สตูลพลิกดินลูกรังปลูกพืชผักตามรอยพ่อ 5 ปีสำเร็จเป็นแบบอย่างของชุมชน

\"\"

สตูลพลิกดินลูกรังปลูกพืชผักตามรอยพ่อ 5 ปีสำเร็จเป็นแบบอย่างของชุมชน

นายเกรียงไกร ศรีสงคราม ผญบ.หมู่ 5 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล พลิกฟื้นผืนดินลูกรัง มาปลูกพืชผักตามรอยพ่อ(ในหลวงร.9) ใช้เวลาปรับปรุงดิน 1 ปี เรียนรู้แบบทำไปเรียนรู้ไปจากประสบการณ์จริง 1 ปี จากนั้นจึงเริ่มปลูกพืชผักอย่างจริงจัง 3 ปี รวมทั้งหมด 5 ปี ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบให้ลูกบ้านได้มาศึกษาดูงาน ส่วนผักที่ปลูกก็แจกจ่ายให้กับลูกบ้านกิน ย้ำทำแล้วมีความสุข ตามรอยหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกทุกอย่างที่กินกินทุกอย่างที่ปลูก ที่เหลือขาย แถมรายได้ดี ตลาดมีไม่อั้น

\"\"

 

โดยสวนผู้ใหญ่เกรียง บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” อยู่พื้นที่หมู่ 5 ต.น้ำผุด อ.ละงู ก็มีน.ส.เจียรนัย ศรีสงคราม หรือน้องโม ลูกสาวของผู้ใหญ่เกรียง ซึ่งเป็นยังสมาร์ทฟามเมอร์ ซึ่งเขามาทำเกษตรแบบเต็มตัวโดยน้องโมเล่าให้ฟังว่าสวนทั้งหมดมีพื้นที่ 20 ไร่ แรกเริ่มพ่อกับแม่เป็นคนทำโดยล้มพื้นที่ยางอายุ 7 ปีซึ่งเป็นยางที่กำลังได้เปิดกรีด แต่พ่อตัดสินใจล้มยางเพราะปัญหาราคายางที่ไม่แน่นอน โดยพื้นที่ยาง 10 ไร่ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะปลูกอะไรพี่สาวบอกอยากได้สวนทุเรียน พ่อจึงปลูกทุเรียนก่อนเป็นพันธุ์หมอนทอง จากนั้นแม่ชอบฝรั่งจึงปลูกฝรั่งพันธุ์หงเป่าสือซึ่งแม่บอกเป็นพันธุ์ที่อร่อยที่สุด ปลูกเพียง 50 ต้น ขณะที่พ่อปลูกกล้วย 3 สายพันธุ์คือน้ำว้า กล้วยไข่และกล้วยนางยา เพียง 6 เดือนฝรั่งให้ผลผลิต ต่อมากล้วยให้ผลผลิต พ่อแม่ไม่มีที่จะขายทาง จนท.เกษตรก็มาหาตลาดให้ จนขณะนี้กล้วยมีเท่าไหร่แม่ค้ามาจากหมดโดยเฉพาะกล้วยนางยา ส่วนฝรั่งขายดีจนผลิตไม่ทันต้องขยายพื้นที่ปลูกจาก 50 ต้นเป็น 500 ต้นเพราะรองรับความต้องการของลูกค้า จากนั้นพ่อกับแม่ก็ปลูกพืชผักทุกอย่างที่กินทั้งผักสวนครัว เช่นผักบุ้ง มะเขือ ผักกาดเขียวปลี ตะไคร้ ขิง ข่า เสาวรส จนพืชผักทุกอย่างมีแม่ค้ามาติดต่อซื้อและต้องขยายพื้นที่เพิ่มโดยอีก 10 ไร่ รวมเป็น 20 ไร่ แม้จะเป็นดินลูกรังพ่อกับแม่ก็ช่วยกันทำจนต้นไม้งอกงาม น้ำมีเพียงพอซึ่งหัวใจหลักของการเพาะปลูกคือดินและน้ำ เมื่อดินดี น้ำดี ทุกอย่างดีหมด ตอนนี้ผลผลิตที่มีรายได้ทุกวันคือตะไคร้ที่ปลูกแซมสวนฝรั่ง มีออเดอร์วันละ 200-300 ก.ก เป็นเงิน 2400-3600 บาท.ขายส่งก.ก.ละ 12 บาท ฝรั่ง 3 วันเก็บ 1 ครั้ง ครั้งละ 300-400 ก.ก. ละ 70 บาท รายได้รอบละกว่า 20,000 บาท กล้วยขายได้เดือนละ 3-4 หมื่นบาท

\"\"

นอกจากนี้ยังมีผักต่างๆ แต่ผักเน้นแจกมากกว่าขายเพราะต้องการให้ลูกบ้านได้มาเรียนรู้ ซึ่งปีนี้ช่วงปลายปีทุเรียนก็จะให้ผลผลิตอีก โดยพ่อถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว เมื่อตนเรียนจบก็มาสานต่องานของพ่อ ตอนแรกก็เสียดายเพราะตนเรียนบริหารธุรกิจการบิน เตรียมจะทำงานแล้ว แต่เมื่อกลับบ้านพ่อให้สานต่องาน ซึ่งงานเกษตรไม่เคยทำมาก่อน แต่เมื่อทำไปก็เกิดความรักและมองว่าได้อยู่กับครอบครัวดูแลพ่อแม่ตอนนี้ก็มีความสุขกับงานที่ทำโดยสวนของตนจะเน้นการปลูกพืชปลอดภัย จึงตั้งเป้าจะขอจีเอพีเพื่อส่งตลาดโมเดิร์นเทรดและใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาเสริม ซึ่งตอนนี้ตนเข้ากลุ่มยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ได้พบกับเกษตรกรคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียดีๆ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ก็ถือเป็นงานที่สนุกขอแค่มีความอดทนก็จะประสบความสำเร็จได้

\"\"