สิ่งแวดล้อม

พระนครศรีอยุธยา-นายก อบจ.นำร่องหนุนกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ประชุมเครือข่าย ทสม.และหน่วยงานเกี่ยวข้องตั้งรับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ วันที่ 24 กพ 68 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมบูรณาการความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับจังหวัดครั้งที่ 1 โดยมีนายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุม มีนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ พระนครศรีอยุธยา นายอธิวัฒน์ สุคนธ์ประดิษฐ์ อดีตรองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นางสาวอุมา ศรีสุข ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ว่าที่ร้อยตรีหญิง วราภรณ์ อ่อนไทรแก้ว ผ.อ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นายสมศักดิ์ สันธินาค นายกสมาคมเครือข่าย ทสม พระนครศรีอยุธยา และ ผศ.ดร. กิติชัย รัตนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายแผนและกลยุทธด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายกฤตภพ เฉื่อยฉ่ำ นายก อบต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน นายวิโรจน์ นาคก้อน เครือข่าย ทสม.บางปะหัน นายปฐพี พวงสุวรรณ์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครหมอดิน […]

กฟผ. ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ บริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ จำกัด เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน สำหรับพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ช่วยสนับสนุนให้ กฟผ. วางแผนบริหารจัดการระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพ          นายเสน่ห์ ตรีขันธ์ รองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง (รวส.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้แทน กฟผ. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือการรับ-ส่งข้อมูลการพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน กับ นายอรรถพงศ์ สถิตมโนธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ จำกัด (SCG Cleanergy) โดยมี นางสมฤดี ทิพย์มาบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีระบบกำลังไฟฟ้ารูปแบบใหม่ (อทม.) และนายธนาพล เบญจวงศ์เสถียร ผู้จัดการฝ่าย Renewable Power PPA Business บริษัท เอสซีจีฯ ร่วมพิธี เมื่อวานนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2568) พร้อมด้วยผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน อทม.

สระแก้ว – หมอล็อตโพสต์ภาพและคลิปลูกช้างป่าติดบ่วงสลิง พื้นที่บ้านคลองตะเคียนชัย อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นภาพที่หลายคนดูแลสลดใจ หลังมีชาวบ้านใช้วิธีการป้องกันช้างด้วยการวางกับดักช้าง ซึ่งไม่ใช่วิธีการป้องกันช้าง เมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรรายงานว่า กรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์เขาอ่างฤาไนและทีมสัตวแพทย์ เข้าช่วยเหลือลูกช้างป่าที่ติดบ่วงสลิงจนขาหลังซ้ายเป็นแผลเวอะหวะ จนมีการเข้าช่วยหลือช้างตัวนี้เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา โดย นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล็อต หัวหน้าฝ่ายจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตวป่าและพันธ์พืช ออกมาโพสต์ภาพและคลิป ซึ่งเป็นภาพสลดสำหรับคนที่ได้ดู โดยระบุว่า \”LotterAlternatives:”บ่วงนรกกับลูกช้างป่า“ การวางกับดักทำร้ายช้าง ไม่ใช่การป้องกันช้าง\” แม่ช้างป่าพาลูกแยกตัวออกจากฝูง ผลการตรวจร่างกาย พบว่ามีแผลอยู่บริเวณข้อเท้าขาหน้าขวา มีลวดสลิงติดอยู่ ใต้ข้อเท้าบวม ขาเบี้ยวผิดรูป แผลไม่มีหนอง จึงทำการรักษาโดยตัดลวดสลิงออก ให้ยารักษาการติดเชื้อ ยาลดปวดลดอักเสบ ยาฆ่าหนอน ล้างทำความสะอาดแผลแล้วใส่ครีมรักษาการติดเชื้อในแผล พร้อมทั้งเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพทั่วไปด้วย หลังทำการรักษาจึงให้ยาฟื้น ลูกช้างป่าและแม่ช้างป่าฟื้นจากยาซึมได้ดี ทั้งนี้ หมอล๊อต ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป และชื่นชมทีมงานทุกคนครับ นางสาวมัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่)

สระแก้ว – ระดมทีมสัตวแพทย์ เข้าช่วยเหลือลูกช้างป่า ถูกบ่วงสลิงรัดข้อเท้าเดินกะเผลกข้างแม่ช้าง กลางป่าสระแก้ว​ โดยเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไนจัดเจ้าหน้าที่ติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายว่าว่า ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยนายเอกชัย แสนดี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน​ ได้รายงานเหตุการณ์ช่วยเหลือลูกช้างป่า โดยเจ้าหน้าที่​พบลูกช้างป่าถูกบ่วงสลิงรัดขาหน้าด้านขวา จนบวมบริเวณข้อเท้า เดินกะเผลก อยู่กับแม่ช้างป่า บริเวณหมู่ 5 บ้านคลองตะเคียนชัย ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว​ จึงได้ประสาน​ ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน นายก อบต.ทุ่งมหาเจริญ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านทุ่งมหาเจริญ ได้เข้าทำการช่วยเหลือโดยเร่งด่วน โดยเหตุการณ์ช่วยเหลือเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการวางยาซึมทั้งลูกช้างป่าและแม่ช้างป่า เพื่อให้สามารถเข้าทำการรักษาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ลูกช้างป่าเป็นเพศผู้ อายุประมาณ 1-2 ปี น้ำหนักประมาณ

ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 6 ปี “เจ๊อ้อย-นายกแป็ก” ชดใช้ 10.5 ล้าน บุกรุกขุดดินโบราณสถานเขาน้อย ด้านนายกกองและคนขับแบ็คโฮ คุกคนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ทนายยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวสู้คดีชั้นอุทธรณ์และฎีกา วันนี้ (25 ก.พ.68) ที่ ศาลจังหวัดสงขลา จ.สงขลา กลุ่มภาคประชาชนซึ่งนำโดยนายสมโภช โชติชูช่วง อดีตรองผู้ว่าฯ พร้อมกับกลุ่มประชาชนตบเท้าเข้ารับฟังคำพิพากษากรณีบุกรุกขุดดินพื้นที่โบราณสถานเขาน้อยอายุ 1400 ปีบริเวณ ต.หัวเขา อำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลา โดย คดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นางณัฐณรันต์ จันทร์สว่าง หรือเจ๊อ้อย พี่สาวนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ต้องหาร่วมกับ นายชาญชญา จันทร์สว่าง สามี และนายกอง จันทร์สว่าง บุตรชาย ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร พร้อมคนขับรถแบ๊กโฮอีก 2 คน หลังจากเลื่อนพิพากษามา 1 สัปดาห์เนื่องจาก ”เจ้อ้อย“ หนึ่งในจำเลยป่วยขอเลื่อนฟังคำพิพากษา

กฟผ. ตระหนักถึงความสำคัญของชุมชน เน้นการป้องกันดูแลสิ่งแวดล้อม และตรวจวัดค่าแรงสั่นสะเทือนจากการทำเหมืองอย่างเคร่งครัด ทำให้สามารถควบคุมได้ไม่เกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ ควบคู่กับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกอย่างต่อเนื่อง            นายสุชาติ ตุ่นแก้ว ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากกรณีชาวบ้านแม่จาง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ร้องเรียนบ้านเรือนเกิดรอยร้าว ซึ่งคาดว่ามาจากแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดเหมืองนั้น กฟผ. มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รีบส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดวัดค่าแรงสั่นสะเทือนโครงการเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมเคมี จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย      – บริเวณถ้ำช้างเผือกห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.27 กิโลเมตร     – บริเวณแนวสายส่งไฟฟ้าห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.17 กิโลเมตร     – บริเวณเชิงดอยผาตูบห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 1.10 กิโลเมตร      – บริเวณสำนักสงฆ์ถ้ำอินทร์เนรมิตห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.97 กิโลเมตร            ขณะที่ระยะห่างจากขอบพื้นที่โครงการถึงหมู่บ้านแม่จาง 2.8 กิโลเมตร และห่างจากบ้านข่วงม่วง 2.3 กิโลเมตร โดยพบว่า

กฟผ. ตระหนักถึงความสำคัญของชุมชน เน้นการป้องกันดูแลสิ่งแวดล้อม และตรวจวัดค่าแรงสั่นสะเทือนจากการทำเหมืองอย่างเคร่งครัด ทำให้สามารถควบคุมได้ไม่เกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ ควบคู่กับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยขอฃนายสุชาติ ตุ่นแก้ว ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากกรณีชาวบ้านแม่จาง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ร้องเรียนบ้านเรือนเกิดรอยร้าว ซึ่งคาดว่ามาจากแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดเหมืองนั้น กฟผ. มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รีบส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดวัดค่าแรงสั่นสะเทือนโครงการเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมเคมี จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย บริเวณถ้ำช้างเผือกห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.27 กิโลเมตร – บริเวณแนวสายส่งไฟฟ้าห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.17 กิโลเมตร – บริเวณเชิงดอยผาตูบห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 1.10 กิโลเมตร – บริเวณสำนักสงฆ์ถ้ำอินทร์เนรมิตห่างจากพื้นที่ขอบโครงการ 0.97 กิโลเมตร ขณะที่ระยะห่างจากขอบพื้นที่โครงการถึงหมู่บ้านแม่จาง 2.8 กิโลเมตร และห่างจากบ้านข่วงม่วง 2.3 กิโลเมตร โดยพบว่า ผลการตรวจวัดค่าแรงสั่นสะเทือนโครงการเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมเคมี ตั้งแต่ปี 2561-2568 ไม่เกิน 3 มิลลิเมตรต่อวินาที ตามเกณฑ์ควบคุมของ กฟผ. ซึ่งไม่เกินค่าเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 …คงจดจำ ”ประสบการณ์เฉียดตาย” ไปอีกยาวนาน หนุ่ม “แอนเดรียน ซีมานคาส” ชาวชิลี วัย 24 ปี พร้อมบิดา พากันพายเรือยางเล็กคนละลำ ลอยล่องนอกชายฝั่งในช่องแคบแมคเจนแลน ปาตาโกเนีย ท่ามกลางสภาพอากาศคลื่นลมสงบในช่วงเช้าวันหนึ่ง ระหว่างกำลังเพลิดเพลินพายเรือยางท่องทะเลท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น จู่ๆเกิดเหตุไม่คาดฝัน “วาฬหลังค่อม” ตัวใหญ่ยักษ์ พุ่งขึ้นเหนือผิวน้ำ เขมือบทั้งคนและเรือยางของหนุ่มแอนเดรียน ลากลงไปใต้น้ำลึกอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้พ่อที่พายเรือยางตามหลังลูกชายไม่ไกลนัก ภาพเหตูการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจนผ่านกล้องบันทึกภาพที่ติดอยู่บนเรือของพ่อแต่ปาฎิหารย์เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เรือยางและร่างของหนุ่มแอนเดรียน ดีดขึ้นสู่ผิวน้ำอีกครั้ง ท่ามกลางความตกตะลึงอีกรอบของพ่อ จนต้องตะโกน “อยู่นิ่ง ๆ อยู่นิ่ง ๆ“ หลายครั้ง กระทั่ง ทั้งคู่พ่อลูกพากันรีบพายเรือเข้าฝั่งสำเร็จปลอดภัยได้ในเวลาต่อมา แอเดรียน ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เรือยางเสียหายเล็กน้อยและไม้พายเรือหัก 1 อัน หนุ่มแอนเดรียน รอดชีวิตมาเล่าประสบการณ์ระทึก ระบุในระหว่างเขากำลังพายเรือเหนือผิวน้ำทะเลตอนนั้น จู่ๆ ก็เกิดเงาทมึนดำเมื่อมเหนือศีรษะด้านหลัง รู้สึกเหมือนถูกคลื่นถาโถมเข้าใส่ ก่อนรู้สึกได้ถึงความมืดและการถูกดึงตัวพร้อมเรือลงสู่ใต้ทะเลลึก  เขาหลับตาและคิดได้ทันทีว่าตายแน่ เขากำลังถูกวาฬตัวใหญ่เขมือบและกลืนลงท้องแต่หลังจากนั้น ราว 2-3 วินาที ทั้งเรือและร่างของเขาถูกกระชากขึ้นสู่ผิวน้ำอีกครั้ง อาจเพราะวาฬคายเหยื่อ หรือไม่ก็เพราะแรงลมอัดจากเรือยางกับเสื้อชูชีพช่วยดึงตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ

ได้สิทธิ์อะไร? สวนทุเรียนกลางเกาะเขื่อนคีรีธาร จันทบุรี พบพื้นที่ทำเกษตรกรรมบนเกาะกลางน้ำ พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขต หมู่ 3 บ้านสะพานหินบน ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง ในบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนสะพานหินหรือคีรีธาร มีหมู่เกาะน้อยใหญ่อยู่ ประมาน 10 เกาะ มีบางเกาะถูกเจาะตรงกลาง ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนคอยตรวจสอบและห้ามปรามอยู่ตลอด ส่วนเกาะ ที่มีการปลูกทุเรียน เกาะใหญ่ 1 เกาะ แบ่งออกเป็นหลายแปลง หลายเจ้าของ เกือบ 100 ไร่ สมัยโบราณเรียกเกาะนี้ว่า เกาะ 100 ไร่ ผู้สื่อข่าวลงสำรวจ ได้ข้อมูลจากนายกรรชัย มีกระโดน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านสะพานหินบน ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง ให้ข้อมูลพร้อมนำเอกสารมาแสดง พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของ หมู่ 3 เขตรับผิดชอบของตนเอง ก่อนหน้านี้ผมเคยขอใช้พื้นที่ จากสำนักงานปฏิรูปที่ดิน ภายหลังได้มีการคืนพื้นที่บางส่วน แต่ติดขัดเรื่องการตอบเอกสาร ในปัจจุบัน ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นพื้นที่ของฝ่ายใดกันแน่ ระหว่างพลังงานกับสำนักงานปฏิรูปที่ดิน (ทางป่าตัดออกไปเนื่องจากเป็นพื้นที่แนวเขตของสำนักงานปฏิรูป) ส่วนรอบข้างที่มองเห็นมีบางส่วนเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดคืนแล้ว …

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศฉบับที่ 3 (25/2568) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (ช่วงวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2568) บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ ในช่วงวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น และมีฝนหนักถึง หนักมากบางแห่ง ดังนี้ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 มีฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2568 มีฝนหนักหลายพื้นที่ และมีฝนหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส  จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง และฝนหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก