ทัชชภร สารพรรณ์

สตูลสาวไอเดียเก๋นำผลไม้มาผสมกับเครื่องดื่มชาไทยทุเรียนขายดีทำแทบไม่ทัน

สตูลสาวไอเดียเก๋นำผลไม้มาผสมกับเครื่องดื่มชาไทยทุเรียนขายดีทำแทบไม่ทัน สาวเปิดร้านขายน้ำ โดยเปิดเป็นร้านเล็กๆหน้าบ้านริมถนนเส้นทางละงู-ปากบารา เลยสะพานละงู อ.ละงู จ.สตูลใช้ชื่อว่า “หลงเขาคาเฟ่ ขายน้ำชงทั่วไป โดยเปิดมา 2 ปีเศษ และในช่วงฤดูกาลผลไม้ปีนี้จึงมีไอเดียทำน้ำชงผสมผลไม้ กลายเป็นที่ฮือฮาถูกใจเหล่าคอน้ำชงทั้งหลาย โดยที่ติดอันดับตอนนี้คือชาไทยทุเรียน โกโก้ทุเรียนที่เสิร์ฟพร้อมทุเรียนมาทั้งยุม สมุทตี้มะม่วง ที่เสริ์ฟพร้อมเนื้อมะม่วงสดๆ ฉ่ำๆ ดื่มแล้วให้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า โดยเมนูน้ำผสมผลไม้กำลังติดเทรนได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างมากในราคาที่ไม่แรง จับต้องได้ น.ส.อุไร สุหรน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่15 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล เจ้าของร้านกล่าวว่าจุดเริ่มต้นที่นำทุเรียนมาผสมกับน้ำชงเพราะเป็นคนที่ชอบกินทุเรียนอยู่แล้ว เห็นที่อื่นเขานำผลไม้อย่างอื่นมาทำ ตนเห็นว่าทุเรียนยังไม่มีใครลองจึงทดลองทำดูโดยนำชาไทยซึ่งเป็นชาสูตรของตนเองมาใส่ปิ้งครีมและนำทุเรียน 1 ยุมมาวางจากนั้นราดด้วยวิปปิ้งครีมและตกแต่งให้สวยงาม ชาไทยทุเรียนจึงกลายเป็นเมนูของหวานสุดแปลกที่ลูกค้าแวะมาต้องสั่ง รสชาติชาไทยของที่ร้านตนไม่หวานแหลมเมื่อกินคู่กับทุเรียนที่ใส่มาแบบเต็มแก้วเนื้อทุเรียนขนาดพอดีไม่แข็งและไม่เละ ทำให้รสชาติหวานละมุนกลมกล่อมถูกใจนักดื่มชาทั้งหลาย จากนั้นตนก็เพิ่มเมนูโกโก้ทุเรียน ชาเขียวทุเรียน เมนูอื่นที่ได้รับความนิยมเช่นสมุทตี้มะม่วงเพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลของมะม่วงเสิร์ฟมาพร้อมเนื้อมะม่วงฉ่ำๆ เน้นความหวานของมะม่วงกินแล้วให้ความสดชื่น โดยเมนูน้ำจะอยู่ที่ 49-59 บาทนอกจากเมนูชาไทยทุเรียนแก้วละ 69 บาท นอกจากนี้ยังมีขนมทานเล่นโดยเฉพาะเมนูครอฟเฟิล ที่ออริจินอลราคาชุดละ 25 บาท และเมนูอื่นเช่นนูเทลล่าอัลมอนด์ 29บาท […]

สตูลสาวไอเดียเก๋นำผลไม้มาผสมกับเครื่องดื่มชาไทยทุเรียนขายดีทำแทบไม่ทัน Read More »

สตูลตรวจเรือประมงทะเล จำนวน 6 ลำ แรงงาน 181 คน ไม่พบการกระทำความผิดกฎหมายแรงงาน

สตูลตรวจเรือประมงทะเล จำนวน 6 ลำ แรงงาน 181 คน ไม่พบการกระทำความผิดกฎหมายแรงงาน นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานปล่อยแถวบูรณาการตรวจคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเลตามแผนปฏิบัติงานการตรวจฯ ซึ่งตรวจคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล ตรวจสภาพการจ้าง สภาพการทำงาน การใช้แรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ พร้อมด้วย นายสุขเกษม ศรีงาม หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ฯ โดยได้รับการสนับสนุนเรือในการออกตรวจทางทะเลจากหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) ณ บริเวณร่องน้ำปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล สำหรับการบูรณาการตรวจแรงงานในเรือประมงทะเลครั้งนี้ ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เพื่อคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายคุ้มครอง อีกทั้งเพื่อให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ รวมถึงมีมาตรการที่ชัดเจนและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการปฏิบัติงานตรวจเรือประมง จำนวน 6 ลำ ซึ่งมีแรงงานทั้งหมด 181 คน เป็นคนไทยจำนวน 181 คน โดยผู้ประกอบการเจ้าของเรือให้ความร่วมมือในการตรวจเอกสารสิทธิ์ของลูกเรือเป็นอย่างดี สรุปผลการตรวจเรือประมงไม่พบว่ามีการใช้แรงงานเด็กต่ำกว่า 18 ปี ไม่พบการใช้แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ และไม่พบข้อบ่งชี้เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ส่วนการตรวจสอบทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ อุปกรณ์ ใบประกาศนียบัตรคนใช้ ใบอนุญาตประมงพาณิชย์ การใช้เครื่องมือจับสัตว์น้ำ และที่เกี่ยวข้อง เรือประมงทุกลำได้ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด ไม่พบการกระทำความผิดตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้ชี้แจงประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ พ.ร.ก.การประมง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ไต๋เรือและลูกเรือประมงได้รับทราบ เพื่อป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย

สตูลตรวจเรือประมงทะเล จำนวน 6 ลำ แรงงาน 181 คน ไม่พบการกระทำความผิดกฎหมายแรงงาน Read More »

สตูลก๋วยเตี๋ยวกระสือเมนูใหม่เกาะกระแสกระสือในพื้นที่ที่กำลังมาแรงลูกค้าถูกใจ

สตูลก๋วยเตี๋ยวกระสือเมนูใหม่เกาะกระแสกระสือในพื้นที่ที่กำลังมาแรงลูกค้าถูกใจ ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นเตาฟืน ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามร.ร.บ้านปากบารา หมู่ที่ 2 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล เปิดเมนูใหม่เกาะกระแสกระสือที่กำลังในพื้นที่ เป็นเมนูที่ชื่อว่าก๋วยเตี๋ยวกระสือ โดยนำโครงไก่มาใส่ตับ ไส้ ปอด หัวใจ ราดด้วยซอสแดง กลายเป็นที่ถูกใจของนักกินทั้งหลายขายดีอีกเมนูหนึ่ง น.ส.กนกวรรณ อินสังข์ แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นเตาฟืน เล่าให้ฟังว่าปกติเมนูที่ร้านของตนหลักๆคือก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น และเมนูที่ลูกค้าชอบสั่งคือก๋วยเตี๋ยวโครงไก่ จากนั้นก็เพิ่มเมนูอาหารตามสั่ง มาม่าผัดแห้ง ก๋วยเตี๋ยวคลุก ข้าวผัด ข้าวกะเพราไก่ ซึ่งที่ขายดีที่สุดคือก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นอิ่มแบบเต็มพุงถ้วยละ 30 บาท อิ่มพุงแตกถ้วยละ 40 บาท ชุดเกินคุ้มเตี๋ยวโครงไก่ชุดละ 60 บาท เนื้อเปื่อย 40/50 บาท แต่หลังจากชาวบ้านในพื้นที่พบดวงไฟประหลาดซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าดวงไฟดังกล่าวเป็นกระสือ ร้านของตนเปิด 10 โมงถึง 2 ทุ่มลูกค้าบางคนมานั่งกินที่ร้านแล้วออกตามล่ากระสือกัน และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากกระแสกระสือมาแรง ลูกค้ามานั่งกินที่ร้านก็พูดแต่เรื่องนี้ตนจึงอาศัยจังหวะดังกล่าวเปิดเมนูใหม่เป็นก๋วยเตี๋ยวกระสือ เพราะตนขายเป็นโครงไก่อยู่แล้วก็คิดว่าช่วงนี้กระแสของกระสือในพื้นที่มันแรงมาก และร้านของตนก็อยู่ในย่านที่เขาพบเห็นกระสือ จึงตามกระแสทำเป็นก๋วยเตี๋ยวกระสือขึ้นมา โดยมีโครงไก่ ตับ ไส้ ปอด หัวใจ ประเภทเครื่องในทั้งหมด ขายชุดละ 70 บาท ราดด้วยซอสแดง(ที่ดูเหมือนเลือดสด) ซึ่งลูกค้าก็ตอบรับอย่างดี วันหนึ่งขายได้ไม่ต่ำกว่า 10 โครงก็ถือว่าใช้ได้ เมนูนี้ถือว่ากำลังฮิตในตอนนี้ ปกติก๋วยเตี๋ยวโครงไก่ชุดละ 60 บาทอยู่แล้วแต่เมื่อเติมเครื่องในไปก็เพิ่มแค่ 10

สตูลก๋วยเตี๋ยวกระสือเมนูใหม่เกาะกระแสกระสือในพื้นที่ที่กำลังมาแรงลูกค้าถูกใจ Read More »

สตูลดวงไฟประหลาดพาชาวบ้านแห่พิสูจน์หมู่บ้านปากบาราคึกคัก

สตูลดวงไฟประหลาดพาชาวบ้านแห่พิสูจน์หมู่บ้านปากบาราคึกคัก กรณีดวงไฟประหลาดมีสีส้มสลับขาวลักษณะวาววาบ บริเวณพื้นที่หมู่2 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งดวงไฟดังกล่าวเป็นที่โจษจันกันว่าอาจเป็นแสงของกระสือ เพราะลักษณะดังกล่าวเป็นแสงวาบ ไม่ใช่โดรน แต่ชาวบ้านหลายพื้นที่เมื่อทราบข่าวต่างอยากพิสูจน์ว่าแสงไฟดังกล่าวเป็นอะไรกันแน่ ทำให้หมู่บ้านปากบาราในช่วงค่ำจนดึก คักคักไปด้วยชาวบ้านที่มาเฝ้ารอแสงประหลาดที่ชาวบ้านเรียกแสงกระสือ ล่าสุดเมื่อคืนวันที่18 พ.ค. 68 นายสุรเดช สำสู อายุ 44 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ปากน้ำ เล่าให้ฟังว่าครั้งล่าสุดที่ตนพบคือวันที่ชาวบ้านถ่ายภาพกัน ตนมองเห็นแสงออกส้มขาวสว่างวาบขึ้นมาแล้วลัดไปตามยอดไม้ แสงวาบขึ้นมาประมาณ10 วิ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาตนเห็นวัยรุ่นหลายคนมาซุ่มดูอยู่หน้าบ้าน ตนเห็นลูกโป่งของหลานจึงนึกสนุกอยากจะมาหยอกหลานๆเล่น เพราะบางคนถึงกลับมาปูเสื่อนอนรอชมกันก็มี ปรากฏว่าขณะที่พี่สาวของตนถ่ายเพื่อที่จะนำภาพไปแกล้งหลอกหลาน ๆ กลับมีดวงไฟดังกล่าวโผล่วาววาบขึ้นมา ซึ่งเด็กวัยรุ่นและชาวบ้านที่เขามาเฝ้าดูกันก็เห็น แต่สำหรับตนและพี่สาวที่ถ่ายทำคลิปกันมองไม่เห็น แต่มาเห็นตอนตรวจสอบคลิปที่ถ่ายพบว่ามีแสงไฟดังกล่าวโผล่มาด้านบน จากนั้นมาโผล่ด้านล่างและขึ้นด้านบนอีกครั้ง โดยพี่สาวของตนถ่ายติดมาโดยไม่ตั้งใจเพราะตอนนั้นตั้งใจจะถ่ายลูกโป่งที่ตนทำขึ้นเพื่อหลอกหลานเท่านั้น เมื่อทำเป็นภาพนิ่งแล้วซูมดูก็ตกใจเพราะด้านบนของแสงไฟบางคนมองว่าเหมือนหน้าของคน สำหรับแสงไฟประหลาดนั้น คนที่มาเขามาเพื่อต้องการอยากรู้พิสูจน์ดูว่าเป็นอะไรกันแน่ แต่สำหรับตนนั้นตนเชื่อว่าสิ่งที่เห็นคือ “ยิน” เพราะอิสลามมีความเชื่อว่าสิ่งลี้ลับที่อยู่บนโลกเรานอกจากมนุษย์แล้วยังมียิน ที่ถูกสร้างมาจากแสงหรือไฟ ซึ่งดวงไฟที่เห็นนั้นเห็นกันจริงเห็นกันทั้งหมู่บ้าน จึงมีหลายคนที่อยากพิสูจน์จึงมาเฝ้าดูกันแต่ละคืนเป็นจำนวนมาก

สตูลดวงไฟประหลาดพาชาวบ้านแห่พิสูจน์หมู่บ้านปากบาราคึกคัก Read More »

 นปท.เกาะหลีเป๊ะจับกุมเรือประมงพื้นบ้านลักลอบใช้เครื่องมือประมงอวนลากโดยไม่ได้รับอนุญาตในเขตทะเลชายฝั่ง

นปท.เกาะหลีเป๊ะจับกุมเรือประมงพื้นบ้านลักลอบใช้เครื่องมือประมงอวนลากโดยไม่ได้รับอนุญาตในเขตทะเลชายฝั่ง หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล)  ศูนย์ฯกระบี่ กองตรวจการประมง กรมประมง โดยนายสุขเกษม ศรีงาม หัวหน้าหน่วยฯ มอบหมายนายชัยวัฒน์ รุ่งแก้ว เจ้าพนักงานประมงปฏิบัติงาน นายสมชายหมาดเท่ง นายท้ายเรือกลชายทะเล ส 4 นายปราโมทย์ เพชรสุข ช่างเครื่องเรือจักรยนต์ ชั้น 1 นายอดิศร เจะมะอะ กะลาสี และนายสุริยะ เอียดทอง กะลาสี รวม 5 นาย ออกปฏิบัติงานออกปฏิบัติงานร่วมฯ ภายใต้การอำนวยการของ ศรชล.จว.สตูล ที่ทำการปกครองจังหวัดสตูลและที่ทำการปกครองอำเภอละงู นก.พตต.ศรชล.ภาค 3, ศคท.จว.สตูล ออกตรวจสอบเรือและพื้นที่ทางทะเล จว.สตูล และแนวเขตชายแดนทางทะเล เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล ป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติด เคมีภัณฑ์ และสารตั้งตัน รวมทั้งเฝ้าระวังให้การช่วยเหลือผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อไปถึงบริเวณทิศตะวันตกปากร่องน้ำ บ้านบุโบย ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล ได้ใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูเรือประมงกำลังทำการประมงมีพฤติกรรมสงสัยว่าทำการประมงผิดกฎหมายลักษณะคล้ายอวนลาก ซึ่งคาดว่ากำลังทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง  แต่ผู้ควบคุมเรือต้องสงสัยและพวกรวม 2 ราย สังเกตเห็นเรือตรวจฯ จึงทำการตัดเครื่องมืออวนลากทิ้งลงในทะเลก่อนที่จะนำเรือตรวจประมงทะเล 214 เข้าเทียบและแสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ แล้วแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำความผิดให้ทราบ ซึ่งผู้กระทำผิดยอมรับสารภาพว่าตนทำผิดจริงและได้ทำการตัดเครื่องมืออวนลากทิ้งลงในทะเลจริง ไม่สามารถกู้เครื่องมือประมงของกลางดังกล่าวขึ้นมาได้เนื่องจากสภาพอากาศมีคลื่นลมแรง จึงได้ดำเนินการจับกุมเรือประมงอวนลากจำนวน 1 ลำพร้อมผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทำการกำจัดทำลายของกลางซากสัตว์น้ำเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นด้วยวิธีการฝังกลบ ตรวจยึดเรือส่งพนักงานสอบสวน สภ.ละงู  อ.ละงู จว.สตูลดำเนอนคดีตามกฏหมายต่อไป กักเรือและของกลาง เก็บรักษาไว้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล

 นปท.เกาะหลีเป๊ะจับกุมเรือประมงพื้นบ้านลักลอบใช้เครื่องมือประมงอวนลากโดยไม่ได้รับอนุญาตในเขตทะเลชายฝั่ง Read More »

สตูลรวบหนุ่มหลอนยาย่องเผาบ้านชาวบ้าน 5 ครั้งล่าสุดเสียหายหนักอ้างมีคนกระซิบสั่งให้ทำ

  สตูลรวบหนุ่มหลอนยาย่องเผาบ้านชาวบ้าน 5 ครั้งล่าสุดเสียหายหนักอ้างมีคนกระซิบสั่งให้ทำ เมื่อวันที่ 14 พค 68 นายธีระพงษ์ คุ่มเคี่ยม นายอำเภอละงู จ.สตูลนำกำลังอส.ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 116 หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล หลังได้รับแจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกเพลิงไหม้เมื่อเวลา 02.00น.ของวันที่ 13 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่าจุดที่ถูกเพลิงไหม้อยู่ห่างจากตัวบ้านเพียง 15 เมตร เป็นโรงจอดรถและที่เก็บของหน้าบ้าน ซึ่งไฟลุกไหม้อย่างหนักจากการตรวจสอบความเสียหายพบรถจักยานยนต์ที่เพิ่งซื้อมาผ่อนได้เพียง 6 เดือนวอดทั้งคันเหลือแต่โครง นอกจากนี้ยังมีรถจักรยาน ลังใส่ปลา อวนประมง เรือคายัค เคาเตอร์ และไม้ที่เตรียมไว้ต่อเรือเสียหายหมดรวมมูลค่าประมาณ 300,000 บาท นายมุตตอฟา มัวกะลู อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเอง ตนเองกับภรรยาได้เดินทางไปเยี่ยมญาติที่จ.นครศรีธรรมราช ที่บ้านมีลูกชายและลูกสะใภ้พร้อมด้วยหลานอีก 2 คนนอนอยู่ จนประมาณเวลาตี 2 ลูกชายได้โทรมาบอกว่าไฟไหม้บ้านพร้อมวีดีโอคอลให้ดู ตนเองตกใจมาก แต่ก็ตั้งสติได้รู้ว่าเพลิงไหม้โรงจอดรถและเก็บของไม่ใช่บ้าน

สตูลรวบหนุ่มหลอนยาย่องเผาบ้านชาวบ้าน 5 ครั้งล่าสุดเสียหายหนักอ้างมีคนกระซิบสั่งให้ทำ Read More »

สตูล Kick Off มอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารายกระดับเศรษฐกิจฐานรากสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรม

สตูล Kick Off มอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารายกระดับเศรษฐกิจฐานรากสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรม ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ Kick Off การมอบโฉนดต้นไม้ และโฉนดต้นยางพารา โดยมีนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายชัยวุฒิ บัวทอง ปลัดจังหวัดสตูล นายพิบูลย์ รัชกิจประการ ส.ส.เขต 1 สตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดสตูล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยการมอบโฉนดต้นไม้ จำนวน 20 ฉบับ จากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดสตูล และโฉนดต้นยางพารา จำนวน 200 ฉบับ จากการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดสตูล ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กยท. และ ส.ป.ก. เพื่อขับเคลื่อนโฉนดต้นไม้ในเขตปฏิรูปที่ดินอย่างเป็นระบบ    ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า “โครงการนี้ถือเป็นนวัตกรรมเชิงนโยบายที่ช่วยเปิดโอกาสให้ต้นไม้ โดยเฉพาะต้นยางพารา ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นทรัพยากรที่จับต้องมูลค่าได้ยาก กลายเป็นทรัพย์สินที่มีเอกสารรับรองอย่างเป็นทางการ นับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่เป็นกำลังสำคัญของจังหวัดสตูล” สำหรับโครงการมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพาราถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดสตูล ที่มุ่งยกระดับทรัพยากรธรรมชาติให้กลายเป็นทรัพย์สินทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะต้นยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญในพื้นที่ ได้ถูกพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นผ่านการออกโฉนด ทำให้สามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ได้ ช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาอนุรักษ์ต้นไม้มากขึ้น เนื่องจากต้นไม้ที่มีโฉนดจะมีมูลค่าสูงขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังสอดคล้องกับมาตรฐานสากลของสหภาพยุโรป (EUDR) ที่ส่งเสริมการทำเกษตรโดยไม่ทำลายป่าไม้ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตในอนาคต อันจะนำไปสู่การพัฒนาการผลิต เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน

สตูล Kick Off มอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารายกระดับเศรษฐกิจฐานรากสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรม Read More »

ผู้ว่าฯสตูลพร้อมนายกเหล่ากาชาดมอบถุงยังชีพสร้างพลังใจให้ผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ 

ผู้ว่าฯสตูลพร้อมนายกเหล่ากาชาดมอบถุงยังชีพสร้างพลังใจให้ผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย ทพญ.สุกีรติ กปิลกาญจน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล ได้ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้บ้าน นายสวัสดิ์ ยืนยง บ้านไม่มีบ้านเลขที่ หมู่ที่ 4 (บ้านผัง8) ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 03.00 น. บ้านที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายทั้งหลัง รวมถึงรถจักรยานยนต์ 1 คัน (ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต) โดยเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเหล่ากาชาดได้มอบถุงยังชีพ สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน และเงินเยียวยาในเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้ประสบภัย ทั้งนี้มีสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล ร่วมมอบสิ่งของช่วยเหลือ ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลได้กล่าวให้กำลังใจแก่ผู้ประสบอัคคีภัย โดยมีนายเชษฐ บุตรรักษ์ นายอำเภอมะนัง ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจอย่างอบอุ่น ซึ่งการช่วยเหลือเยียวยาครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของจังหวัดสตูลและเหล่ากาชาดจังหวัด ที่มุ่งมั่นในการดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อวางแผนการช่วยเหลือในระยะยาว และฟื้นฟูความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ผู้ว่าฯสตูลพร้อมนายกเหล่ากาชาดมอบถุงยังชีพสร้างพลังใจให้ผู้ประสบภัยเพลิงไหม้  Read More »

ผู้ว่าฯสตูลลงพื้นที่ ถ้ำภูผาเพชร  เพื่อเตรียมพร้อมรับการประเมินซ้ำอุทยานธรณีโลกสตูลจากยูเนสโก ในปี2568

ผู้ว่าฯสตูล ลงพื้นที่ ถ้ำภูผาเพชร  เพื่อเตรียมพร้อมรับการประเมินซ้ำอุทยานธรณีโลกสตูลจากยูเนสโก ในปี2568 ที่บริเวณถ้ำภูผาเพชร อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย ทพญ.สุกีรติ กปิลกาญจน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล นายเชษฐ บุตรรักษ์ นายอำเภอมะนัง นายประชัน มีบุญ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ฯ เพื่อสำรวจบริเวณถ้ำภูผาเพชร พื้นที่อุทยานธรณีโลกสตูล ในการเตรียมพร้อมรับการประเมินซ้ำ จากยูเนสโก ที่จะมีขึ้นในปี 2568 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับการประเมินอุทยานธรธรณีโลก เช่นการปรับปรุงภูมิทัศน์ การปรับปรุงเส้นทางแหล่งอุทยานธรณีสตูล และการซ่อมแซมป้ายสื่อความหมาย เป็นต้น ถ้ำภูผาเพชร เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ติดอันดับ 4 ของโลก มีเนื้อที่ภายในถ้ำกว่า 50 ไร่ แบ่งออกเป็นหลายห้อง มีชื่อเรียกแตกต่างกัน ในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างลักษณะต่าง ๆ สวยงามระยิบระยับเหมือนประดับด้วยเพชร เป็นหนึ่งในพื้นที่ของอุทยานธรณีสตูล เนื่องจากบางจุดของผนังถ้ำพบซากดึกดำบรรพ์ของหมึกทะเลโบราณ (นอติลอยด์) มีอายุอยู่ในช่วงออร์โดวิเชียน หรือประมาณ 450 ล้านปี

ผู้ว่าฯสตูลลงพื้นที่ ถ้ำภูผาเพชร  เพื่อเตรียมพร้อมรับการประเมินซ้ำอุทยานธรณีโลกสตูลจากยูเนสโก ในปี2568 Read More »

สตูลพบเห็ดยักษ์ดอกใหญ่งอกเป็นกลุ่มในสวนปาล์มชาวบ้านไม่กล้ากินวอนผู้รู้ช่วยตอบ

  สตูลพบเห็ดยักษ์ดอกใหญ่งอกเป็นกลุ่มในสวนปาล์มชาวบ้านไม่กล้ากินวอนผู้รู้ช่วยตอบ ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล พบเห็ดประหลาดงอกอยู่ในสวนปาล์ม โดยลักษณะดอกใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 20 ซม.ก้านดอกมีขนาดใหญ่และสูงประมาณ 20 ซม.มีสีขาวเทา คล้ายๆ เห็ดโคนแต่มีขนาดโตกว่า งอกอยู่เป็นกลุ่มใหญ่รวมกันหลายดอก โดยน.ส.ปราณี เลิศคงยศ อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ที่ 2 ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ซึ่งเป็นผู้พบเห็ดยักษ์ดังกล่าว  เล่าให้ฟังว่า ตนเข้าไปในสวนปาล์มเพื่อจะไปตัดผลปาล์มพบเห็ดงอกอยู่บริเวณโคนต้นปาล์ม เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเห็ดดังกล่าวมีความแปลกที่มีขนาดดอกที่ใหญ่และงอกกันอยู่เป็นกลุ่ม ตนเองและหลานๆ จึงช่วยกันเก็บนำกลับมาบ้าน น.ส.ปราณีเล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่ผ่านมาตนเองก็เคยเจอเห็ดแบบนี้ในสวนปาล์มซึ่งเคยงอกอยู่ใกล้ๆ กับครั้งนี้ ตนเองก็เก็บกลับมาสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทุกคนบอกว่าไม่เคยเห็นในพื้นที่ไม่เคยมี จึงให้ลูกสาวโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อสอบถาม บางคนก็บอกว่าไม่เคยเห็นแต่บางคนบอกว่ามันคือเห็ดจั่นหรือเห็ดตีนแรดกินได้แต่ตนเองยังไม่กล้ากินเพราะไม่มันใจและจากที่ดูข่าวมีคนเสียชีวิตและโดนเห็ดพิษต้องเข้าโรงพยาบาลมามาก ต่อมามีชาวบ้านในพื้นที่ อ.มะนังคนหนึ่งทักมาขอ บอกว่ากินได้และมาขอนำไปปรุงอาหารซึ่งตอนนั้นตนเองก็ยกให้ไป  และวันนี้ก็มาเจอเห็ดดังกล่าวอีกโดยหากรวมน้ำหนักเห็ดทั้งหมดที่พบในวันนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 กิโลกรัม แต่ครั้งนี้ตนก็ไม่กล้านำมากินอีกเหมือนเดิม ที่เก็บมาก็เผื่อใครจะเอาไปกินก็สามารถมารับได้   อย่างไรก็ตามหลายคนบอกว่ากินได้แต่ตนเองยังไม่กล้าจึงอยากฝากถามผู้รู้ว่าเห็ดชนิดนี้เรียกว่าเห็ดอะไร สามารถกินได้จริงหรือไม่

สตูลพบเห็ดยักษ์ดอกใหญ่งอกเป็นกลุ่มในสวนปาล์มชาวบ้านไม่กล้ากินวอนผู้รู้ช่วยตอบ Read More »