👉 สามนักวิชาการด้านกฏหมายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ : ผศ.ดร. รณกรณ์ บุญมี อาจารย์ประจำศูนย์กฏหมายอาญา ศ.ดร. ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ ตั้งวงแกะรอยจากเนื้อหาคำพิพากษา เทียบเคียงคำให้การพยานชั้นไต่สวน และกฏหมายอื่น ๆ ประกอบ
พบหนึ่งในสิ่งผิดปกติที่น่าตกใจคือ การเลือกบันทึกคำให้การพยานปากเอกของโจทก์ที่ให้การปรักปรำ กสทช. พิรงรอง “คือผู้สั่งการ” และละเว้นการบันทึกคำให้การพยานฝ่ายจำเลยที่โดนอ้างถึงโดยยืนยันว่าเหตุการที่ตนถูกอ้างว่าตนเองเป็นผู้บอกว่าจำเลยเป็นผู้สั่งการนั้น “ไม่เคยเกิดขึ้น”
📄 ในการบันทึกคำพิพากษาที่ยาว 25 หน้า ไม่ปรากฏคำให้การดังกล่าวหรือแม้แต่การแก้ต่างใด ๆ ของจำเลย มีแต่การบันทึกเฉพาะข้อกล่าวหาของโจทก์ และความเห็นของศาลอย่างละ 12 หน้าเท่า ๆ กัน โดยมีการกล่าวถึงข้อแก้ต่างของจำเลยในหน้าสุดท้ายเพียงสั้น ๆ ว่า เป็นข้อแก้ต่างที่ลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักในการโต้แย้งข้อกล่าวหา จึงพิพากษาลงโทษจำคุกสองปีไม่รอลงอาญา โดยไม่มีคำอธิบายเหตุผลในการลงโทษขั้นรุนแรง
💬 โดยภาพรวมสรุปได้ว่า นี่อาจเป็นเหตุที่ทำให้เชื่อว่าการฟ้องของโจทก์อาจเป็นการฟ้องปิดปาก ที่จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้ผู้มีหน้าที่กำกับดูแลปล่อยเกียร์ว่างกับการคุ้มครองประโยชน์ประชาชน หากเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายแก่เอกชน
—–
👀 อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://www.tcc.or.th/20322568_pirongrong-law_news/
🔴 ดูเสวนาวิชาการย้อนหลังได้ที่ :: https://www.facebook.com/share/v/1NnnPtq2fv/?mibextid=wwXIfr