ภัยพิบัติ

สตูลฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัดรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ในพื้นที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ให้กับบุคลากรภายในศาลากลาง โดยการฝึกอบรมในช่วงเช้า เริ่มต้นด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการดับเพลิงเบื้องต้น การใช้อุปกรณ์ดับเพลิงอย่างถูกต้อง และแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น วิธีการแจ้งเหตุ การประเมินสถานการณ์ และการอพยพอย่างปลอดภัย โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ความรู้  โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม ช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. เป็นการฝึกซ้อมเสมือนจริง โดยจำลองสถานการณ์ไฟไหม้ภายในอาคารศาลากลางจังหวัดสตูล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์เพลิงไหม้ ที่ห้องสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 2 อาคารหลังเก่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการดับไฟเบื้องต้น แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเพลิงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อพยพ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสตูล โรงพยาบาลสตูล มูลนิธิธรรมรังสี สถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสตูล และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสตูล ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมสถานการณ์ ได้ในเวลาประมาณ 11.30 น. โดยมีการสั่งอพยพบุคลากรออกจากอาคารอย่างเป็นระบบ รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยดับเพลิง หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนเกิดความคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้อง ภายหลังการฝึกซ้อม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวให้โอวาท พร้อมสรุปผลการฝึกซ้อม […]

ชัยภูมิ – ชาวบ้านสุดเศร้า หลังพระครูเจ้าอาวาสวัดดังเร่งโหมงานบุญผะเหวดมาหลายวัน ก่อนพาพระลูกวัดออกบิณฑบาตตามปกติ บ่นอากาศร้อนจัดจนทนไม่ไหวให้พระลูกวัดพาไปหาหมอและกลับวัดไปพักในกุฏิได้ไม่นาน ก่อนพระลูกวัดจะเข้าไปดูอาการพบเกิดอาการลมแดดจับ-ฮีทสโตรก ช็อกล้มมรณภาพคาห้องน้ำในกุฏิ! ( 27 มี.ค.68 ) เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค.68 ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ตำบลผักปัง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ต่างพากันตกใจจำนวนมากหลังทราบข่าวว่า พระครูคำพีระ  สิทธิกุล อายุ 66 ปี 44 พรรษา เจ้าอาวาสวัดบูรพาบ้านแข้ หมู่  5 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นเจ้าคณะตำบลผักปัง เขต 2 อำเภอภูเขียว ได้มรณภาพกะทันหัน ในห้องน้ำในกุฏิ ที่หลวงพ่อจำวัดอยู่ และพระลูกวัดไปพบจึงช่วยกันพาตัวส่งรักษาตัวที่ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ มาตั้งแต่ช่วงเวลา 18.30 น.ของวันที่ 26 มี.ค.68 ทางคณะแพทย์สุดเยื้อชีวิตไว้ได้  ก่อนถูกนำร่างพระครูคำพีระ สิทธิกุล นำกลับมาบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่ศาลาวัดบูรพาบ้านแข้ ก่อนที่ชาวบ้านศิษย์ยานุศิษย์จำนวนมากทราบข่าวและพากันเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยกันจำนวนมากภายในวัด ชาวบ้าน ญาติโยม นับร้อยคนต่างพากันกลั่นน้ำตาไม่อยู่

เชียงใหม่-หวั่นโดรนเถื่อนชนเฮลิคอปเตอรดับไฟป่า AEROSky จัดระเบียบ    ระดมโดรนจิตอาสา เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 มีค.68  ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการและฝึกอบรมการใช้โดรนสนับสนุนการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่  นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)  กล่าวว่า “วิทยุการบินฯ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้วางแผนเชิงรุก ในการสื่อสารและสร้างความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการบินโดรน ในห้วงอากาศระดับต่ำอย่างปลอดภัย จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการและฝึกอบรมการใช้โดรนสนับสนุนการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ขึ้นในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ร่วมเข้าประชุมและรับการฝึกอบรม จากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมถึงอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประมาณ 200 คน ซึ่ง วิทยุการบินฯ ได้คิดค้นและพัฒนาแอพพลิเคชั่น AEROSky เพื่อใช้ในการบริหารจัดการห้วงอากาศ และติดตามข้อมูลการปฏิบัติการบินโดรน ผ่านทางระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ โดยจะนำเข้าใช้งานในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อบูรณาการการปฏิบัติของหน่วยงานภาครัฐในการรับมือสถานการณ์ไฟป่า

สระแก้ว – เกิดเหตุพายุลูกเห็บถล่มจังหวัดสระแก้วนานนับชั่วโมง นายก อบจ.สระแก้ว สั่งเตรียมพร้อมเข้าข่วยเหลือทันที หากชาวบ้านประสบภัยจากพายุฤดูร้อน ขณะที่หลายพื้นที่ โรงเรียนและหลายอำเภอประสบเหตุ เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 16 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนตกลมกระโชกแรงในหลายอำเภอของจังหวัดสระแก้ว ในบางพื้นที่มีฝนตกอย่างหนักนานนับชั่วโมง พร้อมกับมีลมกระโชกแรง พัดเอาลูกเห็บจำนวนมากตกลงด้วย สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเขตพื้นที่เมืองสระแก้ว เกิดฝนตกหนักมาก ทั้งลม ฝน ลูกเห็บ ตกหลายจุด โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองสระแก้ว เทศบาลตำบลท่าเกษม และในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลสระขวัญ ได้เกิดฝนตกหนัก และมีพายุรุนแรงเป็นเวลานาน พร้อมกับลมพายุที่กระโชกแรง ได้พัดพาเอาลูกเห็บตกในเทศบาลเมืองสระแก้ว และบางพื้นที่ ใน อบต.สระขวัญ เป็นบริเวณกว้าง ส่วนพื้นที่ในเขตเทศบาลตำบลท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว ขณะเกิดลมกระโชกแรง และได้เกิดไฟฟ้าดับเป็นเวลานานในช่วงค่ำ ส่วนพื้นที่ ม.5 บ้านหนองนกกระเรียน อ.เมืองสระแก้ว ก็เกิดฝนตกหนักเช่นกัน ทำให้มีเสาไฟฟ้าหักโคนและมีต้นไม้ล้มขวางทุกทางเข้าออกหมู่บ้านหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ รับแจ้งว่า ชาวบ้านพบต้นไม้ขวางทางเส้นหน้าโรงงานอีสบอร์ด เส้นทางจะออกไป อ.วัฒนานคร เลยคลองพญานาค มาประมาณ 500

ชัยภูมิ – ฝ่ายปกครองใน 3 อำเภอ เร่งระดมเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องแล้ว ทั้งบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายนับหลายร้อยหลังคาเรือน ท่อประปาขนาดใหญ่ย่านกลางตัวเมืองเขตอำเภอภูเขียว เกิดดินทรุดตัวแตกเสียหายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ไม่มีน้ำประปาใช้ตามมาอีกจำนวนมากด้วย! (16 มี.ค.68) เมื่อช่วงเวลาประมาณบ่ายสองโมงเย็นจนถึงใกล้หนึ่งทุ่มที่ผ่านมา วันที่ 16 มี.ค.68 ที่ผ่านมา หลัง นายอนันต์  นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ได้เร่งออกประกาศแจ้งเตือนไปยังประชาชนทุกพื้นที่กว่า 1,620 หมู่บ้าน 124 ตำบล ใน 16 อำเภอ ให้เตรียมรับมือเฝ้าระวังจะเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนักในทุกพื้นที่ของจังหวัดชัยภูมิได้ ในตลอดช่วงวันที่ 16 – 20 มี.ค.68 นี้ ล่าสุด ว่าที่เรือตรีธราธิป  พหลภิญโญ นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ ได้รับแจ้งจาก กำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่าเกิดเหตุวาตภัย หรือถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนัก ในพื้นที่ ต.เกาะมะนาว ,ต.โคกเริงรมย์ และ ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ จึงเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยกันเข้าตรวจสอบความเสียหายในเบื้องต้น ในพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดใน 3 ตำบล 

ชัยภูมิ – ชาวบ้านในพื้นที่ช็อกลมแดดปรับตัวไม่ทันเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวจัดดับแล้ว 3 ราย ผู้ว่าฯเร่งประกาศเตือนเตรียมรับมือวิกฤตภัยธรรมชาติเริ่มส่งสัญญาณเตือนหนัก เตรียมรับมือทั้งพายุฤดูร้อนถล่ม เกิดอาการแปรปรวนเดี๋ยวร้อน-แล้งจัดสลับหนาวจัด อุณหภูมิลดฮวบกว่า 5-8 องศาฯ กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวควรระวังเสี่ยงช็อกเสียชีวิตฉับพลันได้ ( 16 มี.ค.68 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ นายอนันต์  นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เร่งออกประกาศแจ้งเตือนไปยังผู้นำชุมชนในทุกพื้นที่กว่า 1,620 หมู่บ้าน 124 ตำบล ใน 16 อำเภอ ซึ่งในช่วงนี้ระหว่างวันที่ 16-20 มี.ค.68 นี้ ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เสี่ยงเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มรุนแรงหนักเข้ามาในพื้นที่อีกระลอกใหญ่ รวมทั้งในช่วงเดียวกันที่ในช่วงวันที่ 18-20 มี.ค.68 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และทั่วภาคอีสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเกิดอาการแปรปรวนหนักจากอาการร้อนจัด จะมีอากาศแปรปรวนเกิดหนาวจัดมีอุณหภูมิลดลงมากกว่า 5-8 องศาเซลเซียส ที่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบปรับตัวสภาพร่างกายไม่ทันในช่วงนี้ตามมาเป็นจำนวนมากได้ จึงขอประชาชนในทุกพื้นที่คอยติดตามสถานการณ์การแจ้งเตือนจากทางจังหวัดชัยภูมิ อย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ด้วย รวมไปถึงในช่วงเข้าสู่เดือนเมษายน ปี 2568 นี้ ที่ทางอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะเป็นปีที่ประเทศไทย

สระแก้ว – นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว สั่งการรับมือภัยฤดูร้อน โดยให้สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเตรียมแผนไว้ 2 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านการเตรียมความพร้อม โดยให้ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และร่วมกันประกาศแจ้งเตือนภัยกับประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ  เมื่อวันที่ 16 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐานิสร์ เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว ในฐานะรองผู้อำนวยการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ตามที่ข้อมูลของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) แจ้งว่าในเดือนมี.ค.-พ.ค. ของทุกปี จะมีพื้นที่ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ซึ่งเมื่อรวมแล้วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาปี 65- 67 ได้มีผู้เสียชีวิตรวมถึง 44 คนบ้านเรือนเสียหายถึง 217,639 หลัง และประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 210,186 ครัวเรือน จึงให้ทุกจังหวัดเตรียมการให้พร้อม เพราะแม้ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่การเตรียมการป้องกันจะสามารถบรรเทาความเสียหาย ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนได้\” นายก อบจ.สระแก้ว จึงได้สั่งการให้สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเตรียมแผนไว้ 2 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านการเตรียมความพร้อม โดยให้ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และร่วมกันประกาศแจ้งเตือนภัยกับประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้เจ้าหน้าที่กองช่างออกตรวจสอบอาคาร

พะเยา จุด Hotspot ทะลุ 64 จุด สูงเป็นอันดับ 5 ภาคเหนือไฟป่ายังปะทุทุกพื้นที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดพะเยา ยังคงมีความรุนแรงขึ้น ซึ่งในวันนี้จุด Hotspot ทะลุ 64 จุด สูงเป็นอันดับ 5 ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ทุกฝ่ายยังเร่งบูรณาการดับไฟ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอดอกคำใต้ ทาง นายพงษ์เทวิน ตันต๊าว ปลัดอำเภอ (ฝ่ายความมั่นคง) กำนันตำบลหนองหล่ม ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2,5,6 ,7 ตำบลหนองหล่ม พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง สมาชิก อส.อำเภอดอกคำใต้ และอาสาสมัครภาคีเครือข่ายไฟป่าตำบลหนองหล่ม ได้ระดมกำลังเข้าดับไฟป่า ในเขตพื้นที่แนวป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง และเฝ้าระวังไฟป่าอย่างต่อเนื่อง นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาสั่งการติดตามสถานการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ให้เพิ่มมาตรการการตรวจตลาดร้านขายของป่า ที่มีการลักลอบนำของป่ามาขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และสืบย้อนถึงแหล่งที่มา หากพบการฝ่าฝืน ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดให้ปรับแผนการลาดตระเวนตามรูปแบบในพื้นที่แต่ละอำเภอ โดยให้อุทยานแห่งชาติฯ ดอยภูนาง, เวียงลอ และ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฯ ดอยผาช้าง เป็นหน่วยงานหลัก

ชัยภูมิ – ชาวบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน เผยนาทีหนีตายบางรายเกิดมาจนอายุกว่า 60 ปี แล้ว ยังไม่เคยเจอพายุฤดูร้อนพัดถล่มรุนแรงหนักแบบนี้มาก่อนเลย ผู้ว่า-นอภ.-อบต.เร่งระดมเจ้าน้าที่ช่วยเยียวยาต่อเนื่อง เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 14 มี.ค.68 ขณะที่ จ.ชัยภูมิ นายอนันต์  นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เร่งประสานนายอำเภอทุกพื้นที่พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายช่วยเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนักสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนเป็นจำนวนมากหลายร้อยหลังคาเรือนของเมื่อช่วงเย็นใกล้ค่ำ วันที่ 13 มี.ค.68 วานนี้ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความเสียหายหนักสุดในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับรับความเสียหายจำนวนมากนับร้อยหลังคาเรือน ได้รับความเสียหายหนักสุดมีบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายเกือบทั้งหลังมากกว่า 30 หลังคาเรือน ในพื้นที่หมู่บ้านหนองเมย  ม.7 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้(14 มี.ค.68) ทางด้านนายอำเภอภูเขียว พร้อมด้วย นายวิษณุ  ชัยมีเขียว อายุ 52 ปี นายก อบต.หนองตูมนายก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในหมู่บ้านหนองเมย หมู่ 7 เพื่อเร่งหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่มีบ้านพังเสียหายหนักกว่า 30 หลังคาเรือน