รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานก่อสร้างโครงการสะพานข้ามคลอง LMC

วันนี้ (14 ก.พ. 68) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ขอนแก่น ขับเคลื่อนงานพัฒนาแหล่งน้ำ ส่งเสริมการเกษตร ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างสะพานคอนกรีตทดแทนสะพานไม้ที่ชำรุด และติดตามการปรับปรุงและติดตามการก่อสร้างแก้มลิง กักเก็บน้ำให้ชาวอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่นมีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
\"\"
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานก่อสร้างโครงการสะพานข้ามคลอง LMC โดยมี นายวรพจน์ เพชรนรชาติ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายไพฑูรย์ ศรีมุก ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และสรุปผลการดำเนินงาน ณ บริเวณสะพานข้ามคลอง LMC บ้านสำโรง ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
จากนั้นในช่วงบ่าย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยี นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อธุรกิจ ครั้งที่ 2 “Smart Business Expo 2025” พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การนำนวัตกรรม AI พัฒนาการเกษตร” โอกาสนี้ ผู้นำชุมชนและประชาชนได้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อของบประมาณในการซ่อมแซมถนนที่ใช้งานมานานชำรุดทรุดโทรม ขอสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้างประตูน้ำบริหารจัดการน้ำในพื้นที่
\"\"
ซึ่งการก่อสร้างสะพานข้ามคลอง LMC โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้วางแผนก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ทดแทนสะพานไม้เดิม ที่มีอายุการใช้งานมานาน ทำให้เกิดการชำรุดเสียหาย ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน สัญจรและลำเลียงผลผลิตทางการเกษตรยากลำบากได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น โดยสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งใหม่ มีขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 24 เมตร หากโครงการฯแล้วเสร็จ จะทำให้ประชาชนใน 2 หมู่บ้าน จำนวน 700 ครัวเรือน ได้รับความสะดวกและความปลอดภัยในการสัญจร ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการขอรับงบประมาณ พ.ศ. 2569
\"\"
ในส่วนของ โครงการพัฒนาแก้มลิงหนองสำโรง ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เดิมมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 140 ไร่ แต่สามารถเก็บกักน้ำได้เพียง 400,000 ลบ.ม. ไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร เนื่องจากมีสภาพตื้นเขินและถูกวัชพืชปกคลุมเป็นจำนวนมาก กรมชลประทานได้ทำการขุดลอกตะกอนดินความลึก 2.50 เมตร ในพื้นที่ประมาณ 120 ไร่ พร้อมกับการก่อสร้างคันดินผิวจราจรลูกรัง ความยาว 1.40 กิโลเมตร และอาคารระบายน้ำ 1 แห่ง รวมถึงอาคารท่อรับน้ำจำนวน 2 แห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ หากโครงการเสร็จสมบูรณ์ จะสามารถเก็บกักน้ำได้ทั้งหมด 820,000 ลบ.ม. ช่วยเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนให้กับพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานประมาณ 300 ไร่ และเป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้านสำโรง หมู่ที่ 11 และ 12 ประชาชนที่ได้รับประโยชน์จำนวน 500 ครัวเรือน ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะเร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องชาวขอนแก่น