สิ่งแวดล้อม

เจ้าหน้าที่บุกจับสวนทุเรียนนายทุนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่านากกในเมืองพังงา พบเคยถูกจับมาแล้วเมื่อปี 2565

พังงา-เจ้าหน้าที่บุกจับสวนทุเรียนนายทุนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติในเมืองพังงา พบเคยถูกจับมาแล้วเมื่อปี 2565 เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวัฒน์ สุขศิริ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา พร้อมด้วย นายนฤเศรษ แก้วคง เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ศูนย์ป้องกันและปราบปรามป่าที่ 4 (ภาคใต้) นายประวิทย์ ช่วยหมุด หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พง.1 (พังงา) ร.ต.ท.สุรเชษฐ์ เพชรรัตน์ รอง สว.กก.5 บก.ปทส. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.เข้าตรวจสอบพื้นที่สวนทุเรียนของนายทุนที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่านากก บ้านในหงบ ต.ตากแดด อ.เมืองพังงา ในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่เศษ พบว่าปลูกทุเรียนหมอนทองอายุประมาณ 3 ปี 279 ต้น มีนายวิโรจน์(สงวนนามสกุล) ชาวจังหวัดนครศรธรรมราช กำลังตัดหญ้าอยู่ภายในสวนและยอมรับว่าเป็นผู้ดูแลสวนให้กับโก้ชัย ซึ่งเป็นพี่ชายของเจ้าของสวนอีกทีหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมคุมตัวมาทำบันทึกการจับกุมที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พง.1 (พังงา) โดยแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดตามพรบ.ป่าไม้ […]

เจ้าหน้าที่บุกจับสวนทุเรียนนายทุนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่านากกในเมืองพังงา พบเคยถูกจับมาแล้วเมื่อปี 2565 Read More »

กฟผ. เตรียมลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะการเสนอราคางานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 หลังผลสอบไม่พบการทุจริตใด ๆ

           กฟผ. เตรียมลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะการเสนอราคางานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 หลังผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงพลังงานไม่พบการทุจริต พร้อมรับข้อเสนอแนะมาปรับปรุง ย้ำกระบวนการจ้างยึดถือความโปร่งใส่ ปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเคร่งครัด เพื่อบริหารถ่านหินและราคาต้นทุนพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ            นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนลงนามสัญญาจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 หลังคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีงานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะของ กฟผ. ที่แต่งตั้งโดยกระทรวงพลังงานไม่พบการทุจริต และให้ กฟผ. พิจารณาดำเนินการตามความถูกต้องเหมาะสมและตามอำนาจหน้าที่ รวมถึงรับความเห็นและข้อเสนอแนะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมาปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น            งานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 นี้ ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนแม้สถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานจะคลี่คลาย แต่สถานการณ์สงครามยังมีความไม่แน่นอน ทำให้การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินของโรงไฟฟ้าแม่เมาะซึ่งมีต้นทุนต่ำที่สุดยังคงมีความจำเป็นเพื่อช่วยพยุงราคาค่าไฟฟ้าของประเทศ โดยที่ผ่านมา กฟผ. ต้องนำถ่านหินภายใต้สัญญาเดิม (สัญญา 8 และ 9)

กฟผ. เตรียมลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะการเสนอราคางานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 หลังผลสอบไม่พบการทุจริตใด ๆ Read More »

พายุพัดกระหน่ำทำบ้านเรือนประชาชนพังกว่า 200 หลัง

ราชบุรี  ในวันนี้( 17 มี.ค. 68) นายทวีสินธุ์  ทรงเจริญ  ปลัดอำเภอจอมบึง   จ.ราชบุรี  พร้อมด้วยนายภานุ  ลาภทวีสมบูรณ์  รองนายกอบต.แก้มอ้น  อ.จอมบึง  นายอาทิตย์  เซี่ยงเซี้ยว  กำนันต.แก้มอ้น  อ.จอมบึง  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปทำการสำรวจบ้านเรือนประชาชนใน ต.แก้มอ้น   อ.จอมบึง  จ.ราชบุรี หลังถูกพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีบ้านเรือนประชาชนถุกพายุพัดหลังคากระเบื้องปลิวเสียหายบางบ้านถูกพัดหลังคาหายไปทั้งหลัง  นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านเรือนประชาชนและทับสายไฟฟ้าส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จากการสอบถามนายรัชติกาล  งิ้วทอง  อายุ 44 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 154/2  หมู่ 2  ต.แก้มอ้น  อ.จอมบึง  ก็บอกว่าช่วงที่เกิดเหตุก็อยู่ในบ้าน  ครั้งแรกมีลมพัดหมุนมากระเบื้องหลังคาก็เริ่มขยับ พอครั้งที่สองหลังคากระเบื้องก็เปิดปลิวหายไปเลย  ตกใจมากไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ซึ่งเป็นครั้งแรก  ช่วงเกิดเหตุก็แอบหลบอยู่หน้าบ้านลมพัดอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงพอลมและฝนหยุดตกก็ออกมาดูสภาพบ้านหลังคาหายไปครึ่งหลัง  แถวบ้านก็มีโดนกีนหลายหลังแต่ที่หนักสุดก็จะประมาณ 2 หลัง ส่วน น.ส.นำลาภ  โตเอี่ยม   อายุ 31 ปี  ชาวบ้านในหมู่

พายุพัดกระหน่ำทำบ้านเรือนประชาชนพังกว่า 200 หลัง Read More »

ชาวบ้านโวยตัดไม้ป่าบนภูเขา ผู้ใหญ่บ้านนำฝ่ายปกครองและป่าไม้เข้าตรวจสอบพบไม้ใหญ่ 61 ท่อน ตีตราสีแดงเตรียมเคลื่อนย้าย

พังงา-ชาวบ้านโวยตัดไม้ป่าบนภูเขา ผู้ใหญ่บ้านนำฝ่ายปกครองและป่าไม้เข้าตรวจสอบพบไม้ใหญ่ 61 ท่อน ตีตราสีแดงเตรียมเคลื่อนย้าย เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 มีนาคม 2568 นายธีระยุธ ตันสกุล ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้ป่าจำนวนมากบนภูเขาพื้นที่บ้านต้นปาบ ม.1 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จึงแจ้งไปยังนายอำเภอเมืองพังงา  ก่อนที่นายอภิเชษฐ์ ไพฑูลย์ ปลัดอำเภอเมืองพังงา พร้อมด้วยนายประวิทย์ ช่วยหมุด หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พง.1 (พังงา) นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบกองไม้ขนาดใหญ่จำนวน 61 ท่อน ความยาวท่อนละประมาณ4-5 เมตร มีการตอกเลขพ่นสีแดงไว้เพื่อเตรียมเคลื่อนย้าย และได้พบคนตัดไม้ที่นำเอกสารสิทธิ์มายืนยันว่าไม้ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เอกสารสิทธิ์และหัวสวน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจนับไม้ วัดขนาด และให้คนตัดขึ้นไปนำชี้ตอไม้ที่ตัดทั้งหมด เพื่อทำการตรวจพิกัดว่าอยู่ในพื้นที่เอกสารสิทธิ์หรืออยู่ในเขตป่า เพื่อที่จะดำเนินการต่อไป ขณะที่การตอกหมายเลขหน้าไม้นั้น ทางเจ้าที่ป่าไม้ยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่มาตอกให้ ทางผู้ตัดอ้างว่าตอกเพื่อการนับ ขณะที่จากการตรวจสอบด้วยภาพถ่ายมุมสูง พบว่าในป่าด้านบนที่อยู่เหนือสวนยางพารา เป็นพื้นที่ลาดชันอยู่บนภูเขาแนวภูเขาช้าง มีร่องรอยเบิกทางขึ้นไปตัดไม้ละเคลื่อนย้ายไม้ลงมา ซึ่งในพื้นที่ป่าแนวภูเขาช้างนั้นเป็นป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มีการบุกรุกเข้าครอบครองทำผลประโยชน์และออกเอกสารสิทธิ์แล้วเป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันสภาพป่าเหลือน้อยเต็มที

ชาวบ้านโวยตัดไม้ป่าบนภูเขา ผู้ใหญ่บ้านนำฝ่ายปกครองและป่าไม้เข้าตรวจสอบพบไม้ใหญ่ 61 ท่อน ตีตราสีแดงเตรียมเคลื่อนย้าย Read More »

ป่าไม้ร่วมทัพ 3 คุมพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า ประกาศปิดป่าตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติพื้นที่แพร่-น่าน

สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในจังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน มีความหนาแน่นของฝุ่นละอองอยู่ในระดับมีผลต่อสุขภาพ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ซึ่งถ้าไม่มีฝนตกลงมาช่วยสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดแพร่และจังหวัดน่านจะรุนแรงมากขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ล่าสุดสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13(แพร่)นำโดยนายกรัณย์พล แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 นายมานะ จิตรฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3(สาขาแพร่) วางแผนจัดการไฟป่าเชิงรุกบูรณาการความร่วมมือระหว่างหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า ชุดปฏิบัติการพิเศษไฟป่า(เสือไฟ) หน่วยป้องกันสถานีไฟป่า ชุดสนับสนุนการควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่ภาคสนามท้องที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่านรวมทั้งกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันโดยใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียมวิเคราะห์จุดความร้อน (hotspot)ในปีพ.ศ 2566 พ.ศ 2567 นำมาเปรียบเทียบคาดการณ์การเกิดจุดความร้อนในปีพ.ศ 2568 วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า จากนั้นได้สนธิกำลังเข้าแก้ไขปัญหาตามพื้นที่เป้าหมาย ส่งทีมเข้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มข้นร่วมกับกำลังทหารกองทัพภาคที่ 3 ทำการประชาสัมพันธ์รณรงค์เคาะประตูบ้าน ลาดตระเวนเฝ้าระวังการเกิดไฟป่ามีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าโดยเน้นใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติพ.ศ 2562 มาตรา 19 ( 1)ห้ามมิให้บุคคลใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดยึดถือหรือครอบครองที่ดินก่อสร้างแพ้วถาง เผาป่าหรือกระทำการประการใดใด ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมหากบุคคลใดฝ่าฝืนกระทำผิดมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 41 ผู้ใดยึดถือหรือครอบครองที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่าหรือกระทำด้วย ประการใดๆให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยานแห่งชาติสวนพฤกษศาสตร์หรือสวนรุกขชาติอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 19(1)ต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปีหรือปรับตั้งแต่ 4 แสนบาทถึง 2 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ป่าไม้ร่วมทัพ 3 คุมพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า ประกาศปิดป่าตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติพื้นที่แพร่-น่าน Read More »

สตง.ขีดเส้น 180 วัน สอบ “7 ชั่วโคตร” ย้ำพบพิรุธหลายประเด็น

ปัญหาโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำและโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งจำนวน 8 โครงการ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย งบประมาณก่อสร้างรวม 545 ล้านบาท “หรือที่ชาวบ้านประณามว่าเป็นโครงการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร” เป็นการอนุมัติงบก่อสร้างทีละโครงการตั้งแต่ปี 2562-2565 แต่ผู้รับจ้างไม่สามารถก่อสร้างให้เสร็จแม้แต่โครงการเดียว เพื่อป้องกันความเสียหาย กรมโยธาฯ จึงได้ยกเลิกสัญญาทั้งหมดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 แต่การตรวจสอบพบปัญหาในการบริหารสัญญา การเบิกจ่ายเงินแอดวานซ์ ค่างวดงานรวมมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท ทำให้เมื่อปลายเดือนมกราคม 2568 กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ประกาศเวียนห้างให้ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ ผู้รับจ้างโครงการพวกนี้ เป็นผู้รับจ้างทิ้งงาน มีผลให้หมดสิทธิ์เข้ารับงานจากภาครัฐทุกกรณี ขณะเดียวกัน สตง.กำลังเดินหน้าไล่เบี้ยพิทักษ์เงินแผ่นดิน ขณะที่ กมธ.ปปช.ฯ ยังคงเร่งตรวจสอบการเอกสาร ท่ามกลางความขมึงตึง ในทุกภาคส่วนเนื่องจากผู้อยู่เบื้องหลัง 2 หจก.จัดเป็นขาใหญ่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ การตรวจสอบเพื่อลงลึกถึงปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐ ทำด้วยความยกลำบาก และมีความพยามในการด้อยค่าการทำงานของฝ่ายตรวจสอบ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า ปัญหาการตรวจสอบโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ทั้ง

สตง.ขีดเส้น 180 วัน สอบ “7 ชั่วโคตร” ย้ำพบพิรุธหลายประเด็น Read More »

ศรีสงครามรวมพลัง! ปล่อยปลาบึกยักษ์คืนความอุดมสมบูรณ์หนองหญ้าม้า

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2568 ณ หนองหญ้าม้า บ้านท่าบ่อ ตำบลท่าบ่อสงคราม และบ้านนาหนองยาว ตำบลบ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ได้เกิดปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งสำคัญในการฟื้นฟูแหล่งน้ำและระบบนิเวศ โดยพระครูศิริปัญญาวิชัย เจ้าคณะอำเภอศรีสงคราม พร้อมด้วยนางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม นายสังเวียน นามธรรม ประมงอำเภอฯ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าบ่อ กำนันตำบลท่าบ่อสงคราม ผู้ใหญ่บ้านท่าบ่อ คณะเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม และคณะกรรมการบริหารจัดการแหล่งน้ำ ได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาบึกจำนวนมากสู่หนองหญ้าม้า การปล่อยพันธุ์ปลาบึกครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่ยังเป็นการสร้างความสมดุลของระบบนิเวศ เนื่องจากปลาบึกเป็นปลากินพืชและตะกอน ซึ่งจะช่วยควบคุมปริมาณแพลงก์ตอนและตะกอนในน้ำ ทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้น นอกจากนี้ คณะผู้ร่วมงานยังได้เตรียมคอกปุ๋ยหมักเพื่อให้เกิดแพลงก์ตอนพืช ซึ่งจะเป็นอาหารธรรมชาติสำหรับปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ ในหนองหญ้าม้า นางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม กล่าวว่า \”การปล่อยพันธุ์ปลาบึกและเตรียมคอกปุ๋ยหมักในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำหนองหญ้าม้า เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารและแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของชุมชน\” ด้านนายสังเวียน นามธรรม ประมงอำเภอฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า \”ปลาบึกเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่และมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ การปล่อยพันธุ์ปลาบึกในครั้งนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนจากการทำประมงในอนาคต\” การรวมพลังของทุกภาคส่วนในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชาวอำเภอศรีสงคราม ซึ่งจะเป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาแหล่งน้ำและชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

ศรีสงครามรวมพลัง! ปล่อยปลาบึกยักษ์คืนความอุดมสมบูรณ์หนองหญ้าม้า Read More »

พายุพัดกระหน่ำทำต้นไม้ แผงโซล่าเซลล์และกระเบื้องหลังคาโบสถ์ปลิวว่อน

ราชบุรี  ในวันนี้(14 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากลูกศิษย์ของวัดป่าท่ามะขามซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ 2  ต.ตะนาวศรี  อ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี  ว่าที่วัดถูกลมพายุพัดกระหน่ำจนทำให้กระเบื้องหลังคาอุโบสถปลิวตกลงมาจำนวนมาก  รวมทั้งแผ่นโซล่าเซลล์ที่ใช้กับแสงสว่างและเครื่องสูบน้ำภายในวัดได้ปลิวตกลงมาแตกเสียหายทั้งหมด ทำให้ตอนนี้วัดเกิดปัญหาต้องไปขอต่อไฟฟ้ามาใช้กับเครื่องสูบน้ำและแสงสว่าง  เนื่องจากตัววัดนั้นอยู่บนเขาสูง  นอกจากนี้ยังมีต้นไม้หักโค่นอีกหลายต้น  ชาวบ้านได้มาช่วยกันทำความสะอาดและนำต้นไม้และกิ่งไม้ออกไปทิ้งบ้างแล้ว  จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่าแผ่นโซล่าเซลล์จำนวน 6 แผ่นตกลงมาจากหลังคาเจดีย์ที่เก็บอัฐิของอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าฯตกลงมากระแทกพื้นแตกใช้การไม่ได้ โครงป้ายเหล็กก็ถูกพัดจนหลุด  นอกจากนี้กระเบื้องบนหลังคาอุโบสถก็ถูกลมพัดจนปลิวหายไป  ทางชาวบ้านต้องช่วยกันนำแผ่นสังกะสีขึ้นไปปิดไว้เป็นการชั่วคราวเพราะเกรงว่าอาจจะมีฝนตกลงแล้วน้ำไหลเข้าไปในตัวอุโบสถ จากการสอบถามพระใบฎีกา แดง   อภิปุณโญ  เจ้าอาวาสวัดป่าท่ามะขามก็บอกว่า ช่วงที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่วัดแต่มีคนงานที่วัดโทรศัพท์ไปบอกว่ามีพายุพัดทำให้มีต้นไม้หักโค่น  แผงโซล่าเซลล์ปลิวตกลงมาแตกหมดเลย  จึงเดินทางกลับมาที่วัดก็พบว่าหนักกว่าที่คิดไว้เพราะต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก โชคดีที่พอมีชาวบ้านรู้ข่าวก็มาช่วยกันตัดและเก็บออก ตั้งแต่มาจำวัดที่นี่ช่วงประมาณปี พ.ศ.2540  และปีพ.ศ.2541  ก็มีพายุพัดเหมือนกันแต่ครั้งนั้นไม่ได้หนักเหมือนครั้งนี้  ทางคณะกรรมการเคยขอให้ตัดต้นไม้ออกบ้าง  แต่อาตมานั้นเสียดายเพราะเป็นคนชอบต้นไม้มากและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ สิ่งที่เสียหายหนักตอนนี้ก็จะมีแผงโซล่าเซลล์  กระเบื้องหลังคา แล้วก็ใบเสมา  ซึ่งไม่รวมต้นอีกหลายสิบต้น  ซึ่งก็มีนายอำเภอสวนผึ้งมาดูแล้วและให้ทาง อบต.ตะนาวศรีมาประเมินและลองหาวิธีในการที่จะซ่อมแซมแล้ว  ตอนนี้ทำได้เพียงทำนำสังกะสีไปปิดหลังคาไว้ไม่ให้น้ำเข้าหากฝนตกลงมาเพราะด้านในอุโบสถนั้นมีการต่อไฟฟ้าและมีอุปกรณ์อีกหลายอย่างก็กลัวว่าจะเสียหายไปด้วย   ส่วนด้านล่างซึ่งเป็นตลาดโอ๊ะป่อยซึ่งเป็นตลาดริมลำธารที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีก็ได้รับผลกระทบด้วยเพราะมีต้นไม้โค่นล้มหลายคน  ชาวบ้านก็ได้ช่วยกันพัฒนาซึ่งวันเสาร์-อาทิตย์ นี้ก็สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้เหมือนเดิม  ซึ่งหากใครที่จะร่วมบุญหรือบริจาคปัจจัยในการที่จะมาซ่อมแซมหลังคาอุโบสถ  ใบเสมา และจัดซื้อแผงโซล่าเซลล์ใหม่ก็สามารถติดต่อได้ที่วัดป่าท่ามะขาม  หรือสามารถโทรสอบถาม 0622866507  พระใบฎีกา แดง   อภิปุณโญ  เจ้าอาวาส

พายุพัดกระหน่ำทำต้นไม้ แผงโซล่าเซลล์และกระเบื้องหลังคาโบสถ์ปลิวว่อน Read More »

ครบรอบ 59 ปี เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อนแห่งแรกของ กฟผ. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

           เขื่อนอุบลรัตน์มีชื่อเดิมว่า “เขื่อนพองหนีบ” เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของประเทศไทยที่สร้างขึ้นต่อจากเขื่อนภูมิพล และเป็นเขื่อนพลังน้ำแห่งแรกของ กฟผ. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 25.20 เมกะวัตต์            เขื่อนอุบลรัตน์ นอกจากสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เฉลี่ยปีละ 26 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย            ด้านการเกษตรกรรม : ส่งน้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูกในบริเวณใกล้เคียง สามารถทำการเพาะปลูกในฤดูฝน ประมาณ 264,000 ไร่ และในฤดูแล้ง ประมาณ 170,000 ไร่           ด้านการเพาะปลูก : ใช้น้ำรอบอ่างเก็บน้ำด้านเหนือน้ำ พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการส่งน้ำทั้งหมดประมาณ 124,000 ไร่       

ครบรอบ 59 ปี เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อนแห่งแรกของ กฟผ. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ Read More »

ป่าไม้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านบุกจับแก๊งลักลอบตัดไม้ใหญ่ในป่า ได้แต่รถกับไม้

ราชบุรี ในวันนี้( 14 มี.ค. 68) นายหาญชัย  จิตสุวรรณ  ผู้ใหญ่บ้าน ม.9  ต.จอมบึง  อ.จอมบึง  จ.ราชบุรี  และเป็นประธานป่าชุมชนบ้านเขาล้าน  ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบที่บริเวณป่าเขาบิน  ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติเนื่องจากเมื่อช่วงสายนั้นได้ร่วมกับนายธีรภัทร์  ชื่นชมน้อย  นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการ  และกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมแก๊งลักลอบตัดต้นไม้ใหญ่  แต่ตัวผู้กระทำความผิดนั้นได้วิ่งหลบหนีไปทิ้งไว้เพียงรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเทาดำ  หมายเลขทะเบียน  ขงต-405  ราชบุรี ที่บรรทุกท่อนไม้เอาไว้เต็มรถ  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง  และพบว่าในพื้นที่นั้นถูกไฟป่าเผาและมีต้นไม้ขนาดใหญ่นั้นถูกลักลอบตัดไปหลายต้นคาดว่าน่าจะเป็นแก๊งมอดไม้แอบเข้ามาจุดไฟเผาป่าเพื่อให้โล่งเตียน  จากนั้นได้เข้ามาลักลอบตัดต้นไม้ทิ้งเอาไว้  ก่อนจะนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเข้ามาทยอยขนออกไป  ซึ่งเป็นการ้างความเสียหายให้กับ่าไม้เป็นจำนวนมาก โดยนายหาญชัย  จิตสุวรรณ  ผู้ใหญ่บ้าน ม.9  และเป็นประธานป่าชุมชนบ้านเขาล้าน  ก็บอกว่า ในวันนี้เป็นวันที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะออกสำรวจป่าร่วมกับชุมชนประกอบกับเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยินเสียงเลื่อยเครื่องดังขึ้นในป่าเมื่อมาสำรวจป่าบริเวณนี้ก็ไปพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างบรรทุกไม้เต็มรถเตรียมจะออกจากป่า  จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม  แต่คนขับรถซึ่งเป็นชายได้ทิ้งรถและวิ่งหนีเข้าป่าไปเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดรถไว้และเตรียมนำรถเข้ามาบรรทุกท่อนซุงที่แก๊งมอดไม้ลักลอบตัดเอาไว้แล้วออกไปเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานป่าไม้อ.จอมบึง ซึ่งขณะที่คนร้ายวิ่งหนีเข้าป่าไป  ก็ยังตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ท้าทายให้เจ้าหน้าที่ติดตามไปจับกุม แต่ทางเจ้าหน้าที่เกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายจึงไม่ได้ติดตามไปเพราะป่าบริเวณนี้กว้างมากมีพื้นที่มากกว่า 500 ไร่ และตะโกนก้องป่าว่าจะตัดเผาป่าและจะตัดไม้ไม่ให้เหลือซึ่งที่ผ่านมาเมื่อปีที่ผ่านมาก็เคยมีคนเข้าลักลอบตัดแต่ไม่ใช่คนในพื้นที่เพราะคนในพื้นที่นั้นจะมานำเศษกิ่งไม้ไปทำฟืนเราก็จะอนุโลมแต่หากมาตัดต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ถือว่าเป็นการหยามกันมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าลักลอบตัดไม้ในป่าสงวนแห่งชาติพร้อมทั้งทำบันทึกส่งสภ.จอมบึง  เพื่อให้ช่วยสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ป่าไม้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านบุกจับแก๊งลักลอบตัดไม้ใหญ่ในป่า ได้แต่รถกับไม้ Read More »