เศรษฐกิจ

นายดาหนัน เหมรา อายุ 70 ปี ชาวบ้าน ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล ใช้พื้นที่ 1 ไร่ครึ่งปลูกมะพร้าวน้ำหอม 150 ต้น มีต้นมะพร้าวอายุประมาณ 30 ปี 120 ต้น และมะพร้าวอายุ 3-5 ปีประมาณ 30 ต้น ซึ่งมะพร้าวดังกล่าวสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวเดือนละไม่ต่ำจาก 10,000 บาท จากการขายมะพร้าวน้ำหอม น้ำมะพร้าว ทางมะพร้าว กล้าพันธุ์มะพร้าว และน้ำตาลจากช่อดอกมะพร้าวทั้งน้ำตาลสดและน้ำตาลเคี่ยวส่งขายลูกค้าสร้างรายได้งาม นายดาหนัน เหมรา กล่าวว่า ตนเรียนรู้การทำน้ำตาลมะพร้าวตั้งแต่อายุ 8 ขวบโดยสืบทอดจากพ่อ และเมื่อพ่อเสียชีวิตลงก็สืบทอดการปลูกมะพร้าวน้ำหอมโดยใช้ที่ดินจำนวน 1 ไร่เศษเนื่องจากพื้นที่ของตนเป็นพื้นที่ติดคลองน้ำเค็ม ทำให้โตเร็วแทบไม่ต้องใส่ปุ๋ย ตนจึงปลูกไว้บริเวณข้างบ้าน ริมบ่อปลา จนตอนนี้มะพร้าวที่ปลูกไว้มีทั้งต้นที่มีอายุมากมีความสูงและต้นที่เพิ่งปลูกไม่กี่ปี แต่มะพร้าวทุกต้นที่มีอยู่สร้างรายได้ทุกต้น ต้นโตที่มีความสูงก็จะเก็บมะพร้าวอ่อนขายโดยมีแม่ค้ามารับลูกละ 7-10 บาท บางวันตนกับภรรยาก็จะเอามาทำเป็นน้ำมะพร้าวส่งขายเป็นถุงๆละ 10 บาท ลูกมะพร้าวที่แก่สุกร่วงลงพื้นก็จะเพาะพันธ์ขายเป็นต้นพันธุ์ละ 150 บาท […]

26 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบราคา หมู-ไก่ ช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ตลาดภาษีซุง  เทศบาลเมืองชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นศูนย์กลางตลาดอาหารสดแหล่งใหญ่ของจังหวัด  ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมใช้ประกอบในพิธีไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ปีนี้ภาพรวมราคาหมู-ไก่ ปรับขึ้นเล็กน้อย นางดวงแก้ว ทิมคล้าย เจ้าของร้านเจ๊หมวยหมูสด  เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นเทศกาลตรุษจีน ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับขึ้นแล้ว จึงต้องขายหน้าร้านปรับราคาขึ้นเล็กน้อยทุกรายการ 5-10 บาท อย่างเช่น หมูสามชั้น จากเดิม 180  บาท/กก. ปรับขึ้นเป็น 190 บาท/กก. ลูกค้าซื้อของน้อยลง เพราะส่วนใหญ่หันไปซื้อของไหว้ที่จัดแบบสำเร็จรูปจากห้างสรรพสินค้า นายวีรวัฒน์ ศุภสิทธิกุลชัย เจ้าของร้านโกตังหมูสด เปิดเผยว่า ราคาหมูปรับขึ้นรับเทศกาลตรุษจีน แต่ขายหน้าร้านราคาปกติ เช่น หมูเนื้อแดง 160 บาท/กก. ซี่โครงอ่อน 190 บาท/กก.  หมูสามชั้น 190 บาท/กก.  หากเราขายแพงลูกค้าก็ไปซื้อเจ้าอื่นหาว่าเราฉวยโอกาส นางสุพัตรา มีสมชัย เจ้าของร้านเจ๊แจ๋ว ไก่สด เปิดเผยว่า ราคาไก่ทั้งตัวพร้อมเครื่องใน

สตูลประชาชนแห่ซื้อหมูพาณิชย์ราคาถูกเตรียมรับตรุษจีน ที่บริเวณหน้าสมาคมจงหัว ชาวบ้านจำนวนมากรอเข้าคิวซื้อสินค้าตรุษจีนราคาถูก ซึ่งเป็นโครงการของสำนักงานพาณิชย์ที่เปิดโครงการ “พาณิชย์สืบสานเทศกาลตรุษจีน เชื่อมโยงการจำหน้าสินค้าและกระตุ้นการบริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 26-27 ม.ค.68 ซึ่งเป็นช่วงวันจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้บรรยากาศบริเวณดังกล่าวคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า หลังจากเปิดขายเวลา 07.00 น.ปรากฏว่ามีคนรอเข้าแถวซื้อของเป็นจำนวนมาก สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นสินค้าที่จำเป็นสำหรับการไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดมาก เช่นหมู ทุกส่วนขายในราคา ก.ก.ละ 120 บาทขณะที่ในท้องตลาดราคาขั้นต่ำอยู่ที่ ก.ก.150-180 บาท ไก่สดทั้งตัว ก.ก.60 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 100 บาท กุ้งขาวแวนาไม ก.ก.ละ 150 บาท โดยกำหนดให้ซื้อได้คนละไม่เกิน 2 ก.ก. ซึ่งหมูและไข่ไก่นำมาขายคนแห่ซื้อหมดตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เปิดขาย โดยหมูขายวันละ 165 ก.ก. ไข่วันละ 200 แผง ไก่สดวันละ 110 ก.ก. และกุ้งวันละ 99 ก.ก. ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคที่มาซื้อต่างบอกว่าราคาถูกกว่าท้องตลาดทุกอย่าง อย่างละ

MBM Business Forum 2025 ขับเคลื่อนนักธุรกิจมุสลิมสู่อนาคตที่ยั่งยืน     กรุงเทพฯ – MBM Institute จัดงาน  “MBM Business Forum 2025”  ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจมุสลิมทั่วประเทศและนานาชาติ ภายใต้แนวคิด \”Synergy for Success\” ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือ สร้างเครือข่าย และผลักดันธุรกิจสู่ความยั่งยืน ณ โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักจุฬาราชมนตรี กล่าวเปิดงานในนามตัวแทนจุฬาราชมนตรี โดยกล่าวถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงจริยธรรมเข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจในยุคดิจิทัล พร้อมให้ชุมชนธุรกิจมุสลิมเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจจะยั่งยืนได้ ต้องไม่ละเลยจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจมุสลิม กิจกรรมในงาน MBM Business Forum 2025 ประกอบด้วย การเสวนาและบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจชั้นนำ เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์  ในหัวข้อที่น่าสนใจ ได้แก่  ความท้าทายสู่อนาคตโลกธุรกิจ\” โดย คุณปาจรีย์

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาผลไม้มงคล ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2568 ที่ตลาดสดท่ากลาง เทศบาลนครตรัง ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง พบว่าราคาผลไม้มงคลปีนี้ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย กิโลกรัมละ 1-2 บาท  ส่วนบรรยากาศการจับจ่ายซื้อผลไม้มงคล หรือของไหว้บรรพบุรุษเริ่มคึกคักขึ้น ประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อของใช้เตรียมเทศกาลตรุษจีน จากการสอบถามนางกัญลักษณ์ แก้วเสน อายุ 59 ปี เจ้าของร้านพี่ญาผลไม้สด บอกว่า ตนคาดว่าตรุษจีนปีนี้จะคึกคัก เพราะตอนนี้มีออเดอร์จากลูกค้าและร้านค้ารายย่อยสั่งผลไม้เข้ามาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งผลไม้ยอดนิยมอย่างส้มสายน้ำผึ้งราคาก็ไม่สูงมาก ราคาเริ่มต้นกิโลกรัม 35 บาท สาลี่เริ่มต้นลูก 20 บาท แอปเปิ้ลเริ่มต้นลูกละ 15 บาท องุ่นไร้เมล็ดเริ่มต้นกิโลกรัม 120 บาท สับปะรดเริ่มต้นลูกละ 20 บาท ซึ่งราคาผลไม้ปีนี้ปรับขึ้นเพียงกิโลกรัมละ 1-2 บาท บางชนิดราคาก็ไม่ได้ปรับขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนตนได้สั่งผลไม้นำเข้าจากตลาดผลไม้ในภาคใต้มาขายด้วย ด้านนางสาวสุภิญญา ศรีสุวรรณ อายุ 39 ปี เจ้าของร้านเจ้จอดแตงโม กล่าวว่า ตรุษจีนปีนี้เริ่มคึกคักแล้ว เพราะตอนนี้แม่ค้ารายย่อยมารับซื้อแตงโมจากแผงของตนเพิ่มขึ้น ราคาแตงโมในช่วงตรุษปีนี้ไม่ได้ปรับราคาขึ้นจากช่วงปกติแต่อย่างใด

ที่เทศบาลตำบลแม่แรง อ.ป่าซาง อ.เมือง จ.ลำพูน นายภัทรพล ผัดดวงธรรม นายอำเภอป่าซาง, นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานลำปาง,นายประจักษ์จิตร สายนะที พัฒนาการจังหวัดลำพูน ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน \”มหกรรมผ้าและหัตถศิลป์ ถิ่นลำพูน 2568 วัตถุประสงค์ในการจัดงาน เพื่อประชาสัมพันธ์หัตถกรรมผ้าฝ้ายและงานหัตถศิลป์บ้านดอนหลวง ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและต่อเนื่อง นำไปสู่การกระตุ้นและส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ผลิตสินค้าหัตถกรรมและสินค้าชุมชนในพื้นที่บ้านดอนหลวง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง, เพื่อนำเสนอและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนในชุมชนบ้านดอนหลวง ให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้สัมผัส, เพื่อส่งเสริมการมีรายได้ของภาคประชาชน รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล, เพื่อสร้างการรวมพลังกันทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อชุมชน สำหรับกลุ่มเป้าหมายโครงการได้แก่ ประชาชน นักท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูน และ จังหวัดใกล้เคียงภาคเหนือ, ผู้ประกอบการ ร้านค้าในบริเวณบ้านดอนหลวง และตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน, หน่วยงานราชการทั้งภาครัฐ เอกชน, ประชาชน ผู้ประกอบการ บ้านดอนหลวง และตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จะมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ผ้าทอและงานหัตถศิลป์เพิ่มขึ้นและต่อเนื่องตลอดปี นักท่องเที่ยวรู้สึกสนใจแวะมาท่องที่ยวและซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือและหัตถศิลป์บ้านดอนหลวง, รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและการแสดงของชุมชนบ้านดอนหลวง ให้สืบทอดไปยังคนในชุมชนอย่างยั่งยืนส่งเสริมนโยบายของรัฐบาลตามโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์สินค้าท้องถิ่นให้มีคุณภาพ และ

แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว​วัย 67 ปี สุดดีใจ ได้เงินหมื่นเฟส2 ตั้งใจเอามาต่อยอดลงทุนขายของต่อ เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลง วันจันทร์ที่ 27 มกราคม​ นี้ ผ่านแอปทางรัฐ ส่งผลให้ผู้สูงอายุที่ตรวจสอบสิทธิ์​ผ่านโครงการ เตรียมรอรับเงินก้อนดังกล่าวนี้กันด้วยความดีใจ อย่างเช่น ป้าปิ๋น อายุ 67 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว​ในหมู่บ้าน ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง​ จังหวัดอุทัยธานี​ เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเงินโครงการ​นี้แล้วด้วยเช่นกัน โดย ป้าปิ๋น เปิดเผยว่า ตนเองนั้นใช้มือถือ​ไม่เป็นเลยใช้มือถือ​ของลูกลงทะเบียน​ และตรวจสอบสิทธิ์​ผ่านได้เงิน 10,000​ บาท เฟส 2 นี้กับเขาแล้วด้วยเช่นเดียวกัน รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเงินก้อนนี้ โดยตั้งใจว่าจะนำเงินก้อนนี้มาไว้ต่อยอดขายก๋วยเตี๋ยว​ เพราะเป็นอาชีพเดียว​ที่ทำให้มีรายได้หาเลี้ยงตัวเอง และยังพอทำไหวอยู่ในตอนนี้ โดยที่ร้านยังขายก๋วยเตี๋ยว​ในราคาเพียงชามละ 25 บาท พิเศษ​ 30 บาทเท่านั้น เพราะทุกวันนี้คนก็มีรายได้กันไม่มาก

หมูขึ้นราคารับตรุษจีนกิโลละ 10 บาท แถมไก่ไทยขึ้นมากิโลกรัมละ 20 บาท เนื่องจากอากาศหนาวไก่นั้นตายกันเป็นระนาวแต่ความต้องการบริโภคนั้นมีเยอะ เวลา 07.00 น.วันที่ 23 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดเทศบาล 2 อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานีหลังพบว่าราคาเนื้อหมูนั้นเริ่มขยับขึ้นแล้ว โดยนางสาวอุบลรัตน์ กาญจอุทัย แม่ค้าเจ้าของเขียงหมูเปิดเผยว่าตอนนี้รคาคาหมูเป็นหน้าