ท่องเที่ยว

เชียงราย-ดร.ยงยุทธ ดันท่องเที่ยวชุมชนปางป่าอ้อเชียงราย ส่งเลขาฯเปิดเทศกาลท่องเที่ยวน้ำตกขุนกรณ์ ประจำปี 68 กระตุ้นเศรษฐกิจเสริมท่องเที่ยวหน้าร้อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 68 ที่ลานชุมชน บ้านปางป่าอ้อ ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้มีกิจกรรม “เปิดเทศกาลท่องเที่ยวน้ำตกขุนกรณ์ ประจำปี 2568” โดยมีนายอิทธิพล ศรีสองสม เลขานุการ ดร.ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ เป็นประธานเปิดงาน มีนางภัทรศรินทร์ มารดา ผู้ใหญ่บ้านปางป่าอ้อ นายมานิตร์ ไชยชมภู กำนันตำบลแม่กรณ์ และผู้นำชุมชนท้องที่ท้องถิ่น ภาครัฐเอกชนและชาวชุมชนปางป่าอ้อและพื้นที่ใกล้เคียงร่วมงานคึกคัก นายอิทธิพล ศรีสองสม ประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ดร.ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งในปัจจุบันท่านก็ยังคงทำงานรับใช้พ่อแม่พี่น้องชาวเชียงรายมาโดยตลอด และยังมอบหมายให้จนได้เข้ามาช่วยสนับสนุนพี่น้องชาวบ้านให้มีรายได้ โดยเฉพาะการสร้างรายได้ในชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน เพื่อให้พี่น้องในท้องถิ้นมีรายได้ และให้คนในท้องถิ่นได้เข้าไปบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ของตนเอง เพราะคนในท้องถิ่นเขาจะรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ของตนเอง และจึงเป็นที่มาที่ได้เข้ามาส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวแพริมน้ำที่บ้านปางป่าอ้อแห่งนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็มีการบริหารจัดการโดยคนในชุมชนเอง ภายใต้การนำของกำนัน ต.แม่กรณ์ […]

สธวท.ร้อยเอ็ด เป็นเจ้าภาพพิธีจุดเทียนประเพณี ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่ ร้อยเอ็ด – สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย จังหวัดร้อยเอ็ด (สธวท.ร้อยเอ็ด) ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดพิธี จุดเทียนประเพณี ประจำปี 2568 ณ ศูนย์ประชุมโรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น โดยมี คุณหญิงณัฐิกา วัฒนเาคินอังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธี โอกาสนี้ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร่วมเป็นเกียรติ กล่าวต้อนรับ และกล่าวชื่นชม ประธานในพิธีพร้อมคณะ ที่มีความมุ่งมั่น สร้างสรรค์สิ่งดีเพื่อสังคมด้วย นางสุกัญญา อึ้งตระกูล นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย จังหวัดร้อยเอ็ด  กล่าวว่า สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย จังหวัดร้อยเอ็ด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2524 เป็นองค์กรสมาชิกสหพันธ์สมาคม ฯ ในลำดับที่ 5 ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของสมาคม ฯ ตั้งแต่ก่อตั้งเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน รวมเป็น

  รายงานพิเศษ : \”เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์\” ศิลาจารึกพันปี แห่งศรัทธาและกาลเวลา \”เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์\” มิใช่เพียงโบราณวัตถุเก่าแก่ หรือสัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวเมืองเพชรบูรณ์เท่านั้น หากแต่เป็นศิลาจารึกแห่งประวัติศาสตร์ ที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลามานานนับพันปี ด้วยอายุถึง 1,004 ปี เสาหลักเมืองหลักนี้ จึงเป็นเสมือนสักขีพยานเชื่อมโยงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และศรัทธาที่ผ่านกาลเวลากว่า 10 ศตวรรษ โดยศิลาจารึกหลักนี้ มิใช่เพียงแค่หลักฐานเชิงโบราณคดีเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงการเชื่อมโยง ของอารยธรรมที่รุ่งเรืองในอดีต ซึ่งนักวิชาการหลายฝ่าย ต่างสันนิษฐานว่า เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ มีความสัมพันธ์กับเมืองโบราณศรีเทพมรดกโลก เนื่องจากหินทรายที่ใช้สลักศิลาจารึกหลักนี้ มีลักษณะตรงกันกับโบราณวัตถุที่ขุดพบในเมืองศรีเทพ อีกทั้งอักษรสันสกฤษต และขอมโบราณ ที่ปรากฏบนเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์หลักนี้ ยังบ่งชี้ถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมแลัคติความเชื่อ ที่เชื่อมโยงอาณาจักรทราวดี และอาณาขอมโบราณในอดีตอีกด้วย นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงประวัติของเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ว่า มีหลักฐานบันทึกว่า ครั้งหนึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยเสด็จมายังเมืองเพชรบูรณ์ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังเมืองศรีเทพ จึงเกิดข้อสันนิษฐานที่คลาดเคลื่อนว่า \”พระองค์ทรงนำศิลาจารึกหลักนี้ จากเมืองศรีเทพมาสู่เพชรบูรณ์\” \”แต่เมื่อพิจารณาเส้นทางการเดินทางของพระองค์แล้ว พบว่าพระองค์ทรงแวะที่เพชรบูรณ์ก่อน แล้วจึงเดินทางไปศรีเทพและกลับกรุงเทพฯ โดยนำศิลาจารึกอีกหลักหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะตะปูหัวเห็ดกลับไปด้วย ดังนั้นศิลาจารึกหลักเมืองเพชรบูรณ์นี้ จึงน่าจะถูกนำมาไว้ที่วัดมหาธาตุก่อน ก่อนที่จะได้รับการยกขึ้นเป็นเสาหลักเมือง

สตูลเริ่มแล้วการแข่งขันมอเตอร์ครอสแชมป์เปี้ยนชิพ 2025 นักแข่งจากต่างประเทศเข้าร่วมแข่งที่สนามมอเตอร์ครอส นพค.45 อ.ควนโดน จ.สตูล ท่องเที่ยวและกีฬาจ.สตูลโดยน.ส.ภัชกุล ตรีพันธ์ ผอ.ทกจ.สตูล ร่วมกับอบต.ควนโดน นพค.45 ชมรมมอเตอร์ครอส จ.สตูล ร่วมจัดโครงการ การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติกระตุ้นเศรษฐกิจ จ.สตูล กิจกรรมการแข่งขันกีฬามอเตอร์ครอสแชมป์เปี้ยนชิพ “ SATUN MOTOCROSS CHAMPIONSHIP 2025” โดยมีนายคณิต คงช่วย รองผวจ.สตูล เป็นประธานในพิธี และมีนักแข่งจากทั่วประเทศ และจากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา เข้าร่วมกว่า 200 คน มีนักท่องเที่ยวเข้าชมการแข่งขันอย่างล้นหลาม การแข่งขันดังจัดขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับชาติและนานาชาติ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการต่อยอดความสำเร็จจากความเป็นเลิศสู่การประกอบอาชีพและมีเส้นทางอาชีพที่มั่นคง ส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบกีฬาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจ.สตูล สำหรับการแข่งขันมอเตอร์ครอสแชมป์เปี้ยนชิพ2025 ในครั้งนี้ แบ่งออกเป็นรุ่นต่างๆเช่น รุ่นวีไอพี รุ่นกระบังลมมือใหม่ รุ่นเอ็มเอ็กทูเอ รุ่นเอฟทูมือใหม่ รุ่น 50 ซีซี(ไม่เกิน 9 ปี) รุ่นมือใหม่เปิดหมวก รุ่นยังเดิมมือใหม่ รุ่นเลดี้ ฯลฯ ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนสร้างความตื่นตาตื่นใจ แก่นักท่องเที่ยวที่มาเข้าชม

อำเภอโคกศรีสุพรรณ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมอำเภอโคกศรีสุพรรณ องค์กรปกรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงานบุญประเพณีบุญเดือนสาม ตักบาตรข้าวจี่ ของดีโคกศรีสุพรรณ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2568 เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ที่เวทีกลาง สนามโรงเรียนอนุบาลโคกศรีสุพรรณ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานมอบเกียรติบัตรให้กับปราชญ์ชาวบ้าน มอบเงินรางวัลให้แก่ผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศ ในการประกวดแข่งขันประเภทต่าง ๆ และกล่าวเปิดงานบุญประเพณีบุญเดือนสาม ตักบาตรข้าวจี่ ของดีโคกศรีสุพรรณ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2568 โดยมีนางชุติมา รู้ยิ่ง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร นายเอกภพ โสภณ ปลัดจังหวัดสกลนคร หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำหมู่บ้าน ตลอดจนประชาชนชาวอำเภอโคกศรีสุพรรณ เข้าร่วม งานบุญประเพณีบุญเดือนสาม ตักบาตรข้าวจี่ ของดีโคกศรีสุพรรณ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2568 อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร ร่วมกับสภาวัฒนธรรมอำเภอโคกศรีสุพรรณ องค์กรปกรปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่

วันที่ 15 ก.พ.68 เวลา 17.00 น.ณ ลานหน้าวัดธาตุเรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม ดร.วิทยา อินาลา เป็นประธาน ท้าวคำพัน อั่นลาวัน เอกอัครราชทูต สปป.ลาวประจำประเทศไทย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และชาติพันธุ์ชนเผ่าผู้ไทจาก 11 จังหวัดของไทยและจาก 2 ประเทศ ต่างเดินทางมาร่วมในงานวัน .ผู้ไทโลก”ประมาณราว 4 พันคน นางรัตนาภรณ์ คงพราหมณ์ นายกเทศมนตรีตำบลเรณูนคร ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเรณูนคร และประธานฝ่ายดำเนินการจัดงานประเพณี วันผู้ไทโลก โดยกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทย ต่างสลับผลัดเปลี่ยนงานรำลึกมีขึ้นประจำทุกปี สำหรับในปี 2568 นับเป็นครั้งที่ 14 และชาวผู้ไทของอำเภอเรณูนครมีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานเป็นครั้งที่ 3 ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานต่อยอดขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวผู้ไททั่วโลกให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานต่อไป เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นการจัดงานครั้งนี้ได้อย่างทั่วถึง ดร.วิทยา อินาลา นายกสมาคมชาวผู้ไทโลก ประธานการจัดงานวันผู้ไทโลก กล่าวถึง ชาติพันธุ์ชาวผู้ไท ที่เข้ามาอาศัยพึ่งโพธิสมภารในประเทศไทย ช่วงราวสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล3 ราว 200ปีที่ผ่านมา

บรรยากาศงาน \”แห่โคมชมพระฉาย สืบสายศิลป์ ถิ่นหนองจับเต่า เขาชีจรรย์\” ในปีนี้ยังคงตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ปีที่ผ่านมา ที่บริเวณมณฑลพิธีหน้าพุทธวชิรอุตตโมภาส ศาสดา ซึ่งเป็นการแสดงโขนรามเกียรติ์ ตอน \”ทศคีรีวัน ทศคีรีธร\” ที่นักท่องเที่ยวต่างรอคอยชมตลอดปี โดยในปีนี้การแสดงยิ่งใหญ่และน่าประทับใจยิ่งขึ้น ด้วยการแสดงของนักดนตรี นักพากย์ และนักแสดงกว่า 100 ชีวิต ที่มาร่วมจัดแสดงให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมอย่างเต็มที่และตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ งานนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มาเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งได้กล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดงานในครั้งนี้ที่ไม่เพียงแค่เป็นการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย แต่ยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งท่านได้ทรงเป็นแบบอย่างในการส่งเสริมคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของท้องถิ่น งานนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าของดีอำเภอสัตหีบ กิจกรรมสาธิตการสร้างงานสร้างอาชีพ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ที่หมุนเวียนไปตามช่วงเวลา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย แห่โคมชมพระฉาย สืบสายศิลป์ ถิ่นหนองจับเต่า เขาชีจรรย์ เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 11 แล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และเพื่อสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานในพระอุระของพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา พระพุทธรูปแกะสลักหินในปางมารวิชัย ที่ประทับอยู่บนหน้าผาสูง 130 เมตร ภายใต้ศิลปะผสมผสานระหว่างสุโขทัยและล้านนา

ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองน่าเที่ยวศักยภาพ จ.อุตรดิตถ์ ต้อนรับ คาราวานเมืองน่าเที่ยว  “ตะลุย เส้นทางลอยฟ้า เที่ยว แพร่-ภูพญาพ่อ-อุตรดิตถ์” นายอิทธิพัทธ์ ศิริกาญจนารักษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดอุตรดิตถ์, นางกัญญาวีร์ ศิริกาญจนารักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ และ นางสาวภัททิรา คำอภิวงศ์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแพร่-อุตรดิตถ์ ร่วมต้อนรับ คาราวานเมืองน่าเที่ยว  “ตะลุย เส้นทางลอยฟ้า เที่ยว แพร่-ภูพญาพ่อ-อุตรดิตถ์” ในรูปแบบคาราวานรถยนต์ท่องเที่ยว 20 คัน  ผู้ร่วมเดินทางจำนวน 50 คน เดินทางสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว ควบคู่การทำกิจกรรม CSR เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มสมาชิกผู้ที่ชื่นชอบขับรถยนต์ รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง 2 จังหวัด สร้างการรับรู้ สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไปยังนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย เดินทางเข้าสู่จังหวัดแพร่และจังหวัดอุตรดิตถ์มากขึ้น สอดรับกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ททท.#เมืองน่าเที่ยวศักยภาพ กิจกรรมคาราวานเมืองน่าเที่ยว “ตะลุย เส้นทางลอยฟ้าเที่ยว แพร่-ภูพญาพ่อ-อุตรดิตถ์” จัดโดย บริษัทไอซ์มีเดีย หอการค้าจังหวัดแพร่ บริษัท Isuzu Phrae สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ และ

อำเภอโพธิ์ชัยจัดงาน บุญข้าวจี่ ของดีเมืองโพธิ์ชัย ครั้งที่ 30 นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัอยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน บุญข้าวจี่ ของดีเมืองโพธิ์ชัย ครั้งที่ 30 ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้น ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด   เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบภาวะจิตของผู้นำมาถวาย จึงรับสั่งให้พระอานนท์ปูลาดอาสนะ แล้วทรงประทับนั่งฉัน ณ ที่ตรงนั้น เป็นผลให้เกิดความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงก็บรรลุโสดาบันปฏิผลด้วยอานิสงส์ที่ถวายข้าวจี่นั้น. ชาวอีสานจึงเชื่อในอานิสงส์ของการถวายทานดังกล่าวจึงพากันทำข้าวกี่ไปถวายทานแด่พระสงฆ์สืบต่อกันมา \”ประเพณีบุญข้าวจี่ ของดีเมืองโพธิ์ชัย\” เป็นงานประจำปีที่ชาวอำเภอโพธิ์ชัย เริ่มจัดครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยการนำของ นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล นายอำเภอโพธิ์ชัย คนที่ 8 สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 30 ทางอำเภอกำหนดจัดงานภายในสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรม จารีตประเพณีท้องถิ่น และรักษาประเพณีนี้ไว้อย่างต่อเนื่อง   ในปีนี้ อำเภอโพธิ์ชัย ร่วมกับสภาวัฒนธรรมอำเภอ ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น