สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในจังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน มีความหนาแน่นของฝุ่นละอองอยู่ในระดับมีผลต่อสุขภาพ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ซึ่งถ้าไม่มีฝนตกลงมาช่วยสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดแพร่และจังหวัดน่านจะรุนแรงมากขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
ล่าสุดสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13(แพร่)นำโดยนายกรัณย์พล แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 นายมานะ จิตรฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3(สาขาแพร่) วางแผนจัดการไฟป่าเชิงรุกบูรณาการความร่วมมือระหว่างหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า ชุดปฏิบัติการพิเศษไฟป่า(เสือไฟ) หน่วยป้องกันสถานีไฟป่า ชุดสนับสนุนการควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่ภาคสนามท้องที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่านรวมทั้งกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันโดยใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียมวิเคราะห์จุดความร้อน (hotspot)ในปีพ.ศ 2566 พ.ศ 2567 นำมาเปรียบเทียบคาดการณ์การเกิดจุดความร้อนในปีพ.ศ 2568 วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า จากนั้นได้สนธิกำลังเข้าแก้ไขปัญหาตามพื้นที่เป้าหมาย
ส่งทีมเข้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มข้นร่วมกับกำลังทหารกองทัพภาคที่ 3 ทำการประชาสัมพันธ์รณรงค์เคาะประตูบ้าน ลาดตระเวนเฝ้าระวังการเกิดไฟป่ามีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าโดยเน้นใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติพ.ศ 2562 มาตรา 19 ( 1)ห้ามมิให้บุคคลใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดยึดถือหรือครอบครองที่ดินก่อสร้างแพ้วถาง เผาป่าหรือกระทำการประการใดใด ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมหากบุคคลใดฝ่าฝืนกระทำผิดมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 41 ผู้ใดยึดถือหรือครอบครองที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่าหรือกระทำด้วย ประการใดๆให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยานแห่งชาติสวนพฤกษศาสตร์หรือสวนรุกขชาติอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 19(1)ต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปีหรือปรับตั้งแต่ 4 แสนบาทถึง 2 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
การใช้มาตรการเด็ดขาดดังกล่าวเนื่องจากพื้นที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่านเกิดไฟป่าอย่างรุนแรงส่งผลให้มีหมอกควันฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานดังนั้น เพื่อระงับปัญหาการเกิดหมอกควันจึงมีการประกาศปิดป่าโดยใช้พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติพ.ศ 2562 มาตรา 20บุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยมีบทกำหนดโทษมาตรา 47 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 20 ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามาตรการเข้มงวดในครั้งนี้ดำเนินการพร้อมกับการรณรงค์เคาะประตูบ้านเพื่อการรับรู้ของประชาชนอย่างทั่วถึงในพื้นที่ที่มีการวิเคราะห์ว่าจะเกิดไฟป่ารุนแรงในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ในพื้นที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่านจากพัฒนาการดังกล่าวคาดการณ์ว่าเฉพาะที่จะเกิดขึ้นในปีนี้จะลดลงกว่าทุกปีที่ผ่านมา/