สิ่งแวดล้อม

“อเล็กซ์ เรนเดลล์” นำทีม \”เพาะกล้าไม้\” นำกลับคืนสู่ป่าชายเลน

“อเล็กซ์ เรนเดลล์” นำทีมเพาะกล้าไม้ นำกลับคืนสู่ป่าชายเลน ชลบุรี –   เมื่อเร็วๆ นี้  ศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา (EEC) นำโดย คุณอเล็กซ์ เรนเดลล์ ผู้ก่อตั้งศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา เพื่อสานต่อภารกิจ ESG ด้วยกิจกรรมเพาะกล้าไม้ป่าชายเลน การเรียนรู้และรักษาธรรมชาติ ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จังหวัดชลบุรี           คุณอเล็กซ์ เรนเดลล์ กล่าวว่า กิจกรรมเพาะกล้าไม้ป่าชายเลนร่วมกับศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาครั้งนี้ มุ่งสร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทของทุกคนในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และ ความสำคัญของป่าชายเลนในการดูดซับก๊าซคาร์บอน ซึ่งประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) การเรียนรู้แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG), 2) การสำรวจเส้นทางธรรมชาติระยะทาง 1.2 กิโลเมตร 3) เพื่อศึกษาความสำคัญของป่าชายเลนและ Blue Carbon (คาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกกักเก็บไว้ในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล) พร้อมร่วมเก็บขยะในป่าชายเลน 4) และรวมถึงกิจกรรมไฮไลต์ อย่าง […]

“อเล็กซ์ เรนเดลล์” นำทีม \”เพาะกล้าไม้\” นำกลับคืนสู่ป่าชายเลน Read More »

อธิบดีกรมทะเล สั่งจนท.เร่งสำรวจความเสียหายแนวปะการัง”เกาะทะลุ”หลังจากถูกเรือบรรทุกสินค้าชน

อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง สั่งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง  จ.ชุมพร และ สำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จังหวัดเพชรบุรี  ลงไปดำน้ำ สำรวจพื้นที่แนวปะการัง ด้านหน้าเกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากกรณีเรือบรรทุกสินค้า โซ่สมอเรือที่ลากจูงเรือบาร์จขาด  ส่งผลให้เรือบาร์จทั้งสามลำไปชนกับแนวปะการัง  ซึ่งเจ้าหน้าที่นำโดรนใต้น้ำ และการดำน้ำลงสำรวจ พบเสียหายหนัก เตรียมวิเคราะห์ข้อมูลประเมินมูลค่าความเสียหาย คาดใช้เวลา 1 สัปดาห์ จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้ (วันที่ 5 มีนาคม 2568) ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง  จ.ชุมพร และ สำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จังหวัดเพชรบุรี  ลงไปสำรวจพื้นที่แนวปะการัง ด้านหน้าเกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก  หลังจากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า มีเรือบรรทุกสินค้าปูนซีเมนต์โซ่สมอเรือที่ลากจูงเรือบาร์จขาด  ส่งผลให้เรือบาร์จทั้งสามลำไปชนกับแนวปะการังและโขดหิน ทำให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการังเป็นระยะทางยาว (ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 68 ที่ผ่านมา) โดยล่าสุดนางสาวฟองแก้ว พูลสวัสดิ์ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล  สำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3

อธิบดีกรมทะเล สั่งจนท.เร่งสำรวจความเสียหายแนวปะการัง”เกาะทะลุ”หลังจากถูกเรือบรรทุกสินค้าชน Read More »

ครบรอบ 48 ปี รัฐพิธีเปิดเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

           “เขื่อนสิริกิติ์” จ.อุตรดิตถ์ เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อสร้างขึ้นตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่าน เดิมมีชื่อว่า “เขื่อนผาซ่อม” ต่อมาได้รับพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขนานนามว่า “เขื่อนสิริกิติ์” โดยภายหลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนสิริกิติ์และโรงไฟฟ้าเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2520            เขื่อนสิริกิติ์ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่จุน้ำได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย รองจากเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนภูมิพล โดยตัวเขื่อนมีประโยชน์ทางด้านการชลประทาน การบรรเทาอุทกภัยเป็นหลัก และมีการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นผลพลอยได้ ซึ่งนับเป็นการใช้พลังน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตัวเขื่อนมีการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้ารวมกำลังผลิต 500 เมกะวัตต์      

ครบรอบ 48 ปี รัฐพิธีเปิดเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย Read More »

พบคราบน้ำมันสีแดงเกยหาดอ่าวตังเข็น ภูเก็ต ประมาณ 200 ลิตร หวั่นกระทบพะยูน-เต่าทะเล-หญ้าทะเล

ภูเก็ต พบน้ำมันสีแดง ถูกคลื่นซัดมาติดชายหาดอ่าวตังเข็น ประมาณ 200 ลิตร ด้านศรชล.ภาค 3 ร่วมเจ้าท่าภูเก็ต กับหน่วยที่เกี่ยวข้อง เร่งกำจัดคราบน้ำมัน หวั่นกระทบพะยูน, เต่าทะเล, และหญ้าทะเล เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเฟซบุ๊ก Theerasak Saksritawee จิตอาสานักวิทยาศาสตร์เมือง ทำหน้าที่ในการติดตามสำรวจพะยูนอพยพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 1.02 นาที ระบุ ข้อความ ว่า “…งานเข้า นํ้ามันสีแดงที่อ่าวตังเข็น จ.ภูเก็ต (03/03/25) #thelastdugongofthailand..” ซึ่งตามคลิปวิดีโอจะพบน้ำทะเลมีสีแดงถูกคลื่นซัดมาติดชายหาดอ่าวตังเข็น ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตซึ่งเป็นจุดที่มีพะยูน จำนวนมากว่ายน้ำมากินหญ้าทะเล ในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกับมีการระบุว่า น้ำสีแดงมีกลิ่นคล้ายน้ำมัน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าลอยมาจากที่ไหน หลังจากมีการโพสต์ข้อความและภาพออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก รวมทั้งถามหาความรับผิดชอบจากคนที่ทำให้น้ำสีแดงไหลลงทะเล ต่อมาศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต (ศคท.จว.ภก.) ได้รับแจ้งเหตุพบคราบน้ำมันบริเวณชายหาดอ่าวตังเข็น (หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง) ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เบื้องต้นได้แจ้งให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบพบคราบน้ำมันสีแดงลอยอยู่ตามแนวชายฝั่ง ความยาวประมาณ

พบคราบน้ำมันสีแดงเกยหาดอ่าวตังเข็น ภูเก็ต ประมาณ 200 ลิตร หวั่นกระทบพะยูน-เต่าทะเล-หญ้าทะเล Read More »

แพร่วิตก PM2.5 หนักอีก บ้านปงสุดเยี่ยมจัดการไฟ หยุด hotspot ในพื้นที่ 5 ปีติดต่อกัน

ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดแพร่ มีปริมาณค่า pm2.5 สูงสุดติดอันดับ 1 ของภาคเหนือตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีฝนตกติดต่อกัน 3 วัน ส่งผลให้ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอากาศลดลงอย่างน่าพอใจ แต่สถานการณ์ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคมค่า pm 2.5 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 83 อยู่ในลักษณะปานกลาง การเกิดไฟป่าและการเผาในพื้นที่โล่งแจ้งเริ่มมีเพิ่มขึ้น ถ้ายังไม่มีการจัดการอย่างถูกวิธีคาดการณ์ว่าในพื้นที่จังหวัดแพร่จะมีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 หนาแน่นติดอันดับต้นๆ ของภาคเหนืออีกครั้งอย่างแน่นอน ในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนมีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านปง หมู่ 3 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ มีป่าชุมชนและป่าต้นน้ำที่ชาวบ้านร่วมกันดูแลนับหมื่นไร่ และพื้นที่เกษตรกรรม นาข้าว ไร่มันสำปะหลัง ไร่ข้าวโพด สวนหน่อไม้ ที่ต้องมีการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แต่หมู่บ้านนี้สามารถป้องกันการเกิดไฟในป่า และในพื้นที่เกษตร ทั้งหมดได้สำเร็จ ตัวชี้วัดความสำเร็จของหมู่บ้านนี้จากสถิติ 5 ปีติดต่อกันไม่พบจุด hotspot ในพื้นที่ นายบุญยิ่ง

แพร่วิตก PM2.5 หนักอีก บ้านปงสุดเยี่ยมจัดการไฟ หยุด hotspot ในพื้นที่ 5 ปีติดต่อกัน Read More »

