สุไลมาน แวมามะ

ทักษิณมาปัตตานี ขอโทษขออภัย ! ยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตที่ใจร้อนแก้ปัญหา จชต. (มีคลิป)

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ รร.สายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรีจ.ปัตตานี  ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษา ปธ.อาเซียน พร้อมกับนายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมพร้อมคณะ ในโอกาสเป็นตัวแทนรัฐบาลเดินหน้าหาแนวทางแก้ปัญหาและการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้  ซึ่งมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ นายนิเดร์ วาบา บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา  ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและประชาชน นักเรียนให้การต้อนรับ กว่า 1,000 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความยิ้มแย้ม เด็กๆ นักเรียนทั้งหญิงและชายที่ต่างขอถ่ายรูปเซลฟี่กันอย่างหนาแน่น โดยการลงมาเยือนชายแดนใต้ครั้งนี้ มีวาระประเด็นสำคัญว่า มีแนวคิดอ้างอิงจาก\”โมเดล 66/2523\” ซึ่งเคยใช้แนวทาง \”นิรโทษกรรม\” ต่ออดีตผู้ก่อความไม่สงบในช่วงหลังเหตุการณ์ 6ตุลาคม 2519 จะกลับมาใช้อีกครั้ง หรือไม่ ซึ่งกำลังดำเนินการทำรายละเอียด ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ย้ำว่าแนวทางใหม่นี้จะไม่ใช่การนิรโทษกรรมโดยตรง แต่จะมีหลักเกณฑ์ชัดเจน และใช้แนวคิด \”การเมืองนำการทหาร\” ในการดำเนินการ ดร.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า วันนี้ยินดีมากที่ได้กลับมา พบกับท่านนิเดร วาบา […]

ทักษิณมาปัตตานี ขอโทษขออภัย ! ยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตที่ใจร้อนแก้ปัญหา จชต. (มีคลิป) Read More »

ปัตตานี-กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดเสวนาสัญจร ภายใต้แนวคิด “รู้จัก รู้ใช้ รู้ทัน รู้รอบสื่อ AI\”

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดงานเสวนาสัญจรเกี่ยวกับการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค ระยะที่ 2 ภายใต้แนวคิด \”รู้จัก รู้ใช้ รู้ทัน รู้รอบสื่อ AI\” เพื่อการขับเคลื่อนสังคม เสริมสร้างความเข้าใจเรื่องการรู้เท่าทันสื่อและภัยจากปัญญาประดิษฐ์ในสังคมปัจจุบัน ครั้งที่ 2 จ.ปัตตานี ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ประธานอนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า จากการเสวนาสัญจรเกี่ยวกับการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค ระยะที่ 1 ในพื้นที่ภาคใต้ พบว่าบริบทของพื้นที่ภาคใต้นั้นการสื่อสารเปลี่ยนไปสู่การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ในคนทุกกลุ่มวัย ทำให้ผู้ใช้เป็นทั้งผู้รับสื่อและสร้างสื่อไปในคราวเดียวกัน โดยพบปัญหา การถูกหลอกลวงออนไลน์ผ่านกลุ่ม LINE และ Facebook เช่น การหลอกลวงเช่นการถูกหลอกลวงให้ซื้อของที่ไม่มีคุณภาพ สินค้าไม่ตรงปก การถูกเชิญชวนให้ไปเล่นพนันออนไลน์ รวมไปถึงการถูกแฮ็ก ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ ตามที่คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้น กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมถึงการส่งเสริมให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน มีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อและสามารถแยกแยะสื่อที่เป็นประโยชน์จากสื่อที่ไม่เหมาะสมได้เห็นถึงความสำคัญของ AI ที่ได้เข้ามามีบทบาทในการผลิตและเผยแพร่สื่อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหาโดยอัตโนมัติ การคัดกรองข้อมูล

ปัตตานี-กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดเสวนาสัญจร ภายใต้แนวคิด “รู้จัก รู้ใช้ รู้ทัน รู้รอบสื่อ AI\” Read More »

ปปช.ปัตตานีลงพื้นที่ลิปะสะโง ติดตามโครงการก่อสร้างคูระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัวยูพร้อมฝาปิด

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปัตตานี มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ร่วมกับชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดปัตตานี เข้าตรวจติดตามการดำเนินโครงการก่อสร้างคูระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัวยูพร้อมฝาปิดภายในหมู่บ้าน ม. 4 บ้านท่ากูโบ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ณ อบต.ลิปะสะโง และพื้นที่ดำเนินโครงการ โดยมี นายฉัตรชัย เจ๊ะปอ นายก อบต.ลิปะสะโง พร้อมด้วยปลัด อบต.ลิปะสะโง และเจ้าหน้าที่ ชี้แจงข้อมูลและนำตรวจ จากการรับฟังคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่และการตรวจสอบเอกสารหลักฐานโครงการในเบื้องต้น พบว่า โครงการก่อสร้างคูระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัวยูพร้อมฝาปิดภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านท่ากูโบ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ดำเนินการก่อสร้างด้วยงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจปีงบประมาณ 2567 มีแบบรูปรายการเป็นการก่อสร้างคูระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัวยูพร้อมฝาปิด ขนาดกว้าง 0.60 ม. ลึก 1.00 ม. สองข้างทางระยะทางรวมไม่น้อยกว่า 1,360 ม. โดยมี หจก.เอเอ็นบี.กรุ๊ป

ปปช.ปัตตานีลงพื้นที่ลิปะสะโง ติดตามโครงการก่อสร้างคูระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัวยูพร้อมฝาปิด Read More »

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการเสวนาสัญจรเกี่ยวกับการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค ระยะที่ 2 ภายใต้แนวคิด “รู้จัก รู้ใช้ รู้ทัน รู้รอบสื่อ AI”

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการเสวนาสัญจรเกี่ยวกับการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค ระยะที่ 2 ภายใต้แนวคิด “รู้จัก รู้ใช้ รู้ทัน รู้รอบสื่อ AI” เพื่อการขับเคลื่อนสังคม เพื่อให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดปัตตานี  เปิดพื้นที่ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับการรับมือและเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์และรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ทั้งนี้การจัดงานจะมีการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ \”บทบาทและความสำคัญของการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์\” โดย ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ประธานอนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอด​ภัยและสร้างสรรค์และยังมีการอบรมบรรย​า​ย​ใน​หัวข้อ “Cybercrime Literacy: รู้ทัน AI ปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์” โดยคุณอลิษา ดาโอ๊ะ​ นักวิจัยมหา​วิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทย์​ยาเขตปัตตานี การจัดกิจกรรมครั้ง​นี้​มีวัตถุ​ประสงค์​หลัก เพื่อเปิดพื้นที่ให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ ใน 5 ภูมิภาค ร่วมกับภาคีเครือข่ายผู้ดำเนินงานด้านการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ อีกทั้งยังมีการขยายเครือข่ายเพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงการรู้เท่าทันสื่อในแต่ละภูมิภาค พร้อมส่งเสริมการใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ชุมชนและสังคม โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัด ร่วมงานในพื้นที่ 50 ท่านเท่านั้น

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการเสวนาสัญจรเกี่ยวกับการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค ระยะที่ 2 ภายใต้แนวคิด “รู้จัก รู้ใช้ รู้ทัน รู้รอบสื่อ AI” Read More »

BRN ไม่ควรละเลยความจริงใจของรัฐบาลมาเลเซียและไทย ในการแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ จชต. แม้ BRN ยังคงก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่อง

สำนักข่าว UtusanTV มาเลเซีย ได้เขียนบทความที่น่าสนใจ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์นายกรัฐมนตรี Datuk Seri Anwar Ibrahim และอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ทักษิณ ชินวัตร ได้จัดการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน  นอกจากปัญหาเมียนมาแล้ว ยังมีการกล่าวถึงปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยอีกด้วย ทักษิณฯ กล่าวกับสื่อมวลชนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ว่าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าควรใช้ความพยายามร่วมกันเพื่อลดหรือยุติความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็วที่สุด  ทักษิณแสดงความมั่นใจว่า จากการหารือเชิงลึกกับนายกอันวาร์ มั่นใจว่าสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะดีขึ้น  แน่นอนว่าอดีตนายกทักษิณฯ ซึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2544 ถึง 2549 ไม่ได้พูดคําพูดที่ว่างเปล่า เพราะเขาเห็นความจริงใจของรัฐบาลมาเลเซีย ผ่านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ฯ ในการฟื้นฟูสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทยซึ่งก็เป็นลูกสาวของเขา น.ส.แพทองธารฯ ได้แสดงความมุ่งมั่นในการที่จะขับเคลื่อนการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  ทักษิณฯ เปิดเผยผลการประชุมกับอันวาร์หลังจากช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถึง 7 กุมภาพันธ์ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝ่ายปีกทหารของแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ (BRN) ได้ก่อเหตุระเบิดอย่างน้อย 3 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

BRN ไม่ควรละเลยความจริงใจของรัฐบาลมาเลเซียและไทย ในการแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ จชต. แม้ BRN ยังคงก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่อง Read More »

ปัตตานี-กรมทางหลวง เตรียมสร้างสะพานข้ามถนน ยาวเกือบ 4 กม. ทุ่มงบเกือบพันล้าน เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการเดินทางชายแดนใต้

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ห้ององประชุมศรีฟาฏอนี ที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มอบหมายให้ นายณฐนน สุวรรณ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง เป็นประธานเปิดการประชุมสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 2)  โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข42 กับทางหลวงหมายเลข 4356 (แยกบานา) และตัดถนนรามโกมุท มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความก้าวหน้าของโครงการ นำเสนอผลสรุปการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมของโครงการฯ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปปรับปรุงและเพิ่มเติมในการศึกษาขั้นต่อไป โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุม           ทางหลวงหมายเลข 42 เป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักสำคัญ ที่เชื่อมโยงภาคใต้ตอนล่างเข้าไว้ด้วยกัน โดยปัจจุบันทางหลวงหมายเลข 42 ช่วงที่พาดผ่านจังหวัดปัตตานี มีชุมชนที่ประชาชนอาศัยอยู่กันหนาแน่นมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งพื้นที่ธุรกิจและท่องเที่ยวสำคัญ ขณะเดียวกันยังมีจุดตัดทางแยกใกล้กัน จำนวน 2 จุดตัด ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างมาก โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน เกิดความไม่สะดวกและล่าช้าในการเดินทาง รวมถึงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ปัตตานี-กรมทางหลวง เตรียมสร้างสะพานข้ามถนน ยาวเกือบ 4 กม. ทุ่มงบเกือบพันล้าน เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการเดินทางชายแดนใต้ Read More »

คนร้ายลอบวางระเบิดตำรวจชุด รปภ.ครู ดับ 1 เจ็บ 4 นาย

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 กพ. ร.ต.ท.วชิรวิทย์ จุฑานันท์ พนักงานสอบสวนสภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดบริเวณถนนสายปัตตานี–หาดใหญ่ บ้านดอนยาง ต.บ่อทอง หลังรับแจ้งจึงได้นำกำลังพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปที่เกิดเหตุ ไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดเส้นทางดังกล่าวทันทีเพื่อความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้นำสุนัขสงครามเข้ามาตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุโดยรอบเพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น จากนั้นจึงเข้าตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณป้อมจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน พบว่าแรงระเบิดทำให้สภาพป้อมได้รับความเสียหาย และพบรถจักรยานยนต์จำนวนสองคันล้มอยู่ริมถนนและมีกองเลือดจำนวนมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกนำส่งโรงพยาบาลหนองจิกจำนวน 4นาย ทราบชื่อ ส.ต.ท.อนุชา ขวัญทองอ่อน ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ลำตัวและศรีษะหลายแห่งอาการสาหัส แพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แต่เนื่องจากมีบาดแผลแผลฉกรรจ์และเสียเลือดมากกระทั่งทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน จ.ส.ต.นพพล รักษาพราหมณ์ ถูกสะเก็ดระเบิดมีบาดแผลที่ลำตัวบาดเจ็บสาหัสและ จ.ส.ต.ฉัตรมงคล นุชศรี ส.ต.ท.กีฬารัตน์ ทองมา ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวเช่นกันทั้งสามนายแพทย์ได้ทำการรักษาเบื้องต้นก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปัตตานี ส่วน สตท.ธนภัทร ทองชัย ถูกระเบิดทำให้ แขนขาฉีกขาดจนเห็นกระดูก อาการสาหัส สาเหตุเนื่องจากขับขี่รถ จยย.คนเดียวผ่านมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ 4 นาย ขณะนี้ถูกส่งไปรพ.ปัตตานี จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายใช้รถ จยย.จำนวน 2 คันเป็นพาหนะกำลังตรวจเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยครูก่อนที่จะเดินทางไปโรงเรียน

คนร้ายลอบวางระเบิดตำรวจชุด รปภ.ครู ดับ 1 เจ็บ 4 นาย Read More »

ปัตตานี- 6 วัยรุ่นริเป็นโจรปล้นคืนเดียว 2 อำเภอทั้งมินิบิ๊กซีและมือถือ 4 เครื่อง (มีคลิป)

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 5 กพ. ร.ต.อ.ตุลกร สุริยวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้ง ว่ามีเหตุคนร้าย 6 คนพร้อมอาวุธปืน บุกเข้าไปปล้นร้านมินิบิ๊กซี สาขาปะนาเระ เขตเทศบาลตำบลปานาเระ  คนร้ายได้ทรัพย์สินก่อนจะหลบหนีไป แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบพนักงานชาย 2 คน ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ภายในร้านด้วยสีหน้าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะที่อยู่ภายในร้านตามปกติเพื่อบริการลูกค้า แต่ช่วงเกิดเหตุไม่มีลูกค้า ปรากฏว่าได้มีคนร้าย จำนวน 6 คนใช้ผ้าโพกศีรษะปิดบังใบหน้านั่งซ้อนสามใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะขับมาจอดหน้าร้าน ก่อนจะบุกเข้ามาใช้อาวุธจี้และข่มขู่พนักงานให้นำเงินออกมาให้ โดยคนร้ายได้เดินวนไปรอบโต๊ะเคาน์เตอร์ บางคนกระโดดข้ามโต๊ะเคาน์เตอร์ บีบบังคับพนักงานไปที่แคชเชียร์ให้หยิบเงินที่อยู่ในตู้และขู่ให้พนักงานนำเงินทั้งหมดออกมาจากเครื่องคิดเงิน พนักงานกลัวว่าจะได้รับอันตรายจึงหยิบเงินที่อยู่ในเครื่องคิดเงินจำนวน  4,492 บาทให้คนร้ายไป เมื่อคนร้ายได้เงินจึงได้หนีออกจากร้านขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุจึงได้ประสานไปยังทุกหน่วยในพื้นที่ รวมไปถึงจุดเคลื่อนที่เร็วออกติดตามล่าคนร้ายที่หลบหนีไปตามเส้นทางสายอำเภอสายบุรี ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานอีกว่ากลุ่มคนร้ายกลุ่มเดิมที่ปล้นมินิบิ๊กซี ซึ่งขณะหลบหนีก็ได้ก่อเหตุปล้นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง จากกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ริมถนน บริเวณตำบลบ้านน้ำบ่อ  อ.สายบุรี หลังก่อเหตุคนร้ายได้ใช้วุธปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวน

ปัตตานี- 6 วัยรุ่นริเป็นโจรปล้นคืนเดียว 2 อำเภอทั้งมินิบิ๊กซีและมือถือ 4 เครื่อง (มีคลิป) Read More »

ปัตตานี- สุดจะทน ! พ่อค้าแม่ค้าถือป้ายประท้วงหน้าองค์การสะพานปลา กรณีต่างด้าวยึดอาชีพ ร้องรัฐแต่ไร้แก้ไข ค่าล็อคจ่ายต่อปี 10 ล้าน !

กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าสะพานปลาปัตตานี ต.บานา .อ.เมือง จ.ปัตตานี ไม่ขอทน ต่างออกมาเรียงร้องความเป็นธรรม โดยออกมารวมกลุ่มกัน เขียนป้ายประท้วง โดยมีข้อความดังนี้ ชาติไทยเป็นจองคนไทยต่างด้าวไม่มีสิทธิมาแย่ง,คนไทยขายชาติเป็นนอมินีกับต่างด้าว,ต่างด้าวแย่งงานคนไทยหมดแล้ว,นายกอุ๊งอิ๊งช่วยด้วย,กันจอมพลังช่วยด้วยไม่มีหน่วยงานไหนจัดการได้, และมีการตะโกนขับไล่แรงงานต่างด้าวออกไป และตะโกนให้กันจอมพลังช่วยด้วย โดยเดินประท้วงรอบสะพานปลา และเดินไปยังที่ทำการองค์การสะพาน เพื่อยื่นเอกสารให้ทางองค์การสะพานช่วยจัดการกับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาประกอบกิจการขายสัตว์น้ำทะเลในสะพานปลา โดยจ้างคนไทยให้เป็นนายจ้างและถือเอกสารสัญญาต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกฏหมาย หากเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เป็นเจ้าของที่แท้จริงก็จะหลุดพ้น ส่งผลให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าต่างทนไม่ไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างพากันตัดพ้อหลังไม่มีใครช่วยได้ จนมีการเดินประท้วงเกิดขึ้น จนทำให้ทุกคนเกิดอารมณ์อย่างรุนแรงในการพูดต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที โดยพ่อค้าแม้ค้าออกมาบอกว่า แก้ปัญหาไม่ยาก ถ้ารู้ว่าเป็นแรงงานต่างด้าวก็ยึดไปเลย พอเก็บตังทำไมถึงเก็บได้ก็อยากให้ทำตามหน้าที่ด้วย ซึ่งองค์การสะพานปลาเป็นที่พึ่งของพวกเราจึงจำเป็นต้องมา เพราะคนไทยเดือดร้อนหมดแล้ว ทั้งกู้เงิน ขายทร์พย์สิน แรงงานต่างด้าวเข้ามา ปลาก็ขายไม่ได้อีกเลย สำหรับปัญหานี้ได้ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานกว่า 5 ปี ที่มีกลุ่มต่างด้าว เขมร กัมพูชา เข้ามาประกอบกิจการขายสัตว์ทะเล แต่มีการวานจ้างคนไทย ให้มาเป็นนายจ้าง(นอมีนี)  โดยมีค่าจ้างวันละ 500 บาทต่อวัน รวมถึงการดำเนินการเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโดยให้คนไทยเป็นผู้ถือสัญญาทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่หากเข้ามาตรวจสอบ ทำให้กลุ่มต่างด้าว เขมร กัมพูชา มักจะรอดพ้นทุกเหตุการณ์ จนทำให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยต่างไม่พอใจ เพราะเป็นการแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าวมีการขายตัดราคาคนไทย ส่วนต่าง

ปัตตานี- สุดจะทน ! พ่อค้าแม่ค้าถือป้ายประท้วงหน้าองค์การสะพานปลา กรณีต่างด้าวยึดอาชีพ ร้องรัฐแต่ไร้แก้ไข ค่าล็อคจ่ายต่อปี 10 ล้าน ! Read More »

จุฬาราชมนตรีให้การต้อนรับ รมว.กิจการศาสนาอิสลามฯ แห่งราชอาณาจักรซาอุฯเพื่อเข้าร่วมการประชุม ASEAN Islamic Conference ครั้งที่ 3

จุฬาราชมนตรีให้การต้อนรับ รมว.กิจการศาสนาอิสลามฯ แห่งราชอาณาจักรซาอุฯเพื่อเข้าร่วมการประชุม ASEAN Islamic Conference ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา  ที่หอประชุมศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรีให้การต้อนรับ ดร. อับดุลลาฏีฟ บิน อับดุลอะซีซ อัลชัยค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม และการเผยแผ่แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย พร้อมด้วย Mr.Awad Sabti Al Anzi ปลัดกระทรวงกิจการศาสนาอิสลามและการเผยแผ่ฯ และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเดินทางเยือนราชอาณาจักรไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุม ASEAN Islamic Conference ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ (خير أمة) \”การประชุมสุดยอดประชาชาติอิสลาม\” ซึ่งจัดขึ้นโดย กระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม และการเผยแผ่แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ระหว่างวันที่ 25 – 26 มกราคม 2568 โดยมี นายอับดุลเราะห์มาน บิน

จุฬาราชมนตรีให้การต้อนรับ รมว.กิจการศาสนาอิสลามฯ แห่งราชอาณาจักรซาอุฯเพื่อเข้าร่วมการประชุม ASEAN Islamic Conference ครั้งที่ 3 Read More »