ทัชชภร สารพรรณ์

ชาวบ้านชุมชนซอยประชาบำรุง เขตเทศบาลต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล รวมกลุ่มต่อยอดการปลูกผักที่ทางเทศบาลต.กำแพงสนับสนุน ทำเป็นผักปลอดสารพิษส่งขายตลาด ปลูกเองขายเองได้ราคาดี ถูกใจลูกค้ากลุ่มรักสุขภาพ มีเท่าไหร่ไม่พอขายสร้างรายได้เสริมคนละไม่ต่ำกว่า 3-4พันบาท ที่ชุมชนซอยประชาบำรุง เทศบาลต.กำแพง อ.ละงู ชาวบ้านต่างช่วยกันดูแลผักที่ปลูกยกแคร่ ซึ่งมีอายุได้ 21 วันแต่สภาพของผักมีความสมบูรณ์เขียวและไม่มีแมลงศัตรูพืชมาเกาะกินแม้นว่าจะปลูกแบบปลอดสารพิษ ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงก็ตาม โดยนายวิชิต แซ่ลิ่ม นายกเทศมนตรีเทศบาลต.กำแพง กล่าวว่าในช่วงโควิดได้ชั้นปลูกผักมา 800 ชุด ทางเทศบาลเองก็มีโรงปุ๋ย จึงสนับสนุน ชุดปลูกผักครัวเรือนละ 1 ชุดประกอบด้วยพันธุ์ผัก แคร่พร้อมโครงและปุ๋ย เพราะต้องการให้ชาวบ้านปลูกผักกินเอง เมื่อได้ผลผลิตผักที่เหลือจากกินชาวบ้านจึงนำไปขาย ปรากฏว่าผักปลอดสารพิษเป็นที่ต้องการของตลาดมีเท่าไหร่ก็ขายไม่พอ จึงมารวมกลุ่มกันเอง เมื่อรวมกลุ่มกันก็สะดวก ปลูกเองขายเองได้ราคาดีมีเงินเหลือเก็บ นางสาวรุณา หลีหมาด ประธานชุมชนซอยประชาบำรุง กล่าวว่าชาวบ้านร่วมมือกัน ใครมีอะไรก็เอามาปลูก เหลือจากกินก็นำไปขาย เมื่อเห็นว่าผักขายดีมีรายได้เพิ่มขึ้น ชาวบ้านก็มารวมกลุ่มกัน โดยไปดูตลาดว่าช่วงไหนผักชนิดไหนมีราคาดี เราก็จะปลูกผักนั้น เช่นตอนนี้คะน้าราคาดีก.ก.ละ 60 บาท เราก็ปลูกคะน้าขาย ผักที่ปลูกมีกวางตุ้ง คะน้า ผักบุ้ง พริกสด ตะไคร้

สตูลปลูกอ้อยขายลำขายน้ำอ้อยปลดหนี้สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้สบาย นายเจ๊ะหยัน ลัดเลีย อายุ 74 ปี ชาวบ้านหมู่4 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ใช้พื้นที่ 10 ไร่ ปลูกอ้อยพันธุ์สายน้ำผึ้ง ใช้เวลา 8-12 เดือนสามารถตัดลำส่งขายจังหวัดใกล้เคียงซึ่งพ่อค้ามารับถึงบ้าน ก.ก.ละ 5 บาท อีกทั้งในช่วงฤดูร้อนทำน้ำอ้อยส่งขายรายได้ดี น้ำอ้อยรสชาติหวานหอมดื่มแก้ร้อนแก้กระหายได้อย่างดี ในแต่ละปีสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายและทำมานาน 10 ปีแล้ว   นายเจ๊ะหยัน ลัดเลีย เกษตรกรชาวสวนอ้อย กล่าวว่าตนทำงานมาแล้วหลายอาชีพแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่เป็นชาวสวนยางพารา ส่งเนื้อปูขาย จนกระทั่งมาลงตัวที่การปลูกอ้อยขาย ทำงานอื่นติดหนี้ แต่ตั้งแต่หันมาปลูกอ้อยขายมีเงินเก็บเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียน สร้างบ้านและสามารถปลดหนี้ได้ด้วยการปลูกอ้อย ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นจากการขายอ้อย นายเจ๊ะหยันเล่าว่าอ้อยของตนใช้พันธุ์สายน้ำผึ้งรสชาติหวานกำลังดี สีสวย หอมกินแล้วสดชื่น แต่ละวันจะมีลูกค้ามาซื้ออ้อยวันละ 400-500 ก.ก. ตนขายก.ก.ละ 5 บาท นอกจากนี้ที่มีรายได้ทุกวันคือการคั้นน้ำอ้อยสดส่งขายวันละ 100 ขวด ขวดละ 10 บาท

สตูลพลิกดินลูกรังปลูกพืชผักตามรอยพ่อ 5 ปีสำเร็จเป็นแบบอย่างของชุมชน นายเกรียงไกร ศรีสงคราม ผญบ.หมู่ 5 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล พลิกฟื้นผืนดินลูกรัง มาปลูกพืชผักตามรอยพ่อ(ในหลวงร.9) ใช้เวลาปรับปรุงดิน 1 ปี เรียนรู้แบบทำไปเรียนรู้ไปจากประสบการณ์จริง 1 ปี จากนั้นจึงเริ่มปลูกพืชผักอย่างจริงจัง 3 ปี รวมทั้งหมด 5 ปี ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบให้ลูกบ้านได้มาศึกษาดูงาน ส่วนผักที่ปลูกก็แจกจ่ายให้กับลูกบ้านกิน ย้ำทำแล้วมีความสุข ตามรอยหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกทุกอย่างที่กินกินทุกอย่างที่ปลูก ที่เหลือขาย แถมรายได้ดี ตลาดมีไม่อั้น   โดยสวนผู้ใหญ่เกรียง บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” อยู่พื้นที่หมู่ 5 ต.น้ำผุด อ.ละงู ก็มีน.ส.เจียรนัย ศรีสงคราม หรือน้องโม ลูกสาวของผู้ใหญ่เกรียง ซึ่งเป็นยังสมาร์ทฟามเมอร์ ซึ่งเขามาทำเกษตรแบบเต็มตัวโดยน้องโมเล่าให้ฟังว่าสวนทั้งหมดมีพื้นที่ 20 ไร่ แรกเริ่มพ่อกับแม่เป็นคนทำโดยล้มพื้นที่ยางอายุ 7 ปีซึ่งเป็นยางที่กำลังได้เปิดกรีด แต่พ่อตัดสินใจล้มยางเพราะปัญหาราคายางที่ไม่แน่นอน โดยพื้นที่ยาง 10 ไร่ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะปลูกอะไรพี่สาวบอกอยากได้สวนทุเรียน พ่อจึงปลูกทุเรียนก่อนเป็นพันธุ์หมอนทอง