ตรัง ยังช่วยไม่ได้ พบพะยูนลิบงถูกเชือกพันหาง กรมทะเลระดมช่วยเหลือ-ติดตาม

ยังช่วยไม่ได้ พบพะยูนลิบงถูกเชือกพันหาง กรมทะเลระดมช่วยเหลือ-ติดตาม เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. Kotaro Ichikawa ทีมนักวิจัยชาวญี่ปุ่น เรื่องพบพะยูนมีชีวิตถูกเชือกพันรัดที่บริเวณหาง ว่ายน้ำอยู่บริเวณหน้าอ่าวบ้านพร้าว เกาะลิบง ในเขตพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ทางเจ้าหน้าที่ศวอล.ได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ จม.2 (หยงหลิง) อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยง เกาะลิบง เพื่อตรวจสอบและติดตามช่วยเหลือพะยูนตัวดังกล่าว โดยเรือยางขนาดเล็กและเรือพาดหางยาว จำนวนทั้งสิ้น 3 ลำ จากการสำรวจติดตามพบพะยูนมีเชือกสีดำ ขนาดประมาณ 2.5 มม. ยาวประมาณ 3 เมตร พันอยู่บริเวณแพนหางของพะยูน โดยจากการตรวจร่างกายเบื้องต้นโดยใช้อากาศยานไร้คนขับชนิดปีกหมุนหลายใบพัด (Multirotor UAV) พบว่าเป็นพะยูนขนาดโตเต็มวัย ความยาวลำตัวประมาณ 2.5 เมตร ความสมบูรณ์ของร่างกายสมบูรณ์ดี (BCS 3/5) อัตราการหายใจ 4-5 ครั้งต่อ 5

ตรัง ยังช่วยไม่ได้ พบพะยูนลิบงถูกเชือกพันหาง กรมทะเลระดมช่วยเหลือ-ติดตาม Read More »

พบผู้ครอบครองที่ดิน คทช.ก่อนเปลี่ยนมือถึงทุนจีนเป็นคนนอก พท.เกือบทั้งหมด

ฉะเชิงเทรา – พบข้อมูลตามรายงานการชี้แจง กมธ.สิ่งแวดล้อมวุฒิสภาลงพื้นที่ตรวจสวนทุเรียนทุนจีนที่ท่าตะเกียบเมื่อวานนี้ ผู้ครอบครองที่ดินก่อนเปลี่ยนมือถึงทุนจีนปลูกทุเรียนกว่า 10 รายเป็นคนจากนอกพื้นที่เกือบทั้งหมด แฉพบการถูกนำชื่อสวมจากบริษัทก่อนหน้าเข้าร่วมโครงการ คทช. พร้อมให้เวลาผู้ครอบครอง 10 วันเข้ามาชี้แจงระบุตำแหน่งที่ดิน วันที่ 1 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา ซึ่งนำโดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการ ได้ลงพื้นที่เข้ามาดูยังในแปลงปลูกทุเรียนทุนจีนที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.68) ได้พบข้อมูลตามการรายงานของ นายชัยนันท์ อิ่มเจริญ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ฉช.3 หนองคอก ต่อทางคณะกรรมาธิการว่า พื้นที่แปลงปลูกทุเรียนตามเอกสาร ภบท.5 ที่บริษัทเอกชนหรือทุนจีนดังกล่าวที่เข้ามายื่นเสียภาษีต่อทาง อบต.คลองตะเกรา จำนวน 688 ไร่ 2 งาน 24 ตรว.คาบเกี่ยวระหว่างหมู่ที่ 14 บ้านเขากล้วยไม้จำนวน 476 ไร่ 2 งาน 99 ตรว. และหมู่ที่ 20

พบผู้ครอบครองที่ดิน คทช.ก่อนเปลี่ยนมือถึงทุนจีนเป็นคนนอก พท.เกือบทั้งหมด Read More »

กรรมาธิการวุฒิฯ ลงดูแปลงทุเรียนทุนจีน พบความผิดโยงหลายหน่วยงาน

ฉะเชิงเทรา – กรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา ลงพื้นที่ดูแปลงปลูกทุเรียนทุนจีนที่ท่าตะเกียบแปดริ้ว พบความผิดหลาย พ.ร.บ.คาตาโยงหลายหน่วยงาน ทั้งการบุกรุกที่ดินป่าสงวน การขุดดินถมดิน การขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร การเชื่อมโยงขยายเขตใช้ไฟฟ้า ก่อนให้ข้อเสนอแนะแต่ละหน่วยงานตรวจสอบความเป็นมาสาวขยายผล ขู่ดำเนินคดีหากไม่ขยับให้ความร่วมมือ พร้อมเตรียมพัฒนาพื้นที่แปลงปลูกทุเรียนเป็นป่าชุมชน วันที่ 28 ก.พ.68 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณแปลงปลูกทุเรียนของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.14 และ ม.20 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งตกเป็นข่าวดังหลังจาก จนท.ป่าไม้ได้เข้าทำการปักป้ายตรวจยึดพื้นที่จำนวน 688 ไร่เมื่อวันที่ 25 ก.พ.68 ตาม ปจว.ข้อ 1 ลงวันที่ 20 ก.พ.68 ที่ผ่านมา หลังจากมีการตรวจสอบพบว่าเป็นการลงทุนจากกลุ่มทุนชาวจีน ได้มีคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา ซึ่งนำโดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งระดับจังหวัดและระดับเขตลงพื้นที่มายังที่แปลงปลูกทุเรียนทุนจีนดังกล่าวนี้ด้วยพร้อมกัน หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลา 10.00 น. ได้เดินทางไปรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการบุกรุก และให้ข้อเสนอแนะ ตอบข้อซักถามยังที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.ท่าตะเกียบ

กรรมาธิการวุฒิฯ ลงดูแปลงทุเรียนทุนจีน พบความผิดโยงหลายหน่วยงาน Read More »

รมว.ทส. เปิดเวทีสร้างความเข้มแข็งภาคีเครือข่าย ทช. ขับเคลื่อนงานอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้ยั่งยืน

“ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. เปิดเวทีสร้างความเข้มแข็งภาคีเครือข่าย ทช. อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ขับเคลื่อนงานอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้ยั่งยืน สิ่งสำคัญต้องช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลด้านสวัสดิการให้ อาสามสมัครฯด้วย วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานเปิด โครงการประชุมความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล  ในการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งครั้งที่ 2 กล่าวว่า กระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน สนับสนุนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคประชาชน เช่น เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) และเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) โดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางสร้างการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และเสริมความเข้มแข็งในระดับพื้นที่ รวมถึงช่วยกันบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามหลักธรรมาภิบาล ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณทุกความร่วมมือในการทำงานดูแลทรัพยากรของพี่น้องเครือข่ายฯ ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์หลายประการต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศ ทั้งในระดับพื้นที่เองก็มีการทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างพี่น้องเครือข่ายกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์การทำงานระหว่างเครือข่ายด้วยกันเอง ชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดูแลจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

รมว.ทส. เปิดเวทีสร้างความเข้มแข็งภาคีเครือข่าย ทช. ขับเคลื่อนงานอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้ยั่งยืน Read More »

ขายเพราะความกลัว ชาวบ้านยอมปล่อยที่ดินหลุดมือถึงทุนจีนปลูกทุเรียน

ฉะเชิงเทรา – ขายเพราะความกลัวทั้งที่ไม่รู้จักว่าเป็นใคร เสียงสะท้อนจากชาวบ้านผู้ที่ยอมปล่อยที่ดินหลุดมือถึงทุนจีนปลูกทุเรียน ระบุมีการเปลี่ยนมือไปนานแล้วจนไม่รู้เส้นทางการตกทอดถือครอบครอง ส่วนชาวบ้านอีกหลายรายเผยเจ้าของสวนไม่จ้างแรงงานคนพื้นที่ เหตุบ้านใกล้ถูกมองเป็นกลุ่มแรงงานขาดคุณภาพไม่ตั้งใจทำงาน วันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หมู่บ้านเขากล้วยไม้ พื้นที่ ม.14 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา หลังพื้นที่ในหมู่บ้านตกเป็นข่าวดังผ่านทางสื่อว่ามีทุนจีนเข้ามากว้านซื้อที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ที่เคยมีชาวบ้านทำกินตามเอกสารการถือครอง ภบท.5 และบางส่วนถูกจัดสรรให้ทำกินตามโครงการ คทช. ของ จ.ฉะเชิงเทรานั้น ชาวบ้านทั่วไปส่วนใหญ่ยังไม่ทราบในรายละเอียด โดย น.ส.สลักจิต ทักษิณ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 515 ม.5 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ตนเองได้ยินกระแสข่าวอยู่เช่นกัน แต่ไม่ทราบว่ามีทุนจีนเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อใด โดยได้เห็นว่าแปลงพื้นที่ดังกล่าวมีการปลูกทุเรียนมาเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา และเห็นเพียงคนงานจากในสวนออกมาซื้อของที่ร้านค้าในหมู่บ้านอยู่บ้างเท่านั้น จนมาทราบอีกครั้งเมื่อมี จนท.เข้ามายึดพื้นที่แล้วเมื่อหลายวันก่อน โดยที่ไม่ทราบว่าเจ้าของเดิมในพื้นที่แปลงนั้นเป็นใครบ้าง และคงมีการซื้อขายต่อกันหลายทอดมานานแล้ว ซึ่งอาจจะมีทั้งที่เสียชีวิตไปแล้วและอาจย้ายออกจากหมู่บ้านไปอยู่ยังที่อื่นแล้ว โดยครั้งแรกที่มีการปลูกทุเรียนชาวบ้านต่างเข้าใจกันว่า เป็นของคนทั่วไปที่เขาทำสวนกันตามปกติ เหมือนกับเมื่อเราซื้อที่ดินแล้วก็เข้ามาปลูกของกินทำสวนขายผลผลิตกันไปตามปกติของชาวบ้าน ไม่ได้คิดว่าจะเป็นนายทุนจีนเข้ามาปลูกทำสวนทุเรียนแต่อย่างใด

ขายเพราะความกลัว ชาวบ้านยอมปล่อยที่ดินหลุดมือถึงทุนจีนปลูกทุเรียน Read More »