ภัยพิบัติ

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 16.00 น. พายุลูกเห็บขนาดใหญ่ได้ตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอำเภอท่าอุเทน ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเกือบ 30 หลังคาเรือน หลังคาบ้านถูกพายุพัดจนพังเสียหาย มีบ้านเรือนที่เสียหายหนักกว่า 10 หลังคาเรือน ความเสียหายคาดว่ามีมูลค่าหลายแสนบาท นอกจากความเสียหายของบ้านเรือนแล้ว พายุลูกเห็บยังทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจากฝนตกหนักทำให้ถนนลื่น เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกัน 2 คัน บนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองฝั่งขาออก อำเภอธาตุพนม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และถูกนำส่งโรงพยาบาลนครพนม อย่างไรก็ตาม พายุฝนครั้งนี้ได้ส่งผลดีต่อสภาพอากาศในพื้นที่ เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดนครพนมประสบปัญหามลพิษทางอากาศ ค่าฝุ่น PM2.5 สูง แต่พายุฝนได้ช่วยชะล้างฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน ได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยจะมีการระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายอย่างเร่งด่วน ล่าสุดพายุถล่มที่วัดโพธิ์ไชยต้นมะพร้าวหักฟาดใส่ศาลาเสียหาย ฉัตรพระองค์ยืนหน้าศาลาลมหอบพัดไปเสียหายหนัก บ้านสระพังไฟดับทั้งหมู่บ้าน และจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบราชการประชาชนในพื้นที่ควรระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในระยะนี้ และติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ล่าสุดเมื่อเวลา 21.30 น.นายเดช บำรุงหงษ์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม […]

เพชรบูรณ์-วาตภัยถล่ม อ.ศรีเทพ บ้านเรือนเสียหาย 26 ครัวเรือน วันที่ 1 มีนาคม มีรายงานจาด กอปภ.จ เพชรบูรณ์ แจ้งว่า เวลาราว 15.30 น. ได้เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายในเขตตำบลคลองกระจัง รวม 26 ครัวเรือน แบ่งเป็น หมู่ที่ 9 จำนวน 24 ครัวเรือน และหมู่ที่ 16 จำนวน 2 ครัวเรือน ขณะนี้ผู้นำหมู่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยแล้ว. นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า เวลา 14.30 น. ได้เกิดฝนตกฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรงในพื้นที่ตำบลบุ่งคล้า อ.หล่มสัก ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย และมีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางเส้นทางสัญจร นายชัยณฤทธิ์ สิงห์ทอง นายก อบต.บุ่งคล้า มอบหมายให้นายนาวิน โรจน์จันทร์ รองนายก อบต. สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความเสียหายทันที จากการตรวจสอบพบว่ามีบ้านเรือนเสียหายในหมู่ที่ 7 จำนวน 1

ฝนหลงฤดูตกถล่มพื้นที่พัทลุงต่อเนื่อง 4 วันติด ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลับที่ลุ่ม 5 อำเภอ ขณะที่น้ำป่าจากอำเภอศรีบรรพต ไหลหลากท่วมอำเภอควนขนุนบริเวณแยกโพธ์ทองถนนสายเอเชียขาขึ้น กทม. ชาวบ้านอพยพไม่ทันวัวตายลอยน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์ฝนตกในพื้นที่จังหวัดพัทลุงต่อเนื่องมา 4 วันเต็ม โดยเฉพาะบริเวณเขาบรรทัดทำให้เกดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน 5 อำเภอ อำเภอกงหรา อำเภอ ศรีนครนทร์ อำเภอควนขนุน อำเภอศรีบรรพต และอำเภอเมือง ในที่ลุ่มซึ่งน้ำป่าไหลหลากเข้าถนนสายเพชรเกษม บรเวณหน้าโรงพยาบาลศรีนครนทร์ ตั้งแต่เมื่อคืนท่านมารถยนต์เล็กสามารถผ่านได้ และจุดดังกล่าวน้ำเริ่มลดระดับเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่มวลน้ำดังกล่าวได้ไหลหลากลงมาท่วมพื้นที่ของอำเภอเมืองพัทลุง ในตำบลโคกชะงาย ตำบลเขาเจียก ตำบลปรางหมู่ และตำบลชัยบุรี น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายร้อยครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน และเข้าท่วมนาข้าวที่ออกรวงสีเหลืองที่กำลังจะเก็บเกี่ยวเสียหายอีกหลายพันไร่ ขณะเดียวกันน้ำป่าจากเขาบรรทัด อุทยานแห่งชาตเขาปู่เขาย่า อำเภอศรีบรรพต ที่ไหลผ่านอ่างเก็บน้ำท่าแนะ ได้เปิดบายประตูระบายน้ำพร้อมกับมีน้ำล้นสปริงเวย์ ส่งผลให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำของอำเภอควนขนุน ในตำบลชะม่วง ตำบลดอนทราย ตำบลควนขนุน อย่างฉับพลันชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวขนย้ายส่งของไม่ทันได้รับความเสียหาย อีกทั้งสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านล้มตายหลายตัว โดยเฉพาะที่หมู่ 9 ตำบลชะม่วง วัวของชาวบ้านที่ล่ามไว้ถูกน้ำท่วมตายลอยอยู่ในน้ำเจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านนำขึ้นมา พบว่าเป็นวัวเพศเมียที่กำลังตั้งท้องอีกด้วย ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนนำวัวที่เสียชีวตจากน้ำถูกเชือกนำกลับบ้านเพื่ออาหาร และมวลน้ำดังกล่าวยังได้ไหลบ่าเข้าท่วมถนนสายเอเชีย บริเวณสี่แยกโพธิ์ทอง และถนนบริเวณทางแยกเข้าตัว อำเภอศรีบรรพต

น้ำป่าเทือกเขาบรรทัดหลากเอ่อล้นลำคลอง ท่วมถนนเพชรเกษมช่วงระหว่างตรัง-พัทลุง รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ คาดสถานการณ์จะกลับมาปกติหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติม เมื่อเวลาประมาณ 04.00  น. วันที่ 25 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ฝนได้ตกติดต่อกันอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาประมาณ 2 วัน ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาจากเทือกเขาบรรทัด เอ่อล้นลำคลองชลประทานนางน้อย เข้าท่วมเส้นทางถนนเพชรเกษม ทางหลวงแผ่นดินหมากเลข 4 เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร พื้นที่ระหว่าง หมู่ 2 หมู่ 10 ต.ละมอ อ.นาโยง รอยต่อระหว่าง ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง บริเวณช่วงหน้าร้านเค้กกนิษฐา-สุขสมบูรณ์รีสอร์ท โดยน้ำยังเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดกับถนนและพื้นบ้านระดับเดียวกับถนนประมาณ 10 หลังคาเรือน ซึ่งฝั่งขาออกรถเล็กไม่ควรสัญจรผ่าน เนื่องจากน้ำมีความสูงประมาณระดับหัวเข่า และไหลแรง ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนสายนาปด-กะช่อง ส่วนฝั่งขาเข้ารถเล็กควรต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นอย่างสูง ทั้งนี้รถบางคันที่ฝืนขับฝ่ากระแสน้ำไป เครื่องยนต์รถเกิดดับ ชาวบ้านจึงได้นำรถออฟโรสมาช่วยกันลากเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงน้ำท่วมไปได้ ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโยง ตำรวจ ภ.จว.ตรัง แขวงทางหลวงตรัง หมวดการทางนาโยง ปภ.ตรัง และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและผู้ใช้เส้นทางสัญจรเป็นการด่วนแล้ว โดยคาดการณ์ว่าหากปริมาณน้ำฝนไม่ตกลงมาหนักเพิ่มเติม

วันที่ 25 ก.พ.68 น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาบรรทัด ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง ลงสู่พื้นที่ด้านล่างตั้งแต่เช้ามืดที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมผิวจราจร เส้นทางสายตรัง -พัทลุง ช่วง ต.ละมอ ระดับน้ำประมาณ 20-50 ซม. รถเล็กต้องเลี่ยงการเส้นทาง ทั้งฝั่งขาเข้า จ.ตรัง และฝั่งขาออกมุ่งหน้าสู่จ.พัทลุง โดยเจ้าหน้าที่ต้องนำแผงและป้ายมาติดตั้ง และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนใช้เส้นทางอื่น ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ยังคงเกิดฝนตกลงมาเป็นระยะๆ สลับกับแสงแดด แต่อย่างไรก็ตาม หากฝนไม่ตกหนักลงมาซ้ำ สถานการณ์น้ำท่วมผิวจราจรจะคลี่คลายภายในไม่เกินเที่ยงวันนี้ แต่ทางจังหวัดตรัง ยังคงแจ้งเตือนต่อให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น พื้นที่น้ำไหลผ่าน และที่ราบบริเวณเชิงเขา เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ และติดตามรายงานสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้ประกาศเตือนฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน 25-26 กุมภาพันธ์ 2568 ลมตะวันออกกำลังปานกลางพัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มขึ้น และจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ตก ระบี่ ตรัง และสตูล คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะทางฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

จากกรณีที่มีพายุฝนตกหนัก เมื่อกลางดึกวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมาในพื้นที่ ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากผ่านเข้าบ้านเรือนประชาชนทรัพย์สินเสียหายลอยไปกับน้ำป่า มีการอพยพ น้ำฝนล้นลำห้วยพัดถนนขาด ในพื้นที่หมู่ 2 ชาวบ้านเดือดร้อน 100 กว่าครัวเรือน (25 ก.พ.68) ล่าสุดนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.กระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ นายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี เขต 5 พรรคเพื่อไทย นำทีมงานฯ ลงพื้นที่ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ โดยการอำนวยการของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.กระทรวงการคลัง มอบถุงยังชีพจำนวน 100 ชุด ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในตำบลบ้องตี้ โดยมี นายนิทัศน์ ลูกอินทร์ นายก อบต.บ้องตี้ พร้อมคณะบริหาร สมาชิกฯ นายติณณภพ ไตรรัตนชัยกูล ว่าที่ ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต 1 นายศตวรรษ ลูกอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่

หลังจากมีฝนตกหนัก เป็นระยะช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ทำให้ช่วงบ่ายวันนี้ มีน้ำป่าไหลหลากลงมาผสมกับน้ำฝน เอ่อท่วมถนนกาญจนวนิช หรือถนน สงขลา-หาดใหญ่ สายเก่า ในพื้นที่บ้านควนหิน ต.พะวง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา สถานการณ์ล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น วันที่ 24 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบอีกครั้ง ก็ยังพบว่ากระแสน้ำ ไหลหลาก เอ่อท่วมถนน สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลพะวง ได้ปิดกั้นถนนฝั่งขาเข้าอำเภอหาดใหญ่ และเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางเดินรถได้เพียง 1 เลน ริมเกาะกลางถนน ในฝั่งตรงข้ามเท่านั้น ทั้งนี้มีผู้ใช้รถยนต์บางคันได้ขับฝากกระแสน้ำแต่ปรากฏว่ากระแสน้ำไหลเชี่ยวและบางจุดน้ำท่วมสูงทำให้รถดับ นางสาว เจนจิรา   แม่ค้าขายยำ ก็บอกว่า วันนี้กระแสน้ำไหลแรง และเอ่อสูงจนเข้าท่วมร้านอย่างรวดเร็ว ทำให้ทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ไม่สามารถขนย้ายได้ทันอย่างเช่นตู้เย็น และวัตถุดิบที่ใช้ผลิตอาหาร ก็เสียเช่นกัน ซึ่งตนก็ยังกังวล ว่าถ้าคืนนี้มีฝนตกหนักลงมาอีกน้ำก็จะเข้าท่วมร้านอีกครั้งทำให้ต้องอยู่เฝ้าร้าน ทั้งนี้ตนก็อยากจะทวงถามเงินเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม 9,000 บาท

รายงานจากสงขลาว่ามีฝนตกตกติดกัน 3 วัน คือตั้งแต่วันที่ 21ก.พ.และฝนตกหนักวันที่ 24 ก.พ. ทำให้น้ำระบายไม่ทัน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นท่วมถนนกาญจนวาณิชหาดใหญ่-สงขลาที่บ้านบางดาน ต.พะวง อ.เมือง  ที่ห้าแยกน้ำกระจาย ต.พะวง ที่บ้านบางดางดาน ต.เขารูปช้าง ทำให้การสัญจญไปมาด้วยความอยากลำบาก มีบางช่วงรถวิ่งได้เลนเดียว  และขณะนี้ฝนยังตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง  คาดว่าจะมีน้ำท่วมจากกรณีระบายไม่ทันอีกหลายแห่ง นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลาเปิดเผยว่ายอมรับว่ามีฝนตกหนักในพื้นที่ที่อยู่ติดกับชายฝั่งทะเลอ่าวไทย จึงส่งให้น้ำระบายไม่ทันหรือรอการระบาย จนน้ำท่วมผิวจราจรบาง ที่ได้รับรายได้แล้วมีที่บ้านบางดาน ท่วมขังผิจรถนนกาญจนวาณิช  ที่บ้านควนหิน ต.พะวง น้ำท่วมถนนกาญจนวาณิชสูงประมาณ 30-40 ซม. บริเวณห้าแยกน้ำกระจายมีน้ำไหลหลากจากเขาเทียมดาท่วมขัง รถยังสัญจรไปมาได้แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง รายงานงานจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลาว่านายกมล พรหมสาขา ณ สกลนคร  ผู้อำนวยการ  ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกประกาศฯเตือนภัยฉบับที่ 6 (28/2568)เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยช่วงวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2568  จากอิทธิพลของความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง “ทำให้ในช่วงวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนหนักหลายพื้นที่

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.68 พลตรี อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ 9 เปิดเผยว่าเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 21 ก.พ.68 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ บ้านบ้องตี้ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ว่ามีฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ พันเอก พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมทหารราบที่ 29 จัดกำลังพลเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยอย่างใกล้ชิด ต่อมาได้สั่งการให้ พันเอก ปิยะเณศร์  ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ จัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ลงพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านบ้องตี้ล่าง ตำบลบ้องตี้ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเวลา 20.00 น. พบน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ บ้านบ้องตี้ อำเภอไทรโยค และพบถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดจนขาด

พะเยา พายุลูกเห็บถล่มทำน้ำท่วมขัง หลังคาปลิว ชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่ว วันที่ 21 ก.พ 68 เมื่อเวลา 14.00 น เกิดพายุลูกเห็บลมพัดกรรโชกแรง ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดพะเยา นานกว่าชั่วโมง ส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายให้กับบ้านเรือนราษฎร ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอเมือง ตำบลบ้านต้ำ ตำบลท่าจำปี บ้านเรือนราษฎร ถูกพายุพัดได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน และยังเกิดน้ำท่วมขัง บ้านเรือนราษฎรบ้าน ห้วยเคียนหนือ หมู่ 1 ต.บ้านต๊ำ สูงกว่า 1 เมตร ได้รับผลกระทบกว่า 6 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นสู่ที่สูง และ เพลงระบายน้ำให้ไหลลงตามเส้นทางน้ำ ในขณะที่หมู่ 1 ตำบลท่าจำปี ได้รับความเสียหายจากพายุ 10 กว่าหลังคาเรือน กระเบื้องแตก 100 กว่าแผ่น ด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เร่ง ช่วยกัน ขุดลอกท่อ เพื่อระบายน้ำช่วยชาวบ้านจนน้ำแห้ง และในวันพรุ่งนี้จะนำแม็คโคร ขุดท่อเปิดทางน้ำ อีกครั้ง หลังจากพายุสงบนายจิรพงษ์ ใจลา