึงบ้านกันเลยทีเดียว ซึ่งยังให้ชาวบ้านนั้นมีรายได้อีกด้วยเพราะต้องจ้างมาแพคขนมเข่งและห่อขนมเทียนกันเพื่อให้ทันยอดที่สั่งนั่นเองแต่ผู้ที่จ้างมานั้นจะต้องเคยมาทำแล้วเนื่องจากการห่อขนมเทียนนั้นไม่ใช่เรื่องงายๆต้องฝึกจนชำนาญกันเลยทีเดียว
นางสาวยุพิน เปิดเผยว่าได้ทำขนมเทียนและขนมเข่งมาตั้งแต่ยังสาวหรือประมาณ 30 กว่าปีมาแล้วจนเป็นที่รู้จักกันอย่างดีและไม่ใช่ทำแต่ขนมสองอย่างนี้ หากเทศกาลออกหรือเข้าพรรษายังทำข้าวต้มมัดขายอีกด้วย ซึ่งสูตรขนมเทียนของที่นี่นั้นทั้งแป้งจะต้องหมักก่อนเพื่อให้นุ่มส่วนใส้นั้นจะไม่ออกรสไม่เค็มจนเกินไปเวลากินกลมหล่อมหอมแล้วต้องมีความรู้สึกละมุนลิ้น ส่วนขนมเข่งนั้นแป้งจะออกนุ่มมากรสชาติหวานพอดี ซึ่งหลังจากที่ทำการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษกันเรียนร้อยแล้วขนมทั้งสองอย่างนี้เจ้าของบ้านหรือผู้ที่ไหว้ก็จะแจกจ่ายให้กับลูกหลานถือว่าเป็นขนมมงคลดังที่กล่าวมาซึ่งยังบอกอีกว่าจะสืบสานการทำขนมเข่งและขนมเทียนต่อไปเพราะยังมีลูกสาวอีกคนหนึ่งที่สนใจในการทำขนม โดยใครที่อยากลองลิ้มชิมรสหรือจะซื้อไปไหว้ช่วงตรุษจีนสามารถโทรมาสั่งกันได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 087-5742100 รับรองว่าขนมที่ทำนั้นอร่อยทุกชิ้นเพราะใส่ใจในการทำและสูตรนั้นจะต้องอร่อยเกมือนกันทุกปีเพื่อเป็นการดึงดูดหรือเอาใจใส่ลูกค้านั่นเอง ส่วนบรรดาแม่ค้านั้นจะนำไปขายต่ออีกทีในตลาดก็อยู่ที่กิโลกรัมละ 130-140 บาท เลยทีเดียวแต่นางสาวยุพินก็ยังคงไม่ขึ้นราคาและช่วงนี้ถึงแม้ของจะแพงก็ตามได้กำไรน้อยแต่อยากให้คนที่ซื้อนั้นประทับใจและกลับมาซื้อกันใหม่