ฉะเชิงเทรา – ตลาดเก่าแก่สร้างด้วยไม้สุดไวไฟในฤดูร้อน หลังพรึบลุกไหม้เกิดขึ้นซ้ำซากถี่ยิบที่ตลาดท่าเกวียนแบบวันเว้นวัน ล่าสุดเกิดขึ้นที่ถนนเทศบาลซอย 7 เยื้องจากจุดเกิดเหตุเดิมเมื่อวันวานในซอย 8 เพียง 1 ซอย แต่โชคดีที่เกิดขึ้นในเวลากลางวันมีผู้คนพบเห็นก่อนช่วยกันดับ พร้อมรถน้ำ 4 คันระดมฉีดจนเอาอยู่ได้ในที่สุด ขณะนักผจญเพลิงถูกสะเก็ดไฟปลิวใส่เจ็บ 1 ราย
วันที่ 25 เม.ย.68 เวลา 14.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่บนอาคารไม้เก่าแก่ 2 ชั้นเลขที่ 48/3 และ 48/4 ถนนเทศบาล 7 ภายในตลาดท่าเกวียนพื้นที่ ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์โบราณปลูกสร้างเรียงรายเป็นแถวต่อเนื่องกันริมแนวถนนทางหลวงสาย 3378 และตามซอยแยก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายกิตติศักดิ์ ยะคเรศ อายุ 36 ปี นักผจญเพลิงจากเทศบาลตำบลพนมสารคาม ที่ได้เข้าไปใช้น้ำดับเพลิงอยู่ภายในบริเวณที่เกิดเหตุ จนถูกสิ่งของตกหล่นใส่ขา ที่ข้างน่องซ้ายเกิดเป็นหลุมบาดแผลพุพองเปิดออกเล็กน้อย
หลังรถน้ำดับเพลิงจำนวน 4 คัน จากเทศบาลตำบลพนมสารคาม เทศบาลตำบลบ้านซ่อง เทศบาลตำบลเกาะขนุน และ อบต.หนองยาว เข้าทำการควบคุมเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบลง พบความเสียหายที่ผนังฝาบ้านบนชั้น 2 จำนวน 2 ห้องติดกัน คือ อาคารพาณิชย์เลขที่ 48/3 ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง และอาคารพาณิชย์เลขที่ 48/4 ร้านก๋วยเดี๋ยวหมูตุ๋น เนื้อตุ๋น
สำหรับจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ อยู่บริเวณกลางซอยทางเข้าสู่โรงเรียนจุฑาทิพย์ ซึ่งเป็นซอยฝั่งตรงข้ามเยื้องกับตลาดสดเย็นในซอยเทศบาล 8 ที่เพิ่งถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อคืนวานนี้ (เวลา 23.40 น. 23 เม.ย.68) จนได้รับความเสียหายอย่างหนักจำนวน 20 คูหา หรือห่างจากจุดเกิดเหตุเมื่อวานก่อนเพียง 80 เมตรเท่านั้น หลังเกิดเหตุได้มี ร.ต.ท.หญิง สุชานันท์ พรหมมะ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม เดินทางมาสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ ซึ่งยังอยู่ระหว่างรอให้ทาง จนท.พิสูจน์หลักฐานเดินทางเข้ามาตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในครั้งนี้ต่อไป
ขณะเดียวกัน นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา และนายสุพจน์ ตรีรัตนนุกูล นายอำเภอพนมสารคาม ได้รีบรุดเดินทางลงมาดูจนถึงในที่เกิดเหตุในทันทีด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเหตุที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องบ่อยครั้ง และเกือบจะซ้ำซากใกล้กันกับจุดเดิม ที่เกิดเพลิงไหม้ชุมชนขนาดใหญ่จนได้รับความเสียหายอย่างหนักเมื่อวันก่อน จากนั้นจึงได้เดินทางไปดูยังจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้จำนวน 20 คูหา และไปให้กำลังใจชาวบ้านผู้ประสบอัคคีภัยพร้อมกับมอบถุงยังชีพให้แก่ ปชช. ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้