สนทะนาพร อินจันทร์

หนาหูสนามเล็กย่านบางปะกงทุ่ม 5 หลักแลก 1 X ทุบสถิติการแข่งขันสูงทั่วทั้งประเทศ

ฉะเชิงเทรา – หนาหูสนามแข่งเลือกตั้งนายกเล็กแถบย่านบางปะกงทุ่ม 5 หลักทุบสถิติทำลายการออกกระสุนหมัดเด็ดที่หนักหน่วงที่สุดในประเทศไทย เผยงัด 10 ล้านแลก 1 K.X เพื่อรักษาตระกูลแชมป์เก่าให้ได้นั่งหัวโต๊ะในสภา ขณะคู่แข่งหว่านพลังงานออกมาโต้บ้างแค่เพียง 2 บั้งแต่กลับได้แต้มไล่ตามหลังเฉียดฉิวแบบหายใจรดต้นคอ ด้วยตัวเลขแทบน่าใจหายในหลักสิบเกือบแซงชนะว่าที่นายกคนมือโต วันที่ 12 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลการแข่งขันกันทางการเมืองในสนามเลือกตั้งที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดแบบแลกกันด้วยศักดิ์ศรี ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ที่สนามขนาดเล็กระดับเทศบาลตำบลในพื้นที่ อ.บางปะกง แห่งหนึ่งว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้สร้างกระแสความฮือฮา ทำเอาชาวบ้านตาโตจนทำให้เกิดการตื่นตัวของผู้คน และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากแบบฉบับกระชับเฉพาะพื้นที่ ให้เกิดการจับจ่ายไหลเวียนกันอย่างสนุกมืออย่างเฉียบพลัน หลังมีกระแสข่าวอื้ออึงออกมาอย่างหนาหูว่า มีสนามเลือกตั้งนายกเล็กแห่งหนึ่ง ได้มีการยิงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 10,000 เหรียญ ลงสู่พื้นที่เพื่อเอาชนะคู่แข่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ และเป็นศึกศักดิ์ศรีในการรักษาเก้าอี้แชมป์ให้ยังคงอยู่ในวงศ์ตระกูลหรือเครือญาติของแชมป์เก่าหลายสมัยต่อไป ซึ่งถือเป็นการทำลายสถิติในวงการใช้กระสุนขนาดใหญ่ที่สุดในสนามเลือกตั้งทุกระดับของประเทศไทย ทั้งที่เป็นการเลือกตั้งในสนามการเมืองขนาดเล็ก ที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแค่เพียงประมาณ 1,600 กว่าคนเท่านั้น ขณะที่พื้นที่แห่งนี้ยังไม่ใช่เป็นชุมชนหรือเมืองเศรษฐกิจสำคัญแต่อย่างใด แต่กลับมีการทุ่มเทพลังแห่งทรัพยากรกันเป็นจำนวนมากถึงหลัก 10 ล้านเม็ด เพื่อรักษาเก้าอี้นายกเอาไว้ในวงศ์เครือญาติของอดีตผู้บริหารคนเก่าให้ได้ หลังจากที่ได้เคยลาออกไปลงเล่นการเมืองในระดับอื่นที่สูงขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์กล้าได้หว่านออกไปผ่านทางสมาชิกผู้สมัครในทีมสู่ท้องทุ่งนาและบ่อปลา บ่อกุ้ง โดยที่ไม่ผ่านมือของตัวแทนหรือหัวขบวนในแต่ละหมู่บ้าน ส่วนผลการเลือกตั้งที่ปรากฏออกมาหลังวันกาคะแนน ปรากฏว่านักการเมืองมือโตได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่งไปเพียงแค่ประมาณครึ่งร้อยคะแนน โดยที่อีกฝ่ายนั้นได้งัดพลังงานที่ด้อยกว่าออกมาเพียง 2,000 เมล็ดต่อ 1 […]

หนาหูสนามเล็กย่านบางปะกงทุ่ม 5 หลักแลก 1 X ทุบสถิติการแข่งขันสูงทั่วทั้งประเทศ Read More »

ช้างยังไม่ทันได้ทดลองใช้ แต่แนวคูกันช้างมูลค่า กม.ละ 4.2 ล้านพังถล่มแล้ว

ฉะเชิงเทรา – ช้างป่าเขาอ่างฤาไนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกยังไม่ทันได้ทดลองใช้ แต่แนวคูกันช้างคอนกรีตเพิ่งสร้างเสร็จใหม่เอี่ยมพังถล่มลงหลายจุดตลอดแนวกว่า 3 กม. มูลค่านับสิบล้านบาท ขณะแผนงานโครงการมุ่งเป้าก่อสร้างโดยรอบพื้นที่เพื่อแยกคนออกจากช้างป่าระยะ 150 กม. แต่เพียงเริ่มต้นโครงการแรกระยะ 10 กม.กลับพังทลายไม่เป็นท่า ค้านสายตาชาวบ้านที่จับจ้องมองดูอยู่บนสื่อสังคมถูไถไปบนหน้าจอทัชสกรีน วันที่ 7 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.00 น. พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อมาดูความเสียหายของแนวแบริเออร์ดาดคอนกรีตที่เริ่มก่อสร้างขึ้นตามโครงการก่อสร้างแนวคูกันช้างแบบใหม่ ตามข้อเสนอแนะของ กมธ.ในการแก้ไขปัญหาช้างป่า ทับคูกันช้างแบบร่องลึกประมาณ 4 เมตรที่สร้างขึ้นด้วยแนวดินเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้ดินพังทลาย และทำให้ช้างป่าสามารถเหยียบปีนขึ้นออกมาได้อีก หลังจากมีภาพปรากฏผ่านทางสื่อสังคมโซเชียล พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้าน ในช่วงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานับแต่เมื่อปลายที่ 2567 ที่ได้มีภาพถ่ายของแนวแบริเออร์ดาดคอนกรีตที่เพิ่งก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ทรุดตัวพังทลายลงหลายจุด ตลอดระยะทางประมาณ 3 กม. หลังจากที่ได้เริ่มมีการลงมือก่อสร้างตามโครงการนี้ขึ้น ด้วยเงินงบประมาณปี พ.ศ.2567 ในโครงการระยะแรกตลอดความยาวทับแนวคูเดิม 10 กม.มูลค่า กม.ละ 4.2 ล้านบาทรวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท จากจุดเริ่มต้นโครงการในพื้นที่

ช้างยังไม่ทันได้ทดลองใช้ แต่แนวคูกันช้างมูลค่า กม.ละ 4.2 ล้านพังถล่มแล้ว Read More »

พบระเบิดซุกร้านลาบ คาดโจ๋เปิบจนเปี๊ยะหวั่นถูกค้นแอบหย่อนทิ้งริมรั้ว

ฉะเชิงเทรา – พบระเบิดซุกร้านลาบ คาดโจ๋เปิบจนเปี๊ยะหวั่นถูก จนท.ตั้งด่านตรวจค้นระหว่างทาง แอบหย่อนทิ้งไว้ริมรั้ว ก่อนเจ้าของร้านเข้ามาพบแจ้ง EOD ตรวจสอบ ผงะเป็นระเบิดลูกเกลี้ยงชนิดขว้างด้วยมือของจริง สภาพใหม่ 90 เปอร์เซ็นต์พร้อมใช้งาน ก่อนจุดชนวนเชื้อปะทุนำการระเบิดทำลายทิ้งทันทีในที่เกิดเหตุ ด้านเจ้าของยันไม่เกี่ยวข้องการเมือง ไม่เคยมีเรื่องหมางใจใครมาก่อน วันที่ 6 พ.ค.68 เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) จากกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จำนวน 3 นาย ได้เดินทางลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่บริเวณริมรั้วภายในร้านลาบเมืองฉะฯ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 319 พนมสารคาม-ปราจีนบุรี เขตพื้นที่หมู่บ้านหัวกระพี้ เลขที่ 194/4 ม.10 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับการประสานงานจาก พ.ต.ท.พิสิฐชัย เลิศบารมี รอง ผกก.งานป้องกันและปราบปราม สภ.พนมสารคาม และ ร.ต.ท.หญิง สุชานันท์ พรหมมะ รองสารวัตรเวรสอบสวนว่า ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดภายในร้านดังกล่าว หลังเจ้าหน้าที่ EOD

