สระแก้ว – เจ้าหน้าที่จับ 3 คนไทย รับจ้างเปิดบัญชีม้า ลักลอบข้ามแดนไปสแกนหน้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เดินทางกลับเข้าประเทศไทยเพื่อจะกลับ กทม. จนถูกเจ้าหนาที่จับกุมได้ที่บริวณ บ.ท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา โดยเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ร่วมกับทหารชุด ฉก.อรัญประเทศ จัดกำลังพลทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ บ.ท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย จำนวน 3 คน ขณะกำลังเดินเท้าจากบริเวณแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย มุ่งหน้าเข้ามายังประเทศไทย เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ ทราบว่า เป็นชาวไทย ตรวจไม่พบหนังสือเดินทาง (Passport) โดยชาวไทยดังกล่าว ได้เดินทางมาจากรับจ้างสแกนหน้าเปิดบัญชีม้า ให้กับกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ประเทศกัมพูชา และลักลอบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมฯ เปิดเผยว่า ขณะจับกุมไม่พบผู้นำพา เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อย ทพ.1201 ได้นำตัวชาวไทยทั้ง 3 ราย มาตรวจสอบเพิ่มเติมที่ทำการกองร้อย ทพ.1201 พบว่า ชาวไทยที่เดินทางมาจากฝั่งประเทศกัมพูชา เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย จะไปพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายการน์ภัส สุวรรณ อายุ 38 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 46/99 ม.10 บ.วิถีสวรรค์ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ,2.นายอำนวย ศรีบาง อายุ 45 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 22/11 ม.11 บ.หนองบัวเงิน ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย และ 3.นายบารมี ภู่คงทน อายุ 60 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 120/2 ม.3 บ.บางแพใต้ ต.บางแพ อ.บางแพ จ.ราชบุรี

จากการสอบถาม นายการน์ภัสฯ ,นายอำนวยฯ และนายบารมีฯ ให้การว่า ได้เดินทางจากภูมิลำเนาเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อมาหางานทำ จากนั้นได้มีบุคคลชาวไทยเพศชายชื่อ \”นายโก้\” ได้มาทำการติดต่อชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา เป็นงานคอยสแกนใบหน้าผ่านแอพธนาคารและให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 5 ธนาคาร แล้วจะได้ค่าจ้างในราคาที่สูง โดยทั้ง 3 คน ได้ถูกชักชวนจากบริเวณสถานีกลางบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เหมือนกัน เนื่องจากนายโก้เป็นนายหน้า คอยหาคนไปทำงานอยู่แถวบริเวณสถานีกลางบางซื่อเป็นประจำ เมื่อนัดแนะเสร็จสิ้น จึงได้แยกย้ายกันเพื่อไปดำเนินการเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 5 บัญชี คือ ธ.กรุงเทพ, ธ.กสิกรไทย, ธ.ไทยพาณิชย์, ธ.ทหารไทยธนชาติ และ ธ.กรุงเทพ
ต่อมา เมื่อวันที่ 8 มี.ค.68 เวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา นายการน์ภัสฯ, นายอำนวยฯ และนายบารมีฯ พร้อมนายโก้ ได้เดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร ด้วยแท็กซี่รถรับจ้างสาธารณะ มาถึงที่บ้านของนายโก้ อยู่ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น เมื่อไปถึง นายโก้ให้ นายการน์ภัสฯ, นายอำนวยฯ และนายบารมีฯ เข้าไปพักในห้องนอนภายในบ้าน โดยมีกุญแจล็อคประตูห้องเอาไว้ และให้คอยสแกนใบหน้าเป็นเวลา 2 วัน

กระทั่ง วันที่ 10 มี.ค.68 เวลาประมาณ 16.00 นายโก้ได้ให้ นายการน์ภัสฯ, นายอำนวยฯ และนายบารมีฯ ขึ้นนั่งโดยสารรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ คนขับเป็นบุคคลชายไทยเพศหญิง เพื่อออกเดินทางจาก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มาถึงบริเวณร้านค้าเซเว่นอีเลฟเว่นฯ เวลาประมาณ 21.00 ไม่ทราบพื้นที่อำเภอและจังหวัด จากการสอบถามรายละเอียดพื้นที่ ไม่ใช่พื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้น ได้มีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบอร์น มารับจากบริเวณหน้าร้านค้าเซเว่นอีเลฟเว่นฯ คนขับเป็นบุคคลชาวกัมพูชาเพศชาย ขับมาถึงบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ลักษณะเป็นสวนลำไยติดคลองแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
จากนั้น ได้ทำการเดินเท้าข้ามลำคลองแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ออกไปยังประเทศกัมพูชา โดยมีผู้นำพาชาวกัมพูชาเดินนำทาง จากนั้น ได้มีรถสามล้อรับจ้างมารับจากแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย เดินทางมาถึงที่พัก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงเวลาประมาณ 22.00 น.ไม่ทราบอำเภอและจังหวัด ลักษณะที่พักเป็นห้องพักชั้นเดียว และได้ทำการนอนพักผ่อนเป็นเวลา 1 คืน จากนั้น วันที่ 11 มี.ค.68 เวลาประมาณ 11.00 น.ผู้นำพาได้พานายการน์ภัสฯ, นายอำนวยฯ และนายบารมีฯ ไปยังสถานที่ทำงาน ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว โดยบุคคลชาวกัมพูชาได้ทำการยึดโทรศัพท์มือถือพร้อมเอกสารประจำตัวทั้งหมด และได้ให้เริ่มทำงาน โดยการคอยทำการสแกนใบหน้า ทำงานตั้งแต่เวลา 08.00 – 23.00 ของทุกวัน จนถึงวันที่ 14 มี.ค.68 เวลาประมาณ 16.00 บุคคลชาวกัมพูชาได้แจ้งว่า เสร็จสิ้นงานและจะส่งกลับภูมิลำเนา แต่ไม่มีการจ่ายเงินค่าจ้างแต่อย่างใด

โดยทั้ง 3 ราย บอกว่า หลังเสร็จสิ้นงานสแกนใบหน้า ได้มีรถยนต์เก๋งมารับและออกเดินทางมายังบริเวณ บ.ปอยเปต กรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เวลาประมาณ 17.00 จากนั้นได้ทำการนั่งพักคอยเพื่อรอผู้นำพาชาวกัมพูชามารับ จนถึงเวลาประมาณ 24.00 ก็ยังไม่มีผู้นำพามารับ จึงได้ทำการเดินเท้าเพื่อหาช่องทางธรรมชาติ โดยทำการสอบถามเส้นทางจากประชาชนชาวกัมพูชาในพื้นที่ จากนั้น ได้ข้ามแนวลำคลองจากแนวชายแดนกัมพูชา -ไทย เข้ามายังประเทศไทย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานตรวจพบและถูกจับกุมตัวไว้ หลังนำตัวไปสอบสวนและทำบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวชาวไทยทั้ง 3 คน พร้อมสัมภาระ ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

—————————–
ภาพ/กกล.บูรพา