NGO เสียงแตกหนุนต้านนิคมบลูเทคขยายพื้นที่ ซัดกันนัวในเวทีรับฟังความเห็น

ฉะเชิงเทรา – NGO พรึบในเวทีรับฟังความคิดเห็นเดินหน้าขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ จาก 1,181 ไร่เป็น 1,872 ไร่ ทำบรรยากาศการรับฟังนักเคลื่อนไหวขาประจำเสียงแตก มีทั้งสนับสนุนและต่อต้าน เหตุจากทางผู้ประกอบการดูแลเอาใจใส่คนพื้นที่มาตลอดหลายปี ทั้งในช่วงระยะก่อนก่อตั้งโครงการแรกและหลังการได้รับอนุญาต ขณะกลุ่มคัดค้านเป็นนักเคลื่อนไหวจากนอกพื้นที่ ได้พยายามปลุกฟื้นขอคืนอาชีพนาขาวังและการเลี้ยงปูทะเลตามฤดูกาลให้เกิดขึ้นกลับมาใหม่ ทั้งที่ไม่มีผืนนาให้ชาวบ้านทำแล้ว

\"ขอขยายพื้นที่\"

วันที่ 23 พ.ค.68 เวลา 08.30-12.00 น. และ 13.30-16.00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ อบต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่รัศมี 5 กม. โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ เพื่อขยายโครงการเพิ่มเติมอีกจำนวน 691 ไร่จาก 1,181 ไร่เป็น 1,872 ไร่ ประกอบการทำรายงานอีไอเอ ในการขออนุมัติโครงการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปนั้น ได้มีประชาชนหลากหลายตำบล เดินทางเข้ามาร่วมรับฟังการบรรยายโครงการและสาระสำคัญในการดูแลด้านผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น จากการขยายโครงการในครั้งนี้

\"รับฟังความคิดเห็น\"

ซึ่งการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในส่วนขยายโครงการครั้งที่ 1 ท่ามกลางกลุ่มของนักเคลื่อนไหวประจำถิ่น ที่อยู่ในพื้นที่ อ.บางปะกง และเดินทางมาจากต่างพื้นที่ รวมถึงมีการนำมวลชนจากรอบนอกรัศมี 5 กม. เดินทางเข้ามาร่วมรับฟังด้วย จึงทำให้บรรยากาศในช่วงท้ายของการบรรยายที่ได้เปิดให้ ปชช. ได้แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะเข้าสู่เวทีการรับฟัง ในการให้ทางโครงการได้นำไปพิจารณาปรับแก้ไข ตามข้อห่วงใยที่เป็นความกังวลใจต่างๆ จากชาวบ้านคนในพื้นที่ ที่อาจได้รับผลกระทบ

\"ฟังเสียง

ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ได้แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางชื่นชมต่อนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ เนื่องจากตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี หลังจากโครงการนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้เกิดขึ้น รวมถึงช่วงก่อนหน้าการจัดตั้ง ทางผู้ประกอบการได้เข้ามาดูแลคนในพื้นที่มาก่อนอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างดี เช่น การจัดทำโครงการหมู่บ้านบลูเทค เพื่อช่วยเหลือ ปชช.ที่ไม่มีบ้านอยู่อาศัยได้มีโอกาสได้มีบ้านเป็นของตนเอง ทั้งยังมีโครงการสนับสนุนด้านอาชีพต่างๆ ให้เกิดขึ้นในพื้นที่

\"โครงการขยายพื้นที่\"

รวมถึงการฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น การปลูกป่าสมุนไพรชายเลนและต่อยอดสร้างแบรนด์ให้เกิดเป็นอาชีพแก่ชุมชน จึงทำให้แรงคัดค้านหรือต่อต้านจากชาวบ้านโดยแท้จริงนั้นไม่เกิดขึ้นจากในพื้นที่ แต่ในส่วนของนักเคลื่อนไหวนั้น ผู้ที่เป็นนักเคลื่อนไหวประจำถิ่นในพื้นที่ อ.บางปะกง เช่น นายชวลิต หงอเทียด อดีตนักต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน รวมถึง น.ส.สายรุ้ง เกิดแก้ว นักเคลื่อนไหวใต้ดินใน ต.ท่าข้าม กลับได้กล่าวให้การสนับสนุนต่อโครงการ แต่ได้เน้นและกำชับให้ทางโครงการได้จัดทำพื้นที่สีเขียว และมีการดำเนินงานอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ มีความจริงใจไม่รับอุตสาหกรรมต้องห้ามเข้ามายังในพื้นที่

\"ส่วนขยาย\"

ขณะที่กลุ่มของนายกัญจน์ ทิตติยกุล นักเคลื่อนไหวจาก อ.บางคล้า ได้พยายามเรียกร้องให้ทางนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ คืน อาชีพการทำนาขาวัง และการเลี้ยงปูทะเลตามฤดูกาลให้แก่ชาว ต.เขาดิน ที่ระบุว่าสร้างรายได้ถึงปีละ 36,000 บาทต่อไร่ โดยอ้างว่าเป็นเศรษฐกิจเกษตรที่มีมูลค่าสูง ทั้งยังชูว่าเป็นพื้นที่แหล่งเพาะพันธุ์ข้าวหอมปทุมชั้นดีระดับคุณภาพชั้นนำของประเทศ ที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ และขอให้มีการกันพื้นที่รับน้ำเชิงระบบนิเวศไว้ในโครงการด้วย ทั้งยังแสดงความเป็นห่วงถึงการสร้างคันกั้นน้ำสูง 2.7 เมตรจากระดับน้ำทะเลว่า จะขวางทางน้ำทำน้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ และได้คัดค้านการขยายพื้นที่โครงการ

\"กลุ่มนายกัญจน์

นอกจากนี้ทางตัวแทนเครือข่าย ทสม. ใน ต.เขาดิน ยังเรียกร้องขอให้ทางโครงการเปิดพื้นที่ริมลำรางน้ำให้รถแบคโฮสามารถเข้าไปขุดลอกได้ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากลำรางและคลองสาธารณะเดิมที่อยู่ในพื้นที่ของนิคมฯ แห่งนี้ได้ด้วย

\"ชาวบ้านมาร่วมรับฟัง\"

ขณะที่ นายเดชาธร เดชาไพศาลกิต นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมประจำหอการค้าฉะเชิงเทรา ได้เสนอให้สร้างสวนสุขขภาพ สถานที่ออกกำลังกายและเปิดให้ ปชช.ได้เข้าไปใช้ในพื้นที่ของโครงการบริเวณติดกับแม่น้ำบางปะกงด้วย รวมถึงการจัดการระบบน้ำเสียที่ไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง โดยหวั่นถึงผลกระทบจากร้านค้าอาหารในนิคมฯ ที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำเติมจากจุดพักรถเขาดิน ที่มีน้ำเสียจากร้านค้าร้านอาหารไหลล้นลงมาสู่ทางคู่ขนานและไหลลงแม่น้ำบางปะกง จนทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย

\"ขอเข้าลอกลำราง\"

โดยที่นายชวลิต หงอเทียด นักเคลื่อนไหวประจำถิ่นได้ลุกขึ้นตอบโต้กลุ่มนักเคลื่อนไหวจาก อ.บางคล้า ว่าพื้นที่นิคมแห่งนี้มีขนาดเล็ก ทางเครือข่ายจาก อ.บางคล้า จะต้องการพื้นที่รับน้ำมากสักขนาดไหน พร้อมยังระบุว่าในเรื่องของการพัฒนาที่ต้องเดินหน้านั้นไม่ควรคัดค้านไปในทุกเรื่อง โครงการไหนที่เป็นประโยชน์ต่อคนในพื้นที่ก็ควรสนับสนุน ที่ผ่านมาตนถูกมองว่าเป็นตัวป่วนในหลายๆ สถานที่ แต่ตนเองนั้นป่วนด้วยเหตุและผล เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นสมควรที่จะมีอยู่ใกล้กับชุมชนหรือไม่ และไม่ได้ชี้ซั้วคัดค้านไปในทุกเรื่องจนมั่วไปหมดเหมือนกับบางกลุ่มที่ทำอยู่

\"เสียงจากนอกพื้นที่\"

และเรื่องเก่านั้นไม่ควรนำมาพูดอีก ใครจะบริโภคข้าวสารอย่างที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างเพราะต้องใช้ระยะเวลาในการเพาะปลูกนานมากกว่าข้าวสายพันธุ์อื่น จนได้ถูกยกเลิกสายพันธุ์ข้าว กข 49 ไปแล้ว หากจะสนับสนุนก็ขอให้นำไปสนับสนุนการปลูกที่ อ.บางคล้า ทั้งยังต่อว่าอีกฝ่ายด้วยว่าไปนำพา NGO นอกพื้นที่เข้ามาร่วมด้วย นายชวลิต ขึ้นตอบโต้นักเคลื่อนไหวอีกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาคัดค้านโครงการ

\"นายชวลิต

ส่วนด้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ท่าข้าม ซึ่งอยู่ห่างไกลเกินกว่ารัศมี 5 กม. อีกด้านของ ถนนสาย 34 (บางนา-ตราด) ได้แสดงความเห็นว่า ขอให้ทางโครงการเว้นพื้นที่สีเขียวไว้ให้สัตว์ได้อยู่อาศัยตามธรรมชาติได้บ้าง เช่น ลิง งู หนู และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เพราะหลังจากสัตว์เหล่านี้ไม่มีที่อยู่ ได้พากันเข้ามายังในพื้นที่ของชาวบ้าน จนได้รับผลกระทบ ส่วนการจ้างงานนั้นขอให้รับชาวบ้านในพื้นที่อย่างน้อยร้อยละ 10 และหากมีข้อมูลข่าวสารหรืองานวิจัยวิเคราะห์อะไรเกิดขึ้นในนิคม ขอให้ทางโครงการได้นำไปปิดประกาศไว้ในหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ด้วย