สิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่ผ่านมา War Room อ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บริเวณถนนเลี่ยงเมืองลำปาง ด้านหลังปั๊ม PT (บ้านโทกหัวช้าง ต.พระบาท) จึงขอรายงานผลการปฎิบัติ ดังนี้ – เป็นพื้นที่ไร่กัญชง (เดิม) และเป็นพื้นที่รกร้าง – เสียหายประมาณ 40 ไร่ – ดับไฟแล้วเสร็จเวลาประมาณ 21.40 น. – กำลังเจ้าหน้าที่ ทม.เขลางค์ จำนวน 18 นาย , รถบรรทุกน้ำ 4 คัน , รถตรวจการณ์ดับเพลิง 1 คัน , สมาคมกู้ภัยลำปาง สาเหตุ ไม่ทราบ เนื่องจากเป็นพื้นที่การเกษตรใกล้ชุมชน War Room อ.เมืองลำปาง ได้มอบหมายเกษตรอำเภอเมืองลำปาง ดำเนินการตามมาตรการต่อไป

จากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ วัดดอยม่วงคำ ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมืองลำปาง และเกิดการลุกลามเข้าไปในป่าชุมชน เขตบ้านแม่ทะ ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ทั้งนี้โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนร่วมลงพื้นที่ดับไฟและสกัดกั้นมิให้ขยายวงกว้างนั้น ด้วยความห่วงใยและให้ความสำคัญต่อสถานการณ์ดังกล่าวนั้น เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น. พลตรี วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 32 ได้จัดจิตอาสา 904 และกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 32 ลงพื้นที่ร่วมกับเทศบาลเมืองเขลางค์นคร และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ นำสิ่งของเช่น อาหารแห้ง, น้ำดื่ม สนับสนุนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต และเจ้าหน้าที่ประจำชุด ประชาชนจิตอาสา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่า ณ บริเวณพื้นที่จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านกล้วยแพะ และจุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านหัวฝาย ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นการป้องกันการลุกลามของไฟป่าเข้าเขตชุมชน อย่างไรก็ตามหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดลำปาง จะยังคงเฝ้าระวังและตรึงกำลังชุดลาดตระเวนดับไฟป่าและพร้อมบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการดับไฟป่าใน พื้นที่จังหวัดลำปางจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและ กลับสู่สภาวะปกติคืนความสุขเพื่อพี่น้องชาวลำปางมีอากาศสดใส ไร้หมอกควัน ต่อไป

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา นายไชยยศ ตั้งวรกุลชัย ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ปฐมทัศน์ จิระเดชะ นายกสมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่งประเทศไทย และ นายยอดศักดิ์ อุณห์ไวทยะ ผู้แทนศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านเทคโนโลยีไฟฟ้ากำลัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนามาตรฐานประสิทธิภาพพลังงาน โคมไฟถนนแอลอีดีเซลล์แสงอาทิตย์ ในโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 เพื่อร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ และสรุปแนวทางการพัฒนามาตรฐานต่าง ๆ ของโคมไฟถนนแอลอีดีเซลล์แสงอาทิตย์ให้มีคุณภาพ ประหยัดพลังงาน และปลอดภัย เป็นการยกระดับมาตรฐานและส่งเสริมการใช้งานโคมไฟถนนแอลอีดีเซลล์แสงอาทิตย์คุณภาพสูงสำหรับผู้บริโภค  ณ สำนักงานใหญ่ กฟผ. จ.นนทบุรี

          เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา นายกำฤทธิ์ ใบแย้ม ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปเป็นประธานเปิดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านแผ่นดินไหว ณ เขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี ภายใต้ความร่วมมือการดำเนินงานด้านแผ่นดินไหวกับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรธรณี และกรมชลประทาน เพื่อบูรณาการข้อมูลโครงข่ายตรวจวัดแผ่นดินไหวระหว่างหน่วยงาน และส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลสารสนเทศด้านแผ่นดินไหวที่มีความถูกต้อง รวดเร็ว และคุ้มค่า สามารถนำไปบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้แทนของแต่ละหน่วยงานเข้าร่วมกิจกรรม

พายุถล่มเต้นท์กว่าร้อยหลังพังยับซึ่งกำลังจัดเตรียมการงานเทศกาลควายไทย โดยมีผู้อยู่ในเหตุการณ์โพสต์เฟซบุ๊กระหว่างลมมาแรงจนต้านไม่อยู่ ส่วนผู้ที่จะนำควายมากระกวดรอลุ้นว่าจะเสร็จทันกำหนดการจัดงานหรือไม่ จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ theeradach pius ได้อยู่ในเหตุการณ์และโพสต์คลิปวีดีโอซึ่งมีลมพายุกำลังถล่มบริเวณแก้มลิงเขื่อนวังร่มเกล้า จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดเตรียมการแข่งขันเทศกาลควายไทยครั้งที่ 13 ซึ่งมีกำหนดการจัดวันที่ 14-16 มีนาคม 2568 นี้ โดยในคลิปนั้นแสดงให้เห็นความแรงของลมที่ผัดกระหน่ำลงมาจนเต้นท์ที่กางไว้พังยับ ซึ่งเหตถการณ์ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 17.00 น.ของวันที่ 12 มีนาคม 2568 หรือช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา ล่าสุดเวลา 07.30 น.วันที่ 13 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจบริเวณจัดงานที่บริเวณแก้มลิงเขื่อนวังร่มเกล้า อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี พบเต้นท์นับร้อยหลังที่ติดตั้งไว้พังราบเป็นหน้ากองซึ่งเหล็กที่ใช้ประกบเต้นท์นั้นมีหักและงอ โดยนับคร่าวๆแล้วกว่า 100 เต้นท์ที่เสียหาย ซึ่งต้องรอเจ้าของเต้นท์นั้นระดมกำลังคนงานมาช่วยกันเก็บซากเต้นท์เพื่อนำของใหม่มาติดตั้ง และหากบางส่วนที่ซ่อมแซมได้ก็จะซ่อมแซมกันไป ซึ่งความเสียหายของเต้นท์นั้นหากคิดเป็นมูลค่ารวมกันแล้วคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ซึ่งเต้นท์ที่นำมากางนั้นมีทั้งเต้นท์ของหน่วยงาน อบต.ต่างๆ และเต้นท์ที่ให้เช่าซซึ่งเป็ฯของเอกชนซึ่งเต้นท์ที่ติดตั้งไว้นั้นเพื่อรองรับกระบือหรือควายจากทั่วประเทศมาแข่งขันความงามกันซึ่งเรียกได้ว่าเป็นงานที่โด่งดังและทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานีนั้นได้ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานีจัดขึ้นทุกปี ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากเกษตรกรที่เลี้ยงควายและนักท่องเที่ยวแห่มาชมกันจำนวนมากทุกปีเลยก็ว่าได้ จากการสอบถามทีมงานที่รับงานเดินไฟประดับตกแต่งในงาน นายชยพล กุลชี อายุ 63 ปี หรือทีมงานช่างเปรี๊ยว บอกว่าอยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานด้วยซึ่งกำลังเดินสายไฟและติดตั้งหลอดไฟตามเต้นท์ต่างๆกับลูกน้องและอยู่ดีๆลมพายุมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากจนถล่มเต้นท์ลงมากระจัดกระจายอย่างที่เห็นกันซึ่งอุปกรณ์ของตัวเองก็เสียหายไปเกือบ 5 หมื่นบาททั้งสายไฟนั้นขาดกระจุยด้วยความแรงของลมรวมถึงหลอดไฟอีกด้วยซึ่งในช่วงเช้านี้ก็ต้องเริ่มเดินสายไฟกันใหม่ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ซึ่งก็ขออย่าให้พายุมาซ้ำอีกเลยเพราะได้มีพยากรอากาศว่าเย็นนี้จะมีฝนและลมมาอีกระลอกหนึ่ง

วันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลา 16.00 น.นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควัน พร้อมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รับฟังปัญหาและสาเหตุสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเถิน อำเภอแม่พริก อำเภอสบปราบ โดยมีนายสมศักดิ์ วัชรธาดาพงษ์ นายอำเภอเถิน นายกองตรี ปิยะวุฒิ พิทักษ์บริบาล นายอำเภอแม่พริก นายฉัตรชัย วงศ์ปริยากร นายอำเภอสบปราบ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ทั้ง 3 อำเภอ เข้าร่วมประชุม เพื่อรายงานสถานการณ์และรับทราบสาเหตุของการเกิดไฟป่า ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปาง ปัจจุบันในหลายพื้นที่ได้ประสบกับปัญหาไฟป่าจึงทำให้สถานการณ์จุดความร้อนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก (จำนวน 18 จุด) อยู่ในอันดับที่ 3 ของภาค และอันดับ 4 ของประเทศ (เวลา 12.59 น.วันที่ 11

วันพุธที่ 12 มีนาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสิงห์บุรี จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่าย ทสม. จังหวัดสิงห์บุรี ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องจัดเลี้ยงเกษรา ร้านเกษรา เบเกอรี่ ถนนสายเอเชีย อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่าย ทสม. จังหวัดสิงห์บุรี ให้มีความเข้มแข็ง สร้างความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจ และเสริมสร้างแนวร่วมภาคประชาชน ยกระดับการมีส่วนร่วมของเครือข่าย ทสม. ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งพัฒนาเครื่องมือและกลไกการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีวิทยากรผู้ให้ความรู้ได้แก่ – สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยนาท 1. น.ส.ญาณิศชาไหล่แท้ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ 2. นายวีรชาติ รอดเมือง นักวิชาการสิ่งแวดล้อมปฏิบัติการ – สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสิงห์บุรี 1. นายก่อเกียรติ กุลหกูล นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ 2.

ตามที่ได้มีการประกาศจังหวัดลำปาง เรื่อง ห้ามเผาป่าและพื้นที่โล่ง ยกเว้นพื้นที่ตามแผน การบริหารจัดการเชื้อเพลิง ประกาศ ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2567 กำหนดให้ทั้ง 13 อำเภอ ในทุกพื้นที่ของจังหวัดลำปาง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ผู้ใดฝ่าฝืนประกาศจังหวัดลำปาง ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามแนบท้ายประกาศ นั้น ด้วยปรากฏว่าสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปาง ในห้วงวันที่ 1 – 5 มีนาคม 2568 ได้เกิดจุดความร้อนในทุกพื้นที่ เป็นอันดับต้นๆ ของภาคเหนือ และในระดับประเทศ และได้มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความแห้งแล้ง การเผาเศษวัชพืช และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ตลอดจนการเผาในพื้นที่โล่งที่มิได้มีการป้องกันจนเกิดการลุกลามเข้าไปในเขตป่า หรือมีเจตนาจุดไฟเผาป่า เพื่อหวังผลประโยชน์อื่นใด สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ป่าไม้โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติเป็นบริเวณกว้าง ก่อให้เกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควัน รวมทั้งปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปกคลุมทุกพื้นที่และมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง

ราชบุรี  ในวันนี้ ( 10 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในหมู่ 12 ต.ปากช่อง  อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ว่าถังประปาขนาดใหญ่ของหมู่บ้านถูกรถปิกอัพพุ่งชนช่วงกลางดึกของวันที่ 23 ม.ค.68 ที่ผ่านมา  ทำให้เสาของถังประปาซึ่งมีทั้งหมด 4 ต้นนั้นหักไป 1 ต้น  โดยมีรถปิกอัพคันที่เกิดอุบัติเหตุนั้นค้ำบันไดต้นเสาอยู่จึงทำให้ถังประปาไม่โค่นล้มลงมา   ซึ่งอุบัติเหตุนั้นเกิดมานานแล้วแต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่มีการดำเนินการ ชาวบ้านเกรงว่าถังประปาดังกล่าวนั้นอาจจะล้มลงมาทับบ้านเรือนทำให้เกิดความเสียหาย  ชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดผวาและไม่กล้าที่ใช้เส้นทางดังกล่าวสัณจร  จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โดยพบว่าถังประปาดังกล่าวเป็นถังปูนขนาดใหญ่ สร้างโดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลก่อนจะให้ยกให้ทางอบต.ปากช่องเป็นผู้ดำเนินการต่อ  มีความสูงมากกว่า 20 เมตร ที่บริเวณเสาด้านหน้าหักไป1 ต้น  โดยมีรถปิกอัพที่เกิดอุบัติเหตุจอดคาใต้เสาอยู่  ซึ่งเป็นภาพที่น่าหวาดเสียวสำหรับประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงและสัณจรผ่านเพราะถังประปานั้นอาจจะล้มลงมาได้ตลอด จากการสอบถามน.ส.สง่า  อุ่นเรือน อายุ 75 ปี ชาวบ้านที่ใกล้กับถังประปา  ก็บอกว่า ถังประปาหมู่บ้านอันนี้สร้างมาแล้วกว่า 30 ปี สร้างขึ้นมาเพื่อกักเก็บน้ำบาดาลที่มีการเจาะแล้วดูดขึ้นไปไว้บนถังก่อนจะปล่อยลงมาให้ชาวบ้านได้ใช้  แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนเสาทาง อบต.เมื่อประมาณ 2 เดือนทำให้คนขับรถตายคาที่  ซึ่งทางเจ้าของรถก็จะมายกรถออกแต่ยกไม่ได้เพราะรถนั้นค้ำต้นเสาที่หักอยู่  ก็มาทำการดูดน้ำในถังสูงออกเพราะถ้าปล่อยไว้ถังก็โค่นลงเพราะถังหนักก็อยากจะให้หน่วยงานนั้นมาเอาถังลงมา เพราะถนนสายนี้มีรถบรรทุกใหญ่ ๆผ่านก็เกรงว่าจะมีสะเทือนทำให้ถังโค่นลงมา และที่กลังอีกอย่างคือช่วงหน้าฝนมีลมแรงเกรงว่าจะพัดถังจนโค่น ซึ่งถ้าถังล้มลงมานั้นน่าจะมีความแรงมาก