สนทะนาพร อินจันทร์

ส.ส.พื้นที่ขยับหนัก ส่งสัญญาณบ่งชี้บอกอะไรจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่

ฉะเชิงเทรา – ส.ส.พื้นที่แปดริ้วเดินสายขยับหนัก ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนประชาชนต่อเนื่อง คล้ายส่งสัญญาณเตือนบ่งชี้บอกอะไรจากลูกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังคดีชั้น 14 ยังวีโต้อึมครึมพร้อมปัญหาหลายด้านยังรุมเร้าที่อาจเกิดความไม่แน่นอนในรัฐบาล ขณะผลงานที่ผ่านมายังจับต้องได้ไม่ชัด ทำ ส.ส.เขตอาจต้องพึ่งคะแนนเสียงส่วนตัวในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไปที่อาจเกิดขึ้นในเร็ววันกว่าที่คิด วันที่ 30 พ.ค.68 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศทางการเมืองในสนามการเมืองใหญ่ พื้นที่ จ.ฉะเชิงเทราว่า ขณะนี้นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้เดินสายลงพื้นที่เยี่ยมเยือนประชาชนในเขตพื้นที่อย่างหนักและต่อเนื่องมาโดยตลอด หลังว่างจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เช่น การลงพื้นที่เดินสายเยี่ยมเยือนผู้ป่วยติดเตียงด้วยตนเอง การลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้าน รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนจนถึงในพื้นที่ เพื่อนำไปอภิปรายนำเสนอปัญหาเข้าสู่สภา ซึ่งล่าสุดได้นำคณะเดินทางลงไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ ต.บางกะไห อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และมอบสิ่งของเยี่ยมให้แก่ผู้ป่วยและผู้ดูแล โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวของ ส.ส.เขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทราในขณะนี้ ได้มีผู้สนใจทางการเมืองได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้หรือไม่ หรือเป็นการเตรียมการรักษาฐานคะแนนเสียงของตนเองเอาไว้ให้มีความเหนียวแน่นมากกว่าเก่า เนื่องจากผลงานของพรรคเพื่อไทยที่ได้เป็นฝ่ายรัฐบาลมาถึง 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันตามที่ได้เคยหาเสียงเอาไว้ ออกมาให้ประชาชนเห็นได้อย่างชัดเจน จึงทำให้ ส.ส.เขตพื้นที่เองนั้น ต้องมองมาที่ฐานคะแนนเสียงส่วนตัว หรือฐานคะแนนเสียงที่ ปชช.ต้องการจะเลือกเฉพาะที่ตัวบุคคลที่ชื่นชอบ […]

ส.ส.พื้นที่ขยับหนัก ส่งสัญญาณบ่งชี้บอกอะไรจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ Read More »

เมียห้ามไม่ฟัง หนุ่มชาวนาเห็นผึ้งทำรังพุ่มไม้ ริอ่านเข้าตีสุดท้ายถูกรุมต่อยหวิดดับ

ฉะเชิงเทรา – เมียห้ามไม่ฟัง หนุ่มชาวนาเห็นผึ้งทำรังอยู่ในพุ่มไม้กลางท้องทุ่ง ริอ่านคิดเข้าตีฉกน้ำหวานสุดท้ายถูกผึ้งนับร้อยรุมต่อยพรุนทั่วตัว ถึงขั้นช็อกหมดสติคาที่ชีพจรหยุดเต้น ด้านเมียบอกห้ามแล้วไม่ฟังหลังวิ่งกลับมาตามชาวบ้านให้ออกไปช่วยทำ CPR ปั๊มหัวใจก่อนหามออกมาจากกลางท้องนาระยะไกลเกือบ 2 กม.อย่างทุลักทุเล เพื่อส่งต่อให้แก่หน่วยกู้ภัยฯ รีบช่วยเหลือนำส่งไปยัง รพ.สนามชัยเขต ล่าสุดฟื้นแล้วแต่ยังพูดคุยสื่อสารกันไม่ได้ วันที่ 28 พ.ค.68 เวลา 11.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุผึ้งรุมต่อยชายหนุ่มวัย 49 ปี ที่กลางท้องทุ่งนาปลายหมู่บ้านคลองยายสร้อย พื้นที่ ม.10 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จนทำให้เกิดมีอาการช็อกหมดสติชีพจรหยุดเต้น โดยมีชาวบ้านได้เข้าไปทำการช่วยเหลือปั๊มหัวใจจนมีชีพจรกลับคืนมาแล้ว จากนั้นได้พยายามช่วยกันหามนำออกมายังที่ริมถนนใหญ่ระยะทางห่างไกลถึงเกือบ 2 กม. เพื่อรอหน่วยกู้ภัยช่วยนำส่งต่อไปทำการรักษาตัวยังที่ รพ.สนามชัยเขต ทราบชื่อต่อมา คือ นายสมชาย พันธุ์อินทร์ป้อ อายุ 49 ปี สอบถามนางสมหมาย (นามสมมุติ) ภรรยาเล่าว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาได้พากันออกมาดูแปลงนา หลังจากที่มีฝนตกลงมาต่อเนื่องหลายวันหยุดตกด้วยกันจำนวน 2 คน แต่ระหว่างที่เข้ามาหลบแดดที่บริเวณใต้พุ่มไม้ นายสมชาย ได้พบว่ามีผึ้งเข้ามาทำรังอยู่ในพุ่มไม้

เมียห้ามไม่ฟัง หนุ่มชาวนาเห็นผึ้งทำรังพุ่มไม้ ริอ่านเข้าตีสุดท้ายถูกรุมต่อยหวิดดับ Read More »

เงาสะท้อนเศรษฐกิจ คนแปดริ้วตั้งป้ายขายที่ดินทั่วสารทิศริมถนนทุกเส้นทาง

ฉะเชิงเทรา – เงาสะท้อนเศรษฐกิจ คนแปดริ้วตั้งป้ายขายที่ดินกันทั่วทุกสารทิศ ในเกือบทุกเส้นทางการสัญจร ไม่ว่าจะขับรถผ่านเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใดทั่วทุกท้องถนน ล้วนต่างสามารถพบเห็นได้กับแผ่นป้ายปิดประกาศขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่มีโผล่พรึบขึ้นมาให้เห็นเต็มไปในทุกหย่อมหญ้า วันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ว่าตามท้องถนนริมเส้นทางการสัญจรเกือบทุกสายในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในขณะนี้สามารถพบเห็นได้กับแผ่นป้ายประกาศขายที่ดินทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่มีผุดขึ้นมาให้เห็นจนทั่วไปหมด ไม่ว่าจะเดินทางไปยังทิศทางใด สะท้อนให้เห็นถึงความขาดแคลนเงินตราของประชาชน ที่ต้องใช้จับจ่ายภายในครอบครัว หรือเงินขาดมือจนต้องพากันประกาศขายที่ดิน ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ไม่เว้นแม้แต่อาคารหรือที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้าง เช่น อาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนบ้านเรือนพักอาศัยที่บางรายต้องตัดสินใจขึ้นป้ายขายทิ้งยกหลัง พร้อมกับแปลงที่ดินที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง ทั้งในพื้นที่ตามชุมชนหมู่บ้าน ถนนเชื่อมระหว่างตำบลและริมถนนสายหลักเส้นทางการสัญจรขนาดใหญ่ 8 ช่องจราจร ล้วนต่างมีอสังหาริมทรัพย์ถูกขึ้นป้ายประกาศขายไปจนทั่วทุกพื้นที่ทั้งสิ้น ขณะบรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายสินค้าของผู้คนตามท้องตลาดค่อนข้างเงียบเหงา ปชช.ออกมาเดินในตลาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้แม่ค้าพ่อค้าต่างพากันบ่นระงมเป็นเสียงเดียวกันอย่างถ้วนหน้า และบางรายถึงกับร้องเรียกหารัฐบาลเมื่อชุดก่อนหน้า ในเชิงล้อสัพยอกว่า ให้อดีตผู้นำนั้นรัฐบาลชุดนั้นกลับมารายงานตัวต่อประชาชนด่วน หรือร้องหาว่า “ลุงอยู่ไหน ให้รีบกลับมา” ทำให้หลายคนที่กำลังเดินผ่านนั้นต่างพากันเดินอมยิ้มไปตามกัน ขณะกิจการร้านค้าหลายแห่ง ยังได้มีการขึ้นป้ายให้เซ้งต่อหรือให้เช่าพื้นที่ต่อ นอกจากนี้บางส่วนยังหันมาลดราคาค่าบริการเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้าน ท่ามกลางสภาวะที่คนกำลังไม่มีเงินสดติดมือหรือไม่กล้าจับจ่ายใช้เงิน เช่น ร้านตัดผมชายบางแห่งย่าน ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้ขึ้นป้ายคิดค่าบริการเหลือเพียง

เงาสะท้อนเศรษฐกิจ คนแปดริ้วตั้งป้ายขายที่ดินทั่วสารทิศริมถนนทุกเส้นทาง Read More »

มาไม่ตรงยุค รางวัลเชิดชูเกียรติองค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น อบจ.แปดริ้ว

ฉะเชิงเทรา – มาไม่ตรงยุค รางวัลเชิดชูเกียรติองค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น อบจ.แปดริ้ว มาล่าช้ากว่ายุคสมัย หลังคณะบริหารชุดเก่าผู้สร้างผลงานหมดวาระลงไปนานแล้ว ขณะทีมงานบริหารชุดใหม่ล่าสุดเข้ารับมอบรางวัลแทนหน้าบานกว่าชุดเก่า ทำชาวบ้านงุนงงผลงานใครทำไว้ วันที่ 24 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับข้อมูลจากทางฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา (อบจ.) ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 23 พ.ค.68 นายกลยุทธ ฉายแสง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มอบหมายให้ ดร.รัฐสภา นพเกตุ รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เป็นตัวแทนเดินทางไปรับมอบโล่เชิดชูเกียรติองค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ณ อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการมอบโล่เชิดชูเกียรติชุมชน องค์กร อำเภอ จังหวัด คุณธรรม ต้นแบบโดดเด่น จำนวน 253 แห่ง โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นหน่วยงานประเภทองค์กรที่ได้รับมอบโล่เชิดชูเกียรติองค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ที่จัดขึ้นโดยกรมการศาสนาในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ แต่ปรากฏว่าผู้สร้างผลงานอันโดดเด่นด้านคุณธรรมจนเป็นต้นแบบนี้ เมื่อปี พ.ศ.2567 นั้น

มาไม่ตรงยุค รางวัลเชิดชูเกียรติองค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น อบจ.แปดริ้ว Read More »

NGO เสียงแตกหนุนต้านนิคมบลูเทคขยายพื้นที่ ซัดกันนัวในเวทีรับฟังความเห็น

ฉะเชิงเทรา – NGO พรึบในเวทีรับฟังความคิดเห็นเดินหน้าขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ จาก 1,181 ไร่เป็น 1,872 ไร่ ทำบรรยากาศการรับฟังนักเคลื่อนไหวขาประจำเสียงแตก มีทั้งสนับสนุนและต่อต้าน เหตุจากทางผู้ประกอบการดูแลเอาใจใส่คนพื้นที่มาตลอดหลายปี ทั้งในช่วงระยะก่อนก่อตั้งโครงการแรกและหลังการได้รับอนุญาต ขณะกลุ่มคัดค้านเป็นนักเคลื่อนไหวจากนอกพื้นที่ ได้พยายามปลุกฟื้นขอคืนอาชีพนาขาวังและการเลี้ยงปูทะเลตามฤดูกาลให้เกิดขึ้นกลับมาใหม่ ทั้งที่ไม่มีผืนนาให้ชาวบ้านทำแล้ว วันที่ 23 พ.ค.68 เวลา 08.30-12.00 น. และ 13.30-16.00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ อบต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่รัศมี 5 กม. โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ เพื่อขยายโครงการเพิ่มเติมอีกจำนวน 691 ไร่จาก 1,181 ไร่เป็น 1,872 ไร่ ประกอบการทำรายงานอีไอเอ ในการขออนุมัติโครงการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปนั้น ได้มีประชาชนหลากหลายตำบล เดินทางเข้ามาร่วมรับฟังการบรรยายโครงการและสาระสำคัญในการดูแลด้านผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น จากการขยายโครงการในครั้งนี้ ซึ่งการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในส่วนขยายโครงการครั้งที่ 1 ท่ามกลางกลุ่มของนักเคลื่อนไหวประจำถิ่น ที่อยู่ในพื้นที่ อ.บางปะกง และเดินทางมาจากต่างพื้นที่ รวมถึงมีการนำมวลชนจากรอบนอกรัศมี 5

NGO เสียงแตกหนุนต้านนิคมบลูเทคขยายพื้นที่ ซัดกันนัวในเวทีรับฟังความเห็น Read More »

ดราม่าพลิกบุตรสาวโต้กระดานตัดพ้อลุงบุญศรี ขณะน้องสาวยันหลานทั้ง 3 ดีทุกคน

ฉะเชิงเทรา – ดราม่าพลิก บุตรสาวผู้ส่งเสียเลี้ยงดูให้โต้กระดานไวท์บอร์ดลุงบุญศรี ขณะน้องสาวคนเล็กร้องไห้จนเข่าทรุดหน้าพิธีศพ ระบุพี่ชายเป็นผู้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กยันหลานทั้ง 3 ช่วยส่งเสียกันดีทุกคน แต่คนถูกทอดทิ้งตัวจริงคือฝ่ายตนเองที่บุตรสาวแท้ๆไม่เคยเหลียวแลมานานกว่า 7 ปี เผยอาการผู้พี่ป่วยเป็นซึมเศร้าเคยพูดจะฆ่าตัวตายมาหลายครั้งนานนับปีแล้ว บอกหากเจ็บไข้ตายไปจะไม่เสียใจเลย วันที่ 21 พ.ค.68 เวลา 17.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาปลงศพวัดพรหมสุวรรณ ตั้งอยู่ ม.2 ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา บรรดาญาติและบุตรของนายบุญศรี อายุ 78 ปี ผู้ที่ก่อเหตุกลืนยานอนหลับแบบตำป่นกว่า 50 เม็ด ปลิดชีพตนเองภายในบ้านพัก ในพื้นที่ ม.1 ต.คลองนา ทั้งยังเขียนข้อความตัดพ้อต่อว่าบุตรชายหญิงทั้ง 3 คนอย่างรุนแรง หลังจากขอเงินเพื่อใช้ประทังชีวิตแล้วถูกปฏิเสธ ได้นำศพของนายบุญศรี มาประกอบพิธีทางศาสนาตั้งสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลตามประเพณี โดยที่มีนางบุญยงค์ อายุ 68 ปี น้องสาวคนสุดท้องจากท้องแม่เดียวกันทั้งหมด 3 คน ได้เดินทางมาจาก ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พร้อมกับบรรดาญาติและหลานที่เดินทางมาด้วย

ดราม่าพลิกบุตรสาวโต้กระดานตัดพ้อลุงบุญศรี ขณะน้องสาวยันหลานทั้ง 3 ดีทุกคน Read More »

สิ้นหวัง พ่อเลี้ยงลูก 3 คนจนเติบใหญ่ขอเงินประทังชีวิตยามชราถูกปฏิเสธปลิดชีพดับ

ฉะเชิงเทรา – สิ้นหวัง ในยุคเศรษฐกิจบีบรัดสังคมเสื่อมถอยความกตัญญูจืดจางหายไปจากวิถีสังคมไทย พ่อเขียนกระดานพรรณนาตัดพ้อถึงลูกชายหญิงทั้ง 3 คน ระบุเลี้ยงมาคนละ 20 ปีถูกกินแรงจนหมด ถึงบั้นปลายเอ่ยขอเงินประทังชีวิตกลับถูกปฏิเสธ บอกไม่มีให้อีกแล้วนะ ทำน้อยใจเขียนระบายตัดพ้อไว้บนกระดาน จากนั้นตัดสินใจส่งคำสั่งเสียถึงเครือญาติ สุดท้ายกรอกยานอนหลับทั้งกำมือลงคอ จบสิ้นชีวิตไปอย่างน่าสะเทือนใจในสังคมคนชราคาบ้านพัก วันที่ 20 พ.ค.68 เวลา 20.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าทำการตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ ที่บ้านพักหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านเหรียญทอง ด้านหลังห้างสรรพสินค้าตะวันออกคอมเพล็กซ์ พื้นที่ ม.1 ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับแจ้งจากทางญาติว่า มีชายวัยชราผูกคอตนเองเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพัก ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านแบบทาวน์เฮาส์ปลูกเรียงกันเป็นแถวขนาด 2 ชั้น พบชาวบ้านรอบข้างกำลังมุงดูกันอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน โดยที่ภายในพบร่างชายสูงวัยนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นชั้น 2 ใกล้กับประตูด้านหลังที่เชื่อมออกไปยังห้องครัว โดยที่มีเชือกไนล่อนสีเขียวพันธนาการติดอยู่ที่ตัวด้วย ลักษณะสวมเชื้อคอโปโลสีชมพูสามกางเกงขายาวสีดำ สภาพร่างกายเริ่มเขียวคล้ำแล้วโดยเฉพาะที่ปลายมือซีดจนเกือบเป็นสีดำสนิท ทราบชื่อต่อมา คือ นายบุญศรี อายุ 78 ปี และยังพบสิ่งที่น่าสะเทือนใจต่อผู้ที่ได้มาพบเห็น เป็นข้อความที่ถูกเขียนเอาไว้บนแผ่นป้ายไวท์บอร์ดภายในบ้าน ข้อความว่า “เสียดายแรงที่เลี้ยงมา

สิ้นหวัง พ่อเลี้ยงลูก 3 คนจนเติบใหญ่ขอเงินประทังชีวิตยามชราถูกปฏิเสธปลิดชีพดับ Read More »

เตรียมผุดนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ขนาบข้างเวลโกรว์บางปะกง

ฉะเชิงเทรา – เตรียมผุดนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 4,600 ไร่ขนาบข้างสอดแทรกคั่นกลางระหว่างนิคมฯ เอเชีย และเวลโกรว์ ขณะชาวบ้าน 2 จังหวัดใกล้แนวตะเข็บรอยต่อหวั่นผลกระทบตามมารอบด้าน หลังเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประกอบการทำ EIA รอบสองรุมซักข้อสงสัยคิวแน่นยาวเหยียด วันที่ 16 พ.ค.68 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่วัดเกาะแก้ว ตั้งอยู่เลขที่ 84 ม.7 ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปาการ ผู้ก่อตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมอารยะ ซึ่งนำโดยนายภัทรภูมิ สว่างพร้อม ผอ.บริหารจัดการเมืองและที่ดิน บริษัทอารยะแลนด์ ดิเวลลอปเม้นท์จำกัด พร้อมทีมงานบริษัทที่ปรึกษาโครงการ ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 เพื่อจัดทำร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อเดินหน้านำเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพิจารณา ประกอบคำขอจัดตั้งสร้างเป็นนิคมอุตสาหกรรมอารยะขึ้น บนเนื้อที่จำนวน 1,892 ไร่ จากที่ดินของโครงการจำนวนกว่า 4,600 ไร่ท่ามกลางข้อสงสัยและกังวลใจจากประชาชนในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด (สมุทรปราการและฉะเชิงเทรา) เนื่องจากพื้นที่โครงการอยู่ใกล้กับแนวตะเข็บรอยต่อของทั้ง 2

เตรียมผุดนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ขนาบข้างเวลโกรว์บางปะกง Read More »

ไล่หลัง กมธ.ช้างป่า หลังลงพื้นที่ดูคูกันช้างเมื่อวันวาน ชาวบ้านถูกทุบดับหนึ่ง

ฉะเชิงเทรา – ไล่หลัง กมธ.แก้ไขปัญหาช้างป่าสภาผู้แทนราษฎร หลังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าและดูจุดพังทะลายเสียหายของคูกันช้างแบบดาดคอนกรีต ที่กำลังเดินหน้าก่อสร้างสวมทับแนวคูดินเดิมขึ้นมาใหม่เมื่อวันวาน ชาวบ้านวัย 60 ปีถูกทุบดับส่งท้ายขบวน หลังหายตัวออกจากบ้านบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำคลองสียัดท่าตะเกียบ วันที่ 14 พ.ค.68 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณพื้นที่ป่าเกาะสามเค ท้ายหมู่บ้านแปลงเสมา พื้นที่ ม.19 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านเป็นชายวัย 60 ปี ถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต ทราบซื่อต่อมา คือ นายสมพร มียิ่ง หลังจากทางญาติได้แจ้งต่อทางเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคามจุด อ.ท่าตะเกียบว่า ได้สูญหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาและยังตามหาตัวไม่พบ จึงทำให้มีการระดมกำลังกันออกค้นหาตั้งแต่เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ที่ผ่านมาท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนักเกือบตลอดทั้งวัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ออกลาดตะเวนเข้าไปทางหมู่บ้านเขาตลาด จนมาพบว่ากลายเป็นศพที่ถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิตไปแล้ว ที่พิกัด 47P 99073 E 1491593 N ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่อยู่ถัดออกมาจากหมู่บ้านท่าคาน ที่อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำคลองสียัดทางตอนเหนือ และอยู่ตรงข้ามฝั่งเขากับป่าที่มีลักษณะแยกย่อยออกมาเป็นเกาะของหมู่บ้านเขาวงศ์ ที่มีพื้นที่ติดกับแนวเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ป่า 5 จังหวัดภาคตะวันออก(ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง

ไล่หลัง กมธ.ช้างป่า หลังลงพื้นที่ดูคูกันช้างเมื่อวันวาน ชาวบ้านถูกทุบดับหนึ่ง Read More »

กมธ. ชวนหน่วยงานรัฐลงดูสภาพคูกันช้างดาดคอนกรีตพังทลายด้วยตาถึงที่

ฉะเชิงเทรา – กมธ.วิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานและศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน รวมทั้งมาตรการเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ลงดูสภาพคูกันช้างแบบดาดคอนกรีตที่พังทลายลงหลังเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จได้ไม่นานใน อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยตาจนถึงที่ เพื่อสำรวจตรวจสอบความเสียหายพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันที่ 13 พ.ค.68 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานและศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน รวมทั้งมาตรการเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งนำโดยนายศักดิ์ชาย ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ประกอบด้วยอธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายกวิศวรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และตัวแทนจากสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 6 ปราจีนบุรี ลงมาดูสภาพในพื้นที่จริงของคูกันช้างแบบดาดคอนกรีตที่พังทลายลงไปในคูดินแบบร่องลึก 4 เมตรเดิม ทั้งที่เพิ่งก่อสร้างขึ้นมาใหม่ และเริ่มแล้วเสร็จบางส่วนนับตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2567 จากพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ไปยังในเขตพื้นที่ อ.สนามชัยเขต ในระยะ 3 กม.แรก ตามวงเงินงบประมาณโครงการปี 2567 ในระยะเริ่มต้น เพื่อเป็นการทดลองก่อสร้างตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการชุดนี้ รวมระยะทาง 10 กม. เป็นเงินงบประมาณกว่า

กมธ. ชวนหน่วยงานรัฐลงดูสภาพคูกันช้างดาดคอนกรีตพังทลายด้วยตาถึงที่ Read More »