สระแก้ว – นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว สั่งการรับมือภัยฤดูร้อน โดยให้สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเตรียมแผนไว้ 2 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านการเตรียมความพร้อม โดยให้ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และร่วมกันประกาศแจ้งเตือนภัยกับประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐานิสร์ เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว ในฐานะรองผู้อำนวยการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ตามที่ข้อมูลของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) แจ้งว่าในเดือนมี.ค.-พ.ค. ของทุกปี จะมีพื้นที่ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ซึ่งเมื่อรวมแล้วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาปี 65- 67 ได้มีผู้เสียชีวิตรวมถึง 44 คนบ้านเรือนเสียหายถึง 217,639 หลัง และประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 210,186 ครัวเรือน จึงให้ทุกจังหวัดเตรียมการให้พร้อม เพราะแม้ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่การเตรียมการป้องกันจะสามารถบรรเทาความเสียหาย ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนได้\”
นายก อบจ.สระแก้ว จึงได้สั่งการให้สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเตรียมแผนไว้ 2 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านการเตรียมความพร้อม โดยให้ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และร่วมกันประกาศแจ้งเตือนภัยกับประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้เจ้าหน้าที่กองช่างออกตรวจสอบอาคาร สิ่งก่อสร้าง ป้ายโฆษณา และไม้ยืนต้นที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันการถูกกระแสลมพัดพังทลาย และให้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพื่อจะได้สามารถออกช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อได้รับการประสานจากทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว รวมถึงสร้างการรับรู้ให้ประชาชนและโรงเรียนในสังกัดทราบแนวทางปฏิบัติตัวให้ปลอดภัย เช่น การป้องกันฟ้าผ่าและการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐด้านการเผชิญเหตุ หากเกิดสถานการณ์วาตภัยจากพายุฤดูร้อนที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินในพื้นที่ใดก็ตามให้สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด อำนวยความสะดวกตามที่ประชาชนร้องขอ ประสานงานไปยังเทศบาล หรือ อบต. เข้าสำรวจความเสียหายทันทีและดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ในกรณีที่พบบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายให้บูรณาการหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมจัดทีมช่างไปเร่งเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน กรณีป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง ไม้ยืนต้น หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหายให้ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและเทศบาล หรือ อบต. เพื่อเข้าดำเนินการแก้ไขไม่ให้กีดขวางพื้นที่สาธารณะ และซ่อมแชมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว
นอกจากนี้ หากพี่น้องประชาชนพื้นที่ใดได้รับความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ให้แจ้งเทศบาล หรือ อบต. เพื่อรายงานไปยังอำเภอและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

—————————
ข่าวโดย/รักพงษ์ กิตติวรเมธี ทีมข่าวสระแก้ว