เศรษฐกิจ

“ศุภมาส” ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาก่อนประชุม ครม.สัญจร ลั่นเตรียมยกระดับ “ทุเรียน – ยางพารา – ปาล์มน้ำมัน” ให้มีราคาสูงขึ้น หลัง ส.ส.จังหวัดสงขลา เขต 7 พรรคภูมิใจไทย ขอให้กระทรวง อว.ช่วยชาวบ้านให้มีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมยกระดับธุรกิจฮาลาลสู่ตลาดโลก เมื่อวันที่ 17 ก.พ.68 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.อว. น.ส.สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. และผู้บริหารกระทรวง อว. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของกระทรวง อว. ภายใต้การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (สงขลา ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง) ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 […]

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ก่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พัทลุง พัทลุง – วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่บริเวณทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญของภาคใต้และเป็นศูนย์กลางเกษตรกรรม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดสงขลา ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ติดตามปัญหาน้ำและเร่งฟื้นฟูระบบนิเวศ นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับปัญหาการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะปัญหาวัชพืชที่แพร่กระจายในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลน้อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำและระบบนิเวศ โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลจะผลักดันให้มีการขุดลอกและกำจัดวัชพืชกว่า 3,000 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ และช่วยให้การระบายน้ำในช่วงน้ำหลากเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หากสามารถกำจัดวัชพืชได้ ดอกบัวแดงในทะเลน้อยจะกลับมาเติบโตเหมือนในอดีต นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การบริหารจัดการน้ำต้องเป็นระบบและยั่งยืน ไม่ใช่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพียงปีเดียว พร้อมมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ ฟื้นฟูระบบนิเวศ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนพบปะประชาชน เยี่ยมชมสินค้า OTOP และวัฒนธรรมท้องถิ่น   หลังจากตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ นายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยกับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมเยี่ยมชมบูธสินค้า

  ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง จัดโครงการ Lampang Coffee Fest ระหว่างวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อส่งเสริมและพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยเชื่อมโยงวัฒนธรรมกาแฟ และวิถีชีวิตในพื้นที่เพาะปลูกกาแฟของจังหวัดลำปาง ให้กาแฟของลำปางเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรพัฒนาทักษะการแปรรูปการสร้างมูลค่ากาแฟ และกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว อีกทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่าง ๆ ในท้องถิ่น เลือกซื้อผลิตภัณฑ์กาแฟ ชา โกโก้ เบเกอรี่ จากผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 50 ร้านค้า และสินค้าจากกลุ่มเกษตรกร และกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ การเสวนาการพัฒนาสายพันธุ์กาแฟและกระบวนการแปรรูปกาแฟลำปาง , กิจกรรม Cupping เพื่อทดสอบคุณภาพกาแฟ , การประกวดแข่งขัน Latte Art ,การประกวด Drip Coffee และนิทรรศการ เป็นต้น

ยุคสมัยผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนต้องรู้เท่าทัน และเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นอัตลักษณ์วัฒนธรรมในอดีต ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนถูก GEN แต่ละรุ่น บันทึกเป็นความทรงจำดีๆ ในแพลตฟอร์มต่างๆของโลกโซเชียล \”มหกรรมอัตลักษณ์วัฒนธรรมชายแดนใต้\” ภายใต้โครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน – โครงการพัฒนาพื้นที่เชื่อมโยงเพื่อการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยกลุ่ม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้  นับว่าเป็นความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ใน 5 จังหวัด (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลาและสตูล)   วันนี้ (15 ก.พ.68) เวลา 15.30 น.จะมีขบวนแห่ทางวัฒนธรรมจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 ก.พ.68 ที่เชื่อว่า GEN ที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ว่ามี จะได้สัมผัสในมหกรรมครั้งนี้ ทั้งเอกลักษณ์งานผ้าชายแดนใต้ ในตีมชุดโบราณชาย, ชุดผ้าปุนชอปอตอง, ชุดบูซาน่า(ราชสำนักมลายู) , เสื้อตักวาชุดโบราณหญิง ผ้าลีมาร์ ,ชุดบูซานา (ราชสำนักมลายู) และเสื้อกูรงหญิง รวมทั้งการแสดงอัตลักษณ์ 5 จชต.โขน, มโนราห์

วันนี้ (14 ก.พ. 68) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ขอนแก่น ขับเคลื่อนงานพัฒนาแหล่งน้ำ ส่งเสริมการเกษตร ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างสะพานคอนกรีตทดแทนสะพานไม้ที่ชำรุด และติดตามการปรับปรุงและติดตามการก่อสร้างแก้มลิง กักเก็บน้ำให้ชาวอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่นมีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานก่อสร้างโครงการสะพานข้ามคลอง LMC โดยมี นายวรพจน์ เพชรนรชาติ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายไพฑูรย์ ศรีมุก ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และสรุปผลการดำเนินงาน ณ บริเวณสะพานข้ามคลอง LMC บ้านสำโรง ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น จากนั้นในช่วงบ่าย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยี นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อธุรกิจ ครั้งที่ 2 “Smart Business Expo 2025” พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การนำนวัตกรรม AI พัฒนาการเกษตร” โอกาสนี้

\”มิตซูบิชิ อิเล็คทริค” จับมือ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” ขับเคลื่อนความเป็นกลางทางคาร์บอนและเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสังคมยั่งยืนในไทยฯ  กรุงเทพฯ – (14 กุมภาพันธ์ 2568) บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น (Mitsubishi Electric Corporation หรือ MELCO) จากญี่ปุ่น ร่วมมือกับ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) ประกาศร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนใน 2 ด้าน ได้แก่ 1. ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสู่ด้านระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และ เทคโนโลยีการรีไซเคิลขยะพลาสติก 2. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและเศรษฐกิจหมุนเวียน สอดคล้องกับเป้าหมายของทั้งสององค์กร ในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 โดยมิตซูบิชิ อิเล็คทริค จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยยกระดับกระบวนการทำงานในธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และต่อยอดไประดับภูมิภาค ที่นำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และ บุคลากร มาร่วมกันพัฒนา รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ระบบดิจิทัล และโซลูชันที่ตอบโจทย์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน รวมไปถึงการพัฒนาระบบรีไซเคิลพลาสติก

ข่าวดี เปิดตัวโครงการคอนโดวัยเกษียณ whale senior residence และ Whale Wellness ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และผู้มีสภาวะพึ่งพิงหาดใหญ่ที่แรกของภาคใต้

📢ห้ามพลาด ! ปี้น้องจาวเจียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง กิจกรรม “Matching day จับคู่ กู้เงิน” พบกับสินเชื่อพิเศษ 3 โครงการ เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ 🗓️ พบกันวันที่ 4 มีนาคม เวลา 13.00 – 15.00 น. สถานที่ โรงแรม อโมร่า ท่าแพ ห้องสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ พิเศษ ! สำหรับลูกใหม่ที่ยื่นกู้ภายในงาน รับเงื่อนไขพิเศษ รับเพียง 20 กิจการเท่านั้น ลงทะเบียนร่วมสัมมนาฟรี : https://forms.office.com/r/AVqs9ANWM7 สอบถามได้ที่ :คุณสุวรรณา 02-265-4597 หรือ Call Center 📞1357

ม.หอการค้าไทย เปิดเวทีเสวนาวิชาการ \”พลวัตเศรษฐกิจดิจิทัล: ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจฯ\” กรุงเทพฯ – (13 ก.พ. 2568) ที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดงานเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ พลวัตเศรษฐกิจดิจิทัล: ความเสี่ยง และโอกาสทางธุรกิจ ตลาดแรงงาน ความสามารถในการแข่งขันและความเป็นธรรม จัดโดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) และคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย           รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุน การค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) ได้กล่าวถึงข้อมูลผลสำรวจความคิดเห็นของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) และ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กส่วนใหญ่คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะแย่ลง โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดย่อย การเตรียมการปรับตัวต่อเศรษฐกิจดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในระดับต่ำ เนื่องจากไม่ตระหนักถึงความสำคัญว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ไม่มีเงินทุนสำหรับลงทุน บางส่วนขาดสภาพคล่องทางการเงิน ปัจจัยที่ผู้ประกอบการคิดว่ามีผลกระทบต่อการลงทุนในปี 2568

วันที่ 12 ก.พ. 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตลาดสดเทศบาลเมืองชัยนาท สำรวจบรรยากาศใกล้วันวาเลนไทน์ 14กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก พบว่าช่วงนี้ราคาดอกกุหลาบ สัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์ที่ผู้คนนิยมซื้อหานำไปมอบให้เพื่อแสดงความรักต่อกันนั้น ราคาขายส่งเริ่มขยับขึ้นจนน่าตกใจ ราคาขึ้นเกือบเท่าตัว ปัจจุบันดอกกุหลาบขนาดปกติ ไซส์มาตรฐาน ขายหน้าร้านราคาดอกละ 10-15 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 ก.พ.68 วาเลนไทน์ราคาน่าจะขยับไปขายที่ 15-30 บาท ตามราคาส่งที่ปรับขึ้นอย่างแน่นอน นางสุนันท์ กลิ่นกุหลาบ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านขายพวงมาลัยและดอกไม้สด เผยว่า ราคาดอกกุหลาบปีนี้ปรับขึ้นแรงมาก มัดละ 500 บาท ได้ 20 ดอก ตกดอกละ 25 บาทแล้ว ราคาปีที่แล้วอยู่ที่มัดละไม่เกิน 30 บาท ปีนี้ก้าวกระโดดมาก แต่พอมาจัดช่อก็ต้องคิดอีกราคา เพราะพวกดอกที่ใช้ตกแต่งจัดช่ออย่างดอก คัตเตอร์ ดอกมัม จาก 80 เป็น 120 บาท