adap

กฟผ. ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ บริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ จำกัด เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน สำหรับพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ช่วยสนับสนุนให้ กฟผ. วางแผนบริหารจัดการระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพ          นายเสน่ห์ ตรีขันธ์ รองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง (รวส.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้แทน กฟผ. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือการรับ-ส่งข้อมูลการพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน กับ นายอรรถพงศ์ สถิตมโนธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ จำกัด (SCG Cleanergy) โดยมี นางสมฤดี ทิพย์มาบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีระบบกำลังไฟฟ้ารูปแบบใหม่ (อทม.) และนายธนาพล เบญจวงศ์เสถียร ผู้จัดการฝ่าย Renewable Power PPA Business บริษัท เอสซีจีฯ ร่วมพิธี เมื่อวานนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2568) พร้อมด้วยผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน อทม.

กฟผ. ตระหนักถึงความสำคัญของชุมชน เน้นการป้องกันดูแลสิ่งแวดล้อม และตรวจวัดค่าแรงสั่นสะเทือนจากการทำเหมืองอย่างเคร่งครัด ทำให้สามารถควบคุมได้ไม่เกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ ควบคู่กับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกอย่างต่อเนื่อง            นายสุชาติ ตุ่นแก้ว ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากกรณีชาวบ้านแม่จาง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ร้องเรียนบ้านเรือนเกิดรอยร้าว ซึ่งคาดว่ามาจากแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดเหมืองนั้น กฟผ. มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รีบส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดวัดค่าแรงสั่นสะเทือนโครงการเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมเคมี จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย      – บริเวณถ้ำช้างเผือกห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.27 กิโลเมตร     – บริเวณแนวสายส่งไฟฟ้าห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.17 กิโลเมตร     – บริเวณเชิงดอยผาตูบห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 1.10 กิโลเมตร      – บริเวณสำนักสงฆ์ถ้ำอินทร์เนรมิตห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.97 กิโลเมตร            ขณะที่ระยะห่างจากขอบพื้นที่โครงการถึงหมู่บ้านแม่จาง 2.8 กิโลเมตร และห่างจากบ้านข่วงม่วง 2.3 กิโลเมตร โดยพบว่า

กฟผ. ร่วมกับกระทรวงพลังงาน กรมควบคุมมลพิษ GISTDA และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือด้านคุณภาพอากาศ ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลภาคพื้นดินและอวกาศ วิเคราะห์สาเหตุมลพิษและฝุ่น PM2.5 มุ่งกำหนดนโยบายปรับปรุงคุณภาพอากาศอย่างตรงจุด เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีและลมหายใจสะอาดของคนไทย กระทรวงพลังงาน กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือด้านคุณภาพอากาศ “Breathe Our Future: Space & Sensor Synergy\” รวมพลังเพื่อลมหายใจแห่งอนาคต ณ ห้องออดิทอเรียม อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 นายสมภพ พัฒนอริยางกูล รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ขับเคลื่อนนโยบายการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและ PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก โดยวางโครงสร้างพื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์สันดาป การยกระดับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง การนำชีวมวลมาผลิตไฟฟ้าเพื่อลดการเผาในที่โล่ง และสนับสนุนหน่วยงานภาคีเครือข่ายพัฒนานวัตกรรมตรวจวัดคุณภาพอากาศ (Sensor for

ตอกย้ำความเป็นเหมืองต้นแบบที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าพัฒนาเหมือง ฟื้นฟูพื้นที่ สร้างความร่วมมือกับชุมชนและลดมลพิษ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เหมืองแม่เมาะ รับรางวัลสถานประกอบการอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานที่มีการดำเนินงานตามมาตรฐานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR-DPIM Continuous Award 2024) ประเภทเหมืองแร่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา จัดโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) โดยมีนายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นประธานในพิธี ซึ่ง กฟผ. ได้รับรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเป็นเหมืองแร่ต้นแบบที่ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยมีนายธิติพันธ์ พงษ์รามัญ หัวหน้ากองสิ่งแวดล้อมเหมือง (กสม-ช.) เป็นผู้แทน กฟผ. เหมืองแม่เมาะ เข้ารับรางวัล ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร กฟผ. เหมืองแม่เมาะ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการเหมืองแร่ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดรับตามมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยบริหารจัดการทรัพยากรแร่อย่างมีประสิทธิภาพและดำเนินมาตรการป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชน นอกจากนี้ยังเดินหน้าฟื้นฟูพื้นที่เหมืองและเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อให้เหมืองสามารถอยู่ร่วมกันกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน