ภัยพิบัติ

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ได้รับรายงานสถานการณ์วาตภัยในพื้นที่จังหวัดนครพนม สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างใน 4 อำเภอ 16 ตำบล 35 หมู่บ้าน รวม 80 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้า 3 ต้น และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1 แห่ง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเย็นวานนี้ที่ผ่านมา พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ อำเภอปลาปาก รวม 6 ตำบล 10 หมู่บ้าน 45 หลังคาเรือน รองลงมาคือ อำเภอนาแก 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน 13 หลังคาเรือน อำเภอเรณูนคร 4 ตำบล 15 หมู่บ้าน 18 หลังคาเรือน และอำเภอวังยาง 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน 3 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังมีรายงานความเสียหายเพิ่มเติมในอำเภอธาตุพนม 1 […]

เมื่อช่วงเย็นใกล้ค่ำ วันที่ 13 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ จ.ชัยภูมิ เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนักในหลายพื้นที่ หนักสุดในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับรับความเสียหายจำนวนมากนับร้อยหลังคาเรือน ได้รับความเสียหายหนักสุดมีบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายเกือบทั้งหลังมากกว่า 30 หลังคาเรือน ในพื้นที่หมู่บ้านหนองเมย  ม.7 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว รวมทั้งมีรายงานอีกหลายพื้นที่ในหลายอำเภอของจังหวัดชัยภูมิ ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนักในวันนี้ มีเสาไฟฟ้าสายไฟขาดเสียหาย เกิดไฟฟ้าดับใช้การไม่ได้ ที่อยู่ระหว่างจัดชุดเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้ไฟฟ้ามาใช้ได้ตามปกติอีกครั้งในไม่เกินช่วงเที่ยงคืนวันนี้ และมีพื้นที่บ้านเรือนประชาชนพังได้รับความเสียหายอีกเป็นจำนวนมากในพื้นที่ เขต อ.เมืองชัยภูมิ เกิดมีดินสไลด์หลากออกมาขวางถนนช่วงหมู่บ้านหนองบัวขาว สายชัยภูมิ-บ้านเขว้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เร่งระดมขนดินที่สไลด์ออกมากีดขวางการจราจรในจุดดังกล่าวออกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในพื้นที่ อ.จัตุรัส อีกนับร้อยหลังคาเรือน ที่ทางนายอำเภอในแต่ละพื้นที่อยู่ระหว่างเร่งจัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายและเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นการด่วนแล้ว

พะเยา ไฟป่าล้อม มหาลัยพะเยาเจ้าหน้าที่ระดมกำลังสกัด   เมื่อค่ำวันที่ 11 มีค.68 เกิดไฟป่าบริเวณเขตพื้นที่หลังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพะเยา ได้ขยายพื้นที่อย่างรวดเร็ว หลายหน่วยงานปฏิบัติการไฟป่ามหาวิทยาลัยพะเยา, ฝ่ายปกครอง, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่จากป่าไม้ ใช้แผนการ “ไฟชนไฟ” เพื่อจำกัดและดับไฟป่าในพื้นที่ นายนิกร ยะกะจาย นายอำเภอเมืองพะเยา ลงพื้นที่ สั่งการ ปลัดอำเภอ กำนันตำบลแม่กา และผู้ใหญ่บ้านตำบลแม่กา เจ้าหน้าที่งานป้องกันเทศบาลตำบลแม่กา เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยพะเยา และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ให้ระดมช่วยกันทำแนวกันไฟและฉีดน้ำป้องกันไฟไม่ให้ลุกลามโดยพื้นที่ของมหาวิทยาลัยพะเยาจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังไม่ให้ไฟลุกลาม     โดยในพื้นที่จังหวัดพะเยาได้เกิดไฟไหม้ในพื้นที่อำเภอเมืองพะเยา จำนวน 4 จุด ตำบลท่าวังทอง เกิดขึ้นในพื้นที่หมู่ 9 บ้านร่องจ๊อง ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.34 สามารถดับไฟไว้ได้แล้ว ตำบลแม่กา เกิดขึ้น 3 จุดในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยพะเยาซึ่งยังอยู่ระหว่างควบคุมเพลิงมิให้ลุกลาม โดยคณะเจ้าหน้าที่ยังอยู่เฝ้าระวังในพื้นที่อยู่ หมู่ที่ 12 ไฟได้ไหม้ป่าชุมชนโดยสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว และหมู่ที่ 17

ร้อยเอ็ด…มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบให้ผู้ประสบอัคคีภัย ในพื้นที่อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด วันนี้(11 มีนาคม พ.ศ. 2568 ) เวลา 10.15 น. ณ บ้านเลขที่ 3 บ้านดงเมืองจอก หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านดู่ อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีมอบสิ่งของพระราชทานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและบำรุงขวัญกำลังใจ โดยมี นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธี มอบให้แก่ครอบครัว นางหนูไกร อัมโพธิ์ และนายวินัย อัมโพธิ์ ซึ่งอยู่อาศัย เลขที่ 3 และบ้านเลขที่ 161 บ้านดงเมืองจอก หมู่ 6 ตำบลบ้านดู่ อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ประสบอัคคีภัยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.30

เชียงใหม่-060368-PM2.5ยังไม่ ตัดสิทธิ์ เกษตรกร รับช่วยเหลือ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เผยยังไม่มีเกษตรกรถูกตัดสิทธิ์การช่วยเหลือจากภาครัฐ วอนชาวเชียงใหม่ช่วยกันรักษามาตรฐาน “ไม่เผา ไม่เสียสิทธิ์แน่นอน” . วันนี้ (4 มี.ค. 68) ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยผ่านการแถลงข่าวสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 10 ประจำปีงประมาณ 2568 ถึงการใช้มาตรการตัดสิทธิ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่ใช้วิธีการเผาในพื้นที่เกษตร ตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา . นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ คือ หากพี่น้องเกษตรกรท่านใดที่ใช้วิธีการเผาในพื้นเกษตรตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2568 นี้ จะถูกตัดสิทธิ์ในเรื่องของมาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐจะนำมาใช้ช่วยเหลือเกษตรกร อาทิ โครงการไร่ละ 1,000 บาท ของพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรัง รวมไปถึงมาตรการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึง 31 พฤษภาคม 2570 เป็นเวลา 2 ปี . ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดวันนี้ที่มีจุดฮอตสปอร์ตเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคการเกษตร จำนวน 2 แห่ง นั้น ได้มีการตรวจสอบแล้วปรากฎว่าเป็นการเผากองขยะ ดังนั้น พื้นที่ภาคการเกษตรของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมดกว่า 3.1 ล้านไร่ ยังไม่พบการเผา และยังไม่มีเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์ จึงขอให้ประชาชนช่วยกกันรักษามาตรฐานและปฏิบัติตามมาตรการไม่เผาในพื้นที่เกษตรอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ .  

เชียงใหม่-060368-ชลประทานมั่นใจรับภัยแล้งและหมอกควันได้ชัวร์   วันนี้ (4 มี.ค. 68) ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายจิรชัย พัฒนพงศา หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่รับผิดชอบ โดยระบุว่าปัจจุบันปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กอยู่ในเกณฑ์ดี มีน้ำรวม 590 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 77% ของความจุรวม ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในทุกภาคส่วน รวมถึงสำรองน้ำสำหรับต้นฤดูฝน . ข้อมูลจากสำนักงานชลประทานที่ 1 ระบุว่า ปี 2567 มีฝนตกมากในช่วงปลายปี ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 19 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 190 แห่ง อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในลำน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำปิง และน้ำแม่แตง ที่มีน้ำไหลมากกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าน้ำที่มีจะสามารถส่งให้พื้นที่ชลประทานได้อย่างเพียงพอ . สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลัก ณ ปัจจุบัน ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีน้ำ 250 ล้าน ลบ.ม. (94%) คาดว่า 1 มิ.ย. 68 จะเหลือ 130 ล้าน ลบ.ม. (49%), เขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีน้ำ 171 ล้าน ลบ.ม. (65%) คาดว่า 1 มิ.ย. 68 จะเหลือ 115 ล้าน ลบ.ม. (44%), อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 19 แห่ง มีน้ำรวม 102 ล้าน ลบ.ม. (73%), อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 190 แห่ง มีน้ำรวม 67 ล้าน ลบ.ม. (67%) ขณะที่ปริมาณน้ำไหลผ่านฝายแม่แตงอยู่ที่ 9.477 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีเพียง 2.013 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที . ในส่วนของมาตรการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้ง สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้ดำเนินมาตรการรับมือภัยแล้งตามแนวทางของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) โดยมีแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งตั้งเป้า 345,558 ไร่ ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 361,242 ไร่ (105%)

วันที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น.ที่ศาลาอเนกประสงค์ หน้า ร้อย มทบ.17 พล.ต.ชนมากรณ์ ภิบาลชนม์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 เปิดโครงการ “ราษฏร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2568 โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำ และกำลังพล เพื่อเป็นชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วในการช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคโดยมุ่งเน้นให้แจกจ่ายน้ำในถังเก็บน้ำสาธารณะหรือจุดจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคของหมู่บ้าน พร้อมประสานความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชนมีความเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำตามบริบทของพื้นที่ ที่หน่วยรับผิดชอบคือจังหวัดกาญจนบุรีและสุพรรณบุรี รวมถึงมาตรการบริหารจัดการน้ำของรัฐเพื่อให้เกิดความร่วมมือการใช้น้ำอย่างประหยัด อีกทั้งสำรวจและซ่อมบำรุงรักษาภาชนะเก็บน้ำหรือแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็กของชุมชนตามศักยภาพของหน่วยเพื่อให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินรวมถึงประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องในการจัดหาและแจกจ่ายภาชนะเก็บกักน้ำเพิ่มเติมให้กับประชาชนที่มีความต้องการ ตามนโยบายของกองทัพบกในการช่วยเหลือประชาชนตามโครงการ “ราษฏร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2568 นอกจากนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 17 ยังได้จัดกำลังพลและรถยนต์บรรทุกน้ำจากหน่วยขึ้นตรงร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เทศบาลเมืองปากแพรก เทศบาลตำบลหนองบัว เทศบาลตำบลท่ามะขาม เทศบาลตำบลลาดหญ้า องค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว องค์การบริหารส่วนตำบลลาดหญ้า หมวดทางหลวงลาดหญ้า เพื่อบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยในห้วงที่ผ่านมามณฑลทหารบกที่ 17 ได้ร่วมกับส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จำนวน

เกิดเหตุพายุฤดูร้อน พัดบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ จังหวัดสกลนคร รวม 3 อำเภอ ได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมเหล่ากาชาด ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน มอบถุงยังชีพ ให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น (4 มี.ค.68) นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ของเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร และเยี่ยมเยียน ปลอบขวัญ ให้กำลังใจผู้ประสบวาตภัย จังหวัดสกลนคร ณ องค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร โดยมี นางสุพัตรา แร่ทอง รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร คณะกรรมการเหล่ากาชาด  แม่บ้านมหาดไทย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร ผู้แทนนายอำเภอเมืองสกลนคร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ร่วมมอบสิ่งของ  พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อมอบถุงยังชีพ และให้กำลังใจ ผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่บ้านนากับแก้ อีกจำนวน 3 ครัวเรือน นายบัวลี ลีทนทา ชาวบ้านนากับแก้ หมู่

(3 มี.ค. 68) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากเหตุการณ์วาตภัย เมื่อช่วงเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง และสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ของจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่น ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในระยะนี้ โดยขอให้ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้

เมืองน้ำดำโกลาหลพายุฤดูร้อนถล่มหลายจุดไฟฟ้าดับทั้งเมืองบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลาย 100 หลัง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานว่าในช่วงเย็นของวันนี้ได้เกิดเหตุวาตภัยพายุฤดูร้อนพัดถล่ ในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยในแต่ละจุดท้องฟ้าเป็นสีแดงก่อนเกิดลมพายุลมอย่างรุนแรงยาวนานกว่า 1 ชั่วโมง และเกิดฝนตกหนักโดยเฉพาะในเขตอำเภอ ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งอำเภอ โดยเฉพาะในจุดที่จัดงานมหกรรมโปงลางแพรวาและงานกาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ รายงานแจ้งว่าพายุฝนที่พัดลงมาได้ทำเอาเต็นท์ที่จัดงานรวมไปถึงร้านค้าพังเสียหายจนเกิดเหตุโกลาหลเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มีรายงานถึงตำบลหลายแห่งเสาไฟฟ้าได้ถูกพายุพัดล้มระเนระนาดรวมไปถึงสังกะสีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลาย 100 หลังคาเรือนซึ่งในขณะนี้ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์กำลังประเมินความเสียหายขณะที่ไฟฟ้าจังหวัดกาฬสินธุ์กำลัง เร่งซ่อมแซมและแก้ไข เชื่อมต่อไฟฟ้าเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับแสงสว่างแต่ถึงขนาดนี้ ไฟฟ้าก็ยังคงดับอยู่ในหลายจุด