พบระเบิดซุกร้านลาบ คาดโจ๋เปิบจนเปี๊ยะหวั่นถูกค้นแอบหย่อนทิ้งริมรั้ว Read More »

เร่งเดินหน้านโยบายบนแผ่นกระดาษ นายก อบจ.แปดริ้ว ด่วนจัดตั้ง ร.ร.กีฬาแล้ว

ฉะเชิงเทรา – เร่งเดินหน้านโยบายพัฒนาบ้านเมืองบนแผ่นกระดาษ นายก อบจ.แปดริ้ว คนใหม่ “กลยุทธ ฉายแสง” ด่วนจัดตั้งโรงเรียนกีฬาให้แก่ชาวแปดริ้วตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้บนป้ายไวนิลเมื่อกว่า 2 เดือนก่อน หลังเก็บเงียบระหว่างเดินหาเสียงเลือกตั้งแบบไม่ยอมปริปากบอกสื่อในพื้นที่มาก่อน วันที่ 3 พ.ค.68 เวลา 07.39 น. ผู้สื่อข่าวได้รับสื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ จากฝ่ายประชาสัมพันธ์ อบจ.ฉะเชิงเทราว่า เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.68) เวลา 13.00 น. นายชนะวิทย์ ฉายแสง เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา (อบจ.) พร้อมคณะประกอบด้วย น.ส.นารี เทพสุภรณ์กุล ผอ.กองการท่องเที่ยวและกีฬา ผอ.โรงเรียนชำป่างามวิทยาคม และเจ้าหน้าที่กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางไปร่วมประชุมการดำเนินงานตามโครงการการจัดตั้งโรงเรียนกีฬา จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเด็กแปดริ้ว เก่งกีฬา มีสถานศึกษารองรับ ที่ห้องประชุมเจ้าเสวย ชั้น 4 อาคารราชนครินทร์ มรภ.ราชภัฏราชนครินทร์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี รศ. ดร.ดวงพร

เร่งเดินหน้านโยบายบนแผ่นกระดาษ นายก อบจ.แปดริ้ว ด่วนจัดตั้ง ร.ร.กีฬาแล้ว Read More »

ชาวบ้านมึนไม่รู้พายุมาตอนไหน ตื่นขึ้นมาเสาไฟล้มระนาวปิดหมู่บ้าน

ฉะเชิงเทรา – ชาวบ้านคลองนครเนื่องเขตมึน ไม่รู้พายุพัดถล่มเข้ามาตอนไหน ตื่นขึ้นมาเห็นเสาไฟล้มระนาว เดินทางออกจากหมู่บ้านไม่ได้ บนเส้นทางเชื่อมลัดผ่านระหว่างถนนสายสำคัญ 304 ไปยัง 3200 ที่มีรถขนส่งพนักงานโรงงานและสินค้าอุตสาหกรรมผ่านประจำ โชดดียังไม่พบมีบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยังเป็นวันหยุดแรงงานที่ช่วยทำให้ความวุ่นวายลดลง วันที่ 1 พ.ค.68 เวลา 07.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 15 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ได้เกิดเหตุเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 22 Kv. ล้มลงมาขวางถนนปิดกั้นเส้นทางการสัญจรที่ถนนคลองนครเนื่องเขตซอย 14 (เส้นทางวัดบางสาย) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ตัดเชื่อมจากถนนสุวินทวงศ์ (304) มุ่งหน้าไปยังถนนทางหลวงสาย 3200 สู่ตัวอำเภอบางน้ำเปรี้ยว ที่บริเวณก่อนถึงหน้าโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (CNI) จำนวน 6 ต้นทำให้ไม่สามารถสัญจรผ่านเส้นทางออกไปจากหมู่บ้านได้ หลังผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปถึงในเวลา 09.30 น. พบชาวบ้านผู้แจ้งเล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ทราบว่าพายุพัดโหมเข้ามาเวลาใด แต่เมื่อตื่นขึ้นมาได้พบว่ากระแสไฟฟ้าดับ และเมื่อออกมาดูยังหน้าบ้านพบว่าไม่สามารถที่จะเดินทางออกไปไหนได้ หลังจากมีเสาไฟฟ้าล้มลงมากองระเนระนาดระยะหลายร้อยเมตร และกีดขวางเส้นทางออกจากหมู่บ้าน จนทำให้ยานพาหนะไม่สามารถขับผ่านเส้นทางสัญจรออกจากหมู่บ้านไปยังภายนอกได้ หลังเกิดเหตุจึงได้แจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กฟภ. ให้ทราบ

ชาวบ้านมึนไม่รู้พายุมาตอนไหน ตื่นขึ้นมาเสาไฟล้มระนาวปิดหมู่บ้าน Read More »

เพลิงไหม้โรงงานล้างถังพลาสติก โหมรุนแรงกว่า 2 ชม.ยังไม่มีทีท่าดับ

ฉะเชิงเทรา – เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บล้างถังพลาสติกย่านเกาะขนุน อ.พนมสารคาม แปดริ้ว เปลวเพลิงลุกโหมรุนแรงยาวนานกว่า 2 ชม.ยังไม่มีทีท่าจะดับลงได้ง่าย หลังระดมรถน้ำดับเพลิงฉีดสกัดกว่า 20 คันยังไร้ผล ทั้งยังพ่นกลุ่มควันไฟดำทะมึนขึ้นสู่ท้องฟ้าอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดยังรอคอยความช่วยเหลือจากรถดับเพลิงชนิดโฟมเคมีจากพื้นที่ จ.ระยอง มาสนับสนุนควบคุมสถานการณ์ วันที่ 29 เม.ย.68  เวลา 13.20 น. ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ถังพลาสติก ขนาด 2 พันลิตรขึ้นจำนวนหลายใบภายในโรงงานของบริษัทถังรุ่งเรือง จำกัด ตั้งอยู่ใกล้กับสี่แยกนาน้อย (แยกเบส) เลขที่ 88 ม.14 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ภายในเป็นโกดังเก็บล้างถังบรรจุน้ำหลายชนิดขนาดต่างๆ ทั้งสีขาวและสีฟ้า โดยต้นเพลิงได้ลุกลามจากโกดังที่ 1 เก็บถังใหญ่ขนาด 2 พันลิตรไปยังโกดังอื่นๆ ภายในพื้นที่บริเวณโรงงานซึ่งมีทั้งหมด 5 โกดัง แต่เป็นโกดังที่ไม่ได้มีการเก็บสารเคมีอันตรายอยู่ภายใน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ และเพลิงยังมีทีท่าลุกลามรุนแรงต่อไป หลังจากหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ ได้นำรถน้ำดับเพลิงจำนวนกว่า 20 คันจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

เพลิงไหม้โรงงานล้างถังพลาสติก โหมรุนแรงกว่า 2 ชม.ยังไม่มีทีท่าดับ Read More »

นักท่องเที่ยวบอกมาทำบุญวัดโพรงอากาศเพราะ อ.สมชาย มองตั้งเจ้าอาวาสขอคนดี

ฉะเชิงเทรา – นักท่องเที่ยวบอก มาทำบุญวัดโพรงอากาศเพราะศรัทธาต่อพระอาจารย์สมชาย โดยเฉพาะวันเกิดของท่าน 9 ส.ค.มาทุกปีไม่เคยขาด ระบุไม่ทราบมาก่อนว่าท่านสิ้นแล้ว มองตั้งเจ้าอาวาสนั่งแทนขอเป็นคนดี วันนี้อยากมาหาท่านอีกครั้งแต่กลับมาพบข่าวอันเศร้าใจ ที่ท่านจากไปอย่างน่าใจหาย วันที่ 28 เม.ย.68 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้สอบถามนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทำบุญยังที่วัดโพรงอากาศ พื้นที่ ม.9 ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่มีทั้งเจดีย์องค์ระฆังคว่ำสีทองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย และพระพิฆเนศปางนั่งประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ว่ามีความศรัทธาต่อวัดแห่งนี้อย่างไร โดยนางชมเชย (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 68 ปี ชาว จ.นนทบุรี กล่าวว่า ที่มาทำบุญในวัดแห่งนี้เพราะศรัทธาต่อเจ้าอธิการสมชาย พุทฺธสโร หรือพระอาจารย์สมชาย อดีตเจ้าอาวาสวัดโพรงอากาศ ที่ท่านเพิ่งมรณภาพไป โดยท่านเป็นพระที่เสียสละและเป็นนักพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ อ.บางน้ำเปรี้ยว อีกทั้งเวลาท่านเทศนาธรรมและให้โอวาส จะพูดดีและเข้าใจง่าย โดยการมาในวันนี้เป็นการพาหลานๆ คนในครอบครัวมาทำบุญ อยากพาพวกเขามากราบพระอาจารย์สมชาย และไม่ทราบมาก่อนว่าท่านได้มรณภาพไปแล้ว เมื่อมาทราบจึงรู้สึกใจหายและเศร้าใจที่ท่านไม่ได้อยู่ที่วัดนี้แล้ว เพราะปกติตนและสามีจะนำของมาร่วมทำบุญในทุกๆ ปี โดยเฉพาะในวันเกิดของท่าน คือ วันที่ 9 ส.ค.ในแต่ละปีจะพากันเดินทางมาทำบุญเป็นประจำ

นักท่องเที่ยวบอกมาทำบุญวัดโพรงอากาศเพราะ อ.สมชาย มองตั้งเจ้าอาวาสขอคนดี Read More »

วัดใหญ่แปดริ้วส่อวุ่น สิ้นเจ้าอาวาสชาวบ้านก่อหวอดต้านรักษาการมองไม่โปร่งใส

ฉะเชิงเทรา – วัดใหญ่แหล่งเที่ยวดังแปดริ้ว มีเจดีย์องค์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย และพระพิฆเนศปางนั่งประทานพรใหญ่ที่สุดในโลกส่อวุ่น หลังสิ้นเจ้าอาวาสผู้อุทิศตนพัฒนานำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ท้องถิ่น ชาวบ้านก่อหวอดเตรียมต้านผู้ช่วยนั่งรักษาการแทน มองไม่โปร่งใส ชี้พฤติกรรมไม่สนตั้งกรรมการและไวยาวัจกรวัด เบิกจับจ่ายแต่เพียงลำพัง ทำศรัทธาทรุดวัดเสื่อมโทรมผู้คนมาท่องเที่ยวทำบุญบางตาลดลง วันที่ 27 เม.ย.68 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังที่วัดโพรงอากาศ ตั้งอยู่เลขที่ 43/2 ม.9 ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับทราบข้อมูลจากญาติโยมอุปัฏฐากรวมถึงชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงโดยรอบวัดว่า หลังจากที่เจ้าอธิการสมชาย พุทฺธสโร หรือพระอาจารย์สมชาย อดีตเจ้าอาวาสวัดโพรงอากาศ ที่เพิ่งมรณะภาพลงเมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 เวลา 02.30 น. รวมสิริอายุ 79 ปี พรรษา 59 ที่ผ่านมา และต่อมาได้มีการมอบหมายให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปหนึ่งวัย 46 ปีพรรษา 26 ขึ้นมารักษาการแทนในตำแหน่งเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน แต่ปรากฏว่า หลังจากที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปนี้ ได้เข้ามารักษาการแทนในตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้ทำให้บรรดาญาติโยมเกิดความไม่สบายใจขึ้นหลายประการ ทั้งในเรื่องการเบิกจ่ายใช้เงินของวัดโดยไม่ผ่านการตั้งคณะกรรมการวัดหรือไวยาวัจกรดูแล และการปล่อยให้วัดเริ่มอยู่ในสภาพทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแสวงบุญลดน้อยลง และดูบางตาลงอย่างน่าใจหาย สอบถามนายจิรวัฒน์

วัดใหญ่แปดริ้วส่อวุ่น สิ้นเจ้าอาวาสชาวบ้านก่อหวอดต้านรักษาการมองไม่โปร่งใส Read More »

หกล้อบรรทุกยื่นยาวจอดติดไฟแดงแสงสลัว สาวขับ จยย.ไม่เห็นมุดท้ายดับ

ฉะเชิงเทรา – หกล้อใหญ่จัมโบ้บรรทุกที่นอนคลุมผ้าใบสีทึบยื่นยาวออกมาจากท้ายตัวรถกว่า 3 เมตรจอดติดรอสัญญาณไฟแดงในพื้นที่แสงสลัวที่แยกบางกรูด สาวสวมเสื้อโครงข่ายโทรศัพท์ดัง ขับ จยย.มองไม่เห็นมุดเข้าท้ายรถดับอนาถ วันที่ 26 เม.ย.68 เวลา 03.00 น. พ.ต.ท.ประยุทธ ดานะ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถจักรยานยนต์ขับพุ่งชนท้ายมุดเข้าไปที่ใต้ท้องรถบรรทุกหกล้อขนาดใหญ่ ที่บริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟบางกรูด ถนนสิริโสธร ทางหลวงแผ่นดินสาย 314 (บางปะกง-ฉะเชิงเทรา) ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา พื้นที่ ม.3 ต.คลองประเวศ อ.บ้านโพธิ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตติดคาซากรถ จยย.ที่อยู่ใต้ท้องรถบรรทุกเป็นหญิง 1 ราย จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุสภาพแสงไฟสีส้มส่องสว่างสลัว พบรถยนต์บรรทุกหกล้อขนาดใหญ่ยี่ห้อฮีโน่หัวสีขาวหมายเลขทะเบียนป้ายขาว 95-3635 กทม. จอดติดคาไฟแดงอยู่บนเลนที่ 3 จากช่องทางหลักทั้งหมด 4 ช่องจราจรและช่องรอเลี้ยวขวา 1 ช่องจราจรรวม 5 ช่องจราจร ที่บริเวณหัวมุมคอกราวเหล็กกันชนซุ้มล้อหลังด้านขวา ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากท้ายรถที่ถูกต่อเติมยื่นออกมาจากตัวรถมากถึงกว่า 3 เมตร บรรทุกสิ่งของมาจนเต็มคันลักษณะบรรทุกสูงและคลุมด้วยผ้าใบสีทึบ พบมีรถ

หกล้อบรรทุกยื่นยาวจอดติดไฟแดงแสงสลัว สาวขับ จยย.ไม่เห็นมุดท้ายดับ Read More »

ตลาดเก่าแก่สร้างด้วยไม้ ไวไฟไหม้ถี่ยิบช่วงฤดูร้อน ล่าสุดพรึบซ้ำที่ตลาดท่าเกวียน

ฉะเชิงเทรา – ตลาดเก่าแก่สร้างด้วยไม้สุดไวไฟในฤดูร้อน หลังพรึบลุกไหม้เกิดขึ้นซ้ำซากถี่ยิบที่ตลาดท่าเกวียนแบบวันเว้นวัน ล่าสุดเกิดขึ้นที่ถนนเทศบาลซอย 7 เยื้องจากจุดเกิดเหตุเดิมเมื่อวันวานในซอย 8 เพียง 1 ซอย แต่โชคดีที่เกิดขึ้นในเวลากลางวันมีผู้คนพบเห็นก่อนช่วยกันดับ พร้อมรถน้ำ 4 คันระดมฉีดจนเอาอยู่ได้ในที่สุด ขณะนักผจญเพลิงถูกสะเก็ดไฟปลิวใส่เจ็บ 1 ราย วันที่ 25 เม.ย.68 เวลา 14.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่บนอาคารไม้เก่าแก่ 2 ชั้นเลขที่ 48/3 และ 48/4 ถนนเทศบาล 7 ภายในตลาดท่าเกวียนพื้นที่ ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์โบราณปลูกสร้างเรียงรายเป็นแถวต่อเนื่องกันริมแนวถนนทางหลวงสาย 3378 และตามซอยแยก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายกิตติศักดิ์ ยะคเรศ อายุ 36 ปี นักผจญเพลิงจากเทศบาลตำบลพนมสารคาม ที่ได้เข้าไปใช้น้ำดับเพลิงอยู่ภายในบริเวณที่เกิดเหตุ จนถูกสิ่งของตกหล่นใส่ขา ที่ข้างน่องซ้ายเกิดเป็นหลุมบาดแผลพุพองเปิดออกเล็กน้อย หลังรถน้ำดับเพลิงจำนวน

ตลาดเก่าแก่สร้างด้วยไม้ ไวไฟไหม้ถี่ยิบช่วงฤดูร้อน ล่าสุดพรึบซ้ำที่ตลาดท่าเกวียน Read More »