ฉะเชิงเทรา – ช้างป่าเขาอ่างฤาไนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกยังไม่ทันได้ทดลองใช้ แต่แนวคูกันช้างคอนกรีตเพิ่งสร้างเสร็จใหม่เอี่ยมพังถล่มลงหลายจุดตลอดแนวกว่า 3 กม. มูลค่านับสิบล้านบาท ขณะแผนงานโครงการมุ่งเป้าก่อสร้างโดยรอบพื้นที่เพื่อแยกคนออกจากช้างป่าระยะ 150 กม. แต่เพียงเริ่มต้นโครงการแรกระยะ 10 กม.กลับพังทลายไม่เป็นท่า ค้านสายตาชาวบ้านที่จับจ้องมองดูอยู่บนสื่อสังคมถูไถไปบนหน้าจอทัชสกรีน
วันที่ 7 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.00 น. พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อมาดูความเสียหายของแนวแบริเออร์ดาดคอนกรีตที่เริ่มก่อสร้างขึ้นตามโครงการก่อสร้างแนวคูกันช้างแบบใหม่ ตามข้อเสนอแนะของ กมธ.ในการแก้ไขปัญหาช้างป่า ทับคูกันช้างแบบร่องลึกประมาณ 4 เมตรที่สร้างขึ้นด้วยแนวดินเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้ดินพังทลาย และทำให้ช้างป่าสามารถเหยียบปีนขึ้นออกมาได้อีก หลังจากมีภาพปรากฏผ่านทางสื่อสังคมโซเชียล พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้าน ในช่วงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานับแต่เมื่อปลายที่ 2567
ที่ได้มีภาพถ่ายของแนวแบริเออร์ดาดคอนกรีตที่เพิ่งก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ทรุดตัวพังทลายลงหลายจุด ตลอดระยะทางประมาณ 3 กม. หลังจากที่ได้เริ่มมีการลงมือก่อสร้างตามโครงการนี้ขึ้น ด้วยเงินงบประมาณปี พ.ศ.2567 ในโครงการระยะแรกตลอดความยาวทับแนวคูเดิม 10 กม.มูลค่า กม.ละ 4.2 ล้านบาทรวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท จากจุดเริ่มต้นโครงการในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ไปยังเขตพื้นที่ อ.สนามชัยเขต
สำหรับโครงการก่อสร้างแบริเออร์ดาดคอนกรีตทับแนวคูกันช้างเดิมแบบร่องดินลึกนั้น เป็นการหาวิธีการและแนวทางในการป้องกันเพื่อแยกช้างป่าออกจากคนของ “คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานและศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน รวมทั้งมาตรการเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ” ที่ต้องการให้ช้างป่าควรอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ไม่ออกไปรุกที่คน
จึงได้มีข้อเสนอแนะโครงการก่อสร้างแนวแบริเออร์ทับคูกันช้างรูปแบบนี้ขึ้นมาเป็นครั้งแรกของประเทศ โดยมีส่วนราชการได้นำไปออกแบบในการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนี้ ผู้รับเหมาจะต้องรับประกันความเสียหายเป็นระยะเวลา 2 ปี หลังจากส่งมอบงานตามที่ระบุไว้ในสัญญาการว่าจ้างทั้งหมด