สิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2568 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการนำรถยนต์ราชการทุกคัน ไปตรวจสอบสภาพรถยนต์ เพื่อป้องกันการปล่อยควันดำที่จะมาเพิ่มปริมาณฝุ่นละออง โดยเฉพาะ PM 2.5 ในเขตเมือง โดยมอบหมายสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น อำนวยความสะดวกให้กับส่วนราชการทยอยนำรถไปตรวจสภาพจนครบทุกคัน นอกจากนี้ยังพบว่าจังหวัดขอนแก่น มีรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล อายุการใช้งานเกิน 7 ปีขึ้นไป ประมาณ 150,000 คัน ให้ขนส่งจังหวัดเข้าไปตรวจสอบและดำเนินเชิงรุก ให้รถกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ได้ตรวจสภาพรถยนต์ให้มีความพร้อมใช้งาน ไม่ปล่อยควันเกินกำหนด ซึ่งเปิดให้บริการตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่งทุกอำเภอ   ด้านนายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และนายสุรชัย สินประกอบ พลังงานจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยฝ่ายความมั่นคง ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองขอนแก่น รองนายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า และเจ้าหน้าที่ฯ ผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตราการ \” ห้ามเผา\”การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ของจังหวัดขอนแก่น กับผู้ประกอบการ จุฑาทิพย์ ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งประกอบกิจการต้มย้อมผ้าจากสีธรรมชาติด้วยเตาโดยมีฟืนเป็นเชื้อเพลิงหลัก

ราชบุรี   สำหรับในพื้นที่อ.โพธาราม  จ.ราชบุรี  เป็นอีกอำเภอที่มีการปลูกอ้อย และการเลี้ยงวัว และที่ผ่านมามักจะมีการเผาไร่อ้อย หรือพวกที่มาตีผึ้ง ทิ้งก้นบุหรี่ และทางเจ้าของไร่อ้อยจะจุดไฟเผาที่ตออ้อย เผาหญ้าทำให้เกิดปัญหาหมอกควัน บางบ้านที่เลี้ยงวัวและมักจะใช้หญ้าแห้งหรือขยะ จุดไฟเพื่อให้เกิดควันเพื่อไม่ให้ยุงมากัดวัวตนเอง ซึ่งกลุ่มควันจะไปสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้าน และเป็นอันตรายกับทางเดินหายใจ ซึ่งมีความผิดตามกฏหมาย ทางอำเภอโพธารามจีงจัดทำ การรณรงค์ประชาสัมพัมพันธ์  การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ซึ่งในพื้นที่อำเภอโพธารามยังขึ้นตัวส้มอยู่ โดยมอบหมายให้ทางเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในแต่ละพื้นที่ เข้าไปเคาะประตูบ้านประชาสัมพันธ์ดำเนินการตามมาตรการ พร้อมทั้งยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ตามมาตรการต่างๆ ของจังหวัดราชบุรีและรัฐบาล พร้อมทั้งคุมเข้มการเผาในพื้นที่เกษตร บังคับใช้กฎหมายให้คำแนะนำกับเกษตรกร ประชาชน พร้อมทั้งได้ดูแลประชาชน รวมทั้ง ทำการฉีดน้ำล้างถนน และเครือข่ายทั้งหมดช่วยกันประชาสัมพันธ์รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชน เรื่อง “ห้ามเผา” ให้มากที่สุด พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง หากพบผู้ฝ่าฝืนจะดำเนินคดีกฎหมายเด็ดขาด ทางอำเภอโพธารามจึงได้แนวคิดให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมโดยการประกาศตั้งรางวัลนำจับกรณีมีการแอบเผาไร่อ้อย ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสมาพร้อมหลักฐาน จนสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดเผาไร่อ้อย ก็จะได้รางวัลนำจับจำนวน 20,000 บาท โดยทางอำเภอจะปกปิดคนที่แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ ซึ่งการแจ้งเบาะแสนั้นให้แจ้งโดยตรงกับนายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม 081-8674131 ตั้งแต่บัดนี้จนถึง31มีนาคม2568 ด้านนายศุภชัย ครุฑดำ

วันนี้ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น. นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดลำปาง ประจำปี พ.ศ.2568 โดยมี นายกฤษณะ พินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 3 ที่ว่าการอำเภอเมืองลำปาง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน ในปี พ.ศ.2568 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยบูรณาการจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยที่ประชุม กำหนดวันเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ประจำปี พ.ศ.2568 มีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568

จำนวนจุดความร้อน และค่า PM 2.5 จากสถานีตรวจวัดในจังหวัดลำปาง ประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ล่าสุดเวลา 15.00 น. พบจุดความร้อน ในพื้นที่จังหวัดลำปาง 5 จุด

ชัยภูมิ – ช่วยลดค่า Pm2.5 ช่วยลดมลพิษปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน และยังมีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นดีกว่าการเผาอ้อยได้อีกด้วย! ( 4 ก.พ.68 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ จากสถานการณ์ปัญหาฝุ่นพิษ Pm2.5 ในพื้นที่ประเทศไทย นับเป็นปัญหาชาติถึงระดับโลก ที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไข ซึ่งปัญหาที่สำคัญทำให้เกิดฝุ่นพิษPm2.5 ได้รับผลกระทบต่อตัวมนุษย์ คือจากฝีมือมนุษย์เองจากการเผาป่าไม้ตามเทือกเขาต่าง ๆ รวมถึงเกิดไฟไหม้ตามพื้นที่เกษตรกรรมจำนวนมาก ในช่วงนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงตัดอ้อยส่งโรงงานหีบอ้อยทำน้ำตาลทราย ที่หลายปีที่ผ่านมาพื้นที่ผ่านมามักมีการเผาไร่อ้อยเพื่อให้ง่าย ใช้เวลารวดเร็วในการเผาไร่อ้อยก่อนตัดส่งโรงงานหีบอ้อย แต่ปัญหาตามมาทำให้เกิดฝุ่นพิษ Pm2.5 สูงขึ้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ ในปี 2568 นี้ รวมทั้งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีการขยายพื้นที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงานหีบอ้อยตามพื้นที่ต่างๆให้มากขึ้น พร้อมออกมาตรการจับจริง ติดคุกปรับจริง สำหรับผู้ลักลอบเผาหญ้าแห้ง ตอซังข้าว ไร่อ้อย ซึ่งในปีนี้ ทาง จ.ชัยภูมิ ในทุกพื้นที่มีการเข้มงวดในทั้ง 16 อำเภอ ซึ่งมีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีทำให้เกิดไฟไหม้ป่า และพื้นที่การเกษตรไปแล้วกว่า 50 คดี ผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 14 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขยายผลดำเนินคดีเพิ่มเติม และขณะเดียวกัน

พังงา-ข่าวดี แม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไขรังที่ 4 ของฤดูกาล ที่เกาะระ จำนวน 101 ฟอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ได้รับแจ้งจากนายปัญญา กำมะหยี่ ว่านายขลุด กล้าทะเลชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะพระทองว่า พบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล บริเวณชายหาดเกาะระ หมู่ที่ 3 ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา  นายโกสิทธิ์ นิลรัตน์ ผอ.สทช.6 จึงมอบหมายให้ นายสุริยะ สอนเสริม ผอ.สอช./ผอ.ศอปล.10 พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10(ตะกั่วป่า พังงา) ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยให้ประสานการปฏิบัติงานกับหัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะอันดามันตอนบน(ศวอบ) จากการตรวจสอบพบร่องรอยเต่าทะเลบริเวณชายหาดแต่ไม่สามารถตรวจวัดขนาดความกว้างของร่องรอยพายได้ เนื่องจากมีบุคคคลทำการลบร่องรอยร่วมถึงพื้นที่บริเวณที่เต่าวางไข่มีร่องรอยการขุดและกลบทรายเปลี่ยนสภาพพื้นที่ไปจากร่องรอยเดิมที่แม่เต่าวางไข่  เจ้าหน้าจึงทำการขุดหาไข่และพบไข่เต่าที่ระดับความลึก 70 ซม. ตรวจวัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไข่ได้ 5.14 ซม.  ตรวจสอบภายในหลุมไข่พบว่ามีไข่แตกทำให้ไข่ที่แตกไหลไปติดไข่ในหลุมเกือบทั้งหมด จึงทำการย้ายไข่ทั้งหมดออกจากหลุมล้างทำความสะอาดป้องกันการเกิดเชื้อราขณะฟัก และตรวจนับได้รวม 101 ฟอง ไข่ดี 69 ฟอง ไข่ลม 26 ฟอง(แตก 1 ฟอง)

พังงา-ภาพน่ารักเจ้าหน้าที่อุทยานและนักท่องเที่ยวร่วมปล่อยลูกเต่ากระกลับสู่ทะเล 125 ตัวที่เกาะสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา นำเจ้าหน้าที่อุทยานพร้อมกับนักท่องเที่ยว ร่วมกันปล่อยลูกเต่ากระกลับลงลงสู่ท้องทะเล จำนวน 125 ตัว บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ มส.3 อ่าวช่องขาด โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้เฝ้าระวังและติดตามการฟักไข่ของเต่าทะเลที่แม่เต่าได้ขึ้นมาวางไข่ไว้เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 จนกระทั่งถึงเช้าวันที่ 31 มกราคม 2567 เวลา 08.05 น. พบว่าทรายบริเวณหลุมฟักไข่เกิดการยุบตัวลงอย่างชัดเจน จึงเฝ้าติดตามและสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด จนถึงเวลา 17.10 น. พบว่ามีการยุบตัวลงของทรายเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปาดทรายบริเวณผิวหน้าของหลุมฟักไข่ออก ปรากฏว่าพบลูกเต่ากระจำนวนหนึ่งรอขึ้นจากหลุมฟักไข่ และพากันดันขึ้นมาในเวลาต่อมา จึงได้ทยอยปล่อยลูกเต่ากระที่ฟักออกทั้งหมดลงทะเลจำนวน 125 ตัว ทุกตัวมีสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยไข่เต่าทะเลรังนี้มีทั้งหมด 132 ฟอง ไข่เสีย 5 ฟอง และตาย 2

นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร จังหวัดลำปาง ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมกิจกรรรม Kick off การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง โดยมี นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดงานการณรงรงค์ Kick off การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลำปาง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด ณ สำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร และร่วมลงพื้นที่ Kick off รณรงค์เคาะประตูบ้านเชิญชวนให้ประชาชนในชุมชนบ้านร้อง “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” เพื่อสร้างการตระหนักรู้ให้กับประชาชนในการห้ามเผา ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของจังหวัดลำปางที่สร้างมลภาวะทางอากาศ และส่งผลเสียทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยว และเพื่อร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ให้จังหวัดลำปางกลับมามีอากาศที่ดี ปราศจาก PM 2.5 ต่อไป