วัดใหญ่แปดริ้วส่อวุ่น สิ้นเจ้าอาวาสชาวบ้านก่อหวอดต้านรักษาการมองไม่โปร่งใส

ฉะเชิงเทรา – วัดใหญ่แหล่งเที่ยวดังแปดริ้ว มีเจดีย์องค์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย และพระพิฆเนศปางนั่งประทานพรใหญ่ที่สุดในโลกส่อวุ่น หลังสิ้นเจ้าอาวาสผู้อุทิศตนพัฒนานำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ท้องถิ่น ชาวบ้านก่อหวอดเตรียมต้านผู้ช่วยนั่งรักษาการแทน มองไม่โปร่งใส ชี้พฤติกรรมไม่สนตั้งกรรมการและไวยาวัจกรวัด เบิกจับจ่ายแต่เพียงลำพัง ทำศรัทธาทรุดวัดเสื่อมโทรมผู้คนมาท่องเที่ยวทำบุญบางตาลดลง

วันที่ 27 เม.ย.68 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังที่วัดโพรงอากาศ ตั้งอยู่เลขที่ 43/2 ม.9 ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับทราบข้อมูลจากญาติโยมอุปัฏฐากรวมถึงชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงโดยรอบวัดว่า หลังจากที่เจ้าอธิการสมชาย พุทฺธสโร หรือพระอาจารย์สมชาย อดีตเจ้าอาวาสวัดโพรงอากาศ ที่เพิ่งมรณะภาพลงเมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 เวลา 02.30 น. รวมสิริอายุ 79 ปี พรรษา 59 ที่ผ่านมา และต่อมาได้มีการมอบหมายให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปหนึ่งวัย 46 ปีพรรษา 26 ขึ้นมารักษาการแทนในตำแหน่งเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน

แต่ปรากฏว่า หลังจากที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปนี้ ได้เข้ามารักษาการแทนในตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้ทำให้บรรดาญาติโยมเกิดความไม่สบายใจขึ้นหลายประการ ทั้งในเรื่องการเบิกจ่ายใช้เงินของวัดโดยไม่ผ่านการตั้งคณะกรรมการวัดหรือไวยาวัจกรดูแล และการปล่อยให้วัดเริ่มอยู่ในสภาพทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแสวงบุญลดน้อยลง และดูบางตาลงอย่างน่าใจหาย

สอบถามนายจิรวัฒน์ กิจสมานมิตร อายุ 89 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/8 ถ.บรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองและนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ประธานมูลนิธิจิรวัฒน์กิจสมานมิตร ซึ่งเคยเป็นโยมอุปัฏฐากพระอาจารย์สมชายและได้เข้ามาช่วยเหลือในการสร้างวัดแห่งนี้ให้เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ต้น กล่าวว่าในการเดินทางมาประชุมกรรมการมูลนิธิร่วมกับชาวบ้านในการเตริยมนำทุนการศึกษามามอบให้แก่เด็กนักเรียนในพื้นที่ ต.โพรงอากาศ จำนวน 72 ทุนเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า

ในอดีตนั้นนับแต่ปี พ.ศ.2526 ได้รู้จักกันดีกับหลวงพ่อสมชายด้วยท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบจึงได้มีโอกาสมาทำบุญร่วมกับท่านตลอด ต่อมาในปี 2549 ได้มีโอกาสได้เข้ามาสร้างจตุคามรามเทพ หาเงินเข้าวัดช่วยพระอาจารย์สมชายจนได้เงินเข้าวัดมาประมาณ 60-70 ล้านบาท ซึ่งในขณะนั้นกำลังโด่งดังมาก จากนั้นทางหลวงพ่อสมชายจึงได้ชวนให้มาช่วยสร้างพระพิฆเนศ (องค์ชมพู) ปางนั่งประทานพรใหญ่ที่สุดในโลก

และต่อมาท่านยังได้ชวนให้ตนเองซึ่งเป็นประธานมูลนิธิจิรวัฒน์กิจสมานมิตร ให้เข้ามามอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนจำนวน 5 โรงเรียนรวม 72 ทุนใน ต.โพรงอากาศ รวมถึงผู้ยากไร้และกลุ่มเปาะบางทั้ง 18 หมู่บ้าน แต่ท่านได้มรณภาพไปก่อน โดยที่ท่านได้ฝากไว้ว่าช่วยทำบุญตามความประสงค์ของท่านด้วยตามที่ท่านได้สั่งเสียไว้ให้สำเร็จลุล่วง และยังฝากให้ช่วยดูแลวัดให้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะดูแลให้ท่านอย่างไรจึงเป็นห่วงวัดแห่งนี้มาก

หลังได้มาพบว่าภายในวัดโพรงอากาศ หลังจากสิ้นพระอาจารย์สมชายไปแล้ว รักษาการเจ้าอาวาสมีการทำงานที่ไม่โปร่งใส โดยเป็นการทำโดยพละการและทำเองทุกอย่าง ซึ่งจริงๆ แล้ววัดจะต้องมีกรรมการหรือพระที่รู้เห็น รวมถึงญาติของท่านพระอาจารย์สมชายได้รู้เห็นด้วย และให้ได้เข้ามามีส่วนดูแลจึงจะโปร่งใส จากการกระทำที่เกิดขึ้นจึงไม่ถูกต้อง ส่วนในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดรูปต่อไปนั้น อยากจะขอให้คณะกรรมการและชาวบ้านในพื้นที่ ได้ลงความเห็นมีส่วนร่วมในการแต่งตั้งด้วย

ที่ผ่านมาได้เคยพยายามร้องขอให้รักษาการเจ้าอาวาสรูปนี้ได้เข้ามาพูดคุยกัน แต่เขาไม่ยอมเข้ามาคุยด้วย ขณะนี้จึงอยากให้ชาวบ้านช่วยกันในการดูแลวัดและคัดสรรว่าจะให้พระรูปใดได้เข้ามาดูแลวัดแห่งนี้ต่อไป โดยขอให้มีความโปร่งใสและซื่อสัตย์ เพราะหลังจากที่พระอาจารย์สมชายมรณภาพลงไปแล้ว วัดได้เปลี่ยนแปลงไปมาก และยังมีคนแอบไขตู้เซฟไปโดยพละการด้วย

นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในวัด เกิดเป็นหมู่เหล่าที่ไม่ถูกกัน เมื่อเรียกให้มาคุยกันก็ไม่ยอมมาคุย ตนจึงทำอะไรไม่ถูก และยังไม่สามารถทำตามคำสั่งเสียของท่านพระอาจารย์สมชายได้ในขณะนี้ จึงอยากให้ประชาชนชาวบ้านได้เป็นผู้ร่วมลงมติตัดสินดีกว่า เพราะประชาชนในพื้นที่จะทราบดีกว่าตนเองที่ใน 1 สัปดาห์จะเข้ามาช่วยดูแลวัดแค่เพียง 1 วันเท่านั้น เพราะต้องกลับบ้านใน กทม. นายจิรวัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับวัดโพรงอากาศแห่งนี้เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2520 โดยพระอาจารย์สมชาย ที่ได้รับการบริจาคที่ดินจากชาวบ้านมาจำนวน 48 ไร่ จากนั้นได้เริ่มก่อสร้างพระอุโบสถรูปทรงเจดีย์องค์ระฆังคว่ำสีทอง ขนาดใหญ่หรือมหาเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย เมื่อ ปชช.และนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านจะมองเห็นได้แต่ไกล ทั้งมหาเจดีย์สีทองและพระพิฆเนศองค์นั่งสีชมพู

ซึ่งในการประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้มีผู้นำชุมชนประกอบด้วย นายธนพัฒน์ ศรีอุไร กำนัน ต.โพรงอากาศ นายคิรินทร์ ฉ่ำสมบูรณ์ นายก อบต.โพรงอากาศ นางศุภมาศ ปิ่นเจริญ อบต. ม.17 และประธาน อสม. อำเภอบางน้ำเปรี้ยว น.ส.ระเพย พูลสวัสดิ์ ประธานกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ (กพสอ) และชาวบ้านรวมกว่า 70 คนมาเข้าร่วมรับฟัง ทั้งยังมีนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ อดีตนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา และอดีต สจ.บางส่วนได้เดินทางเข้ามาร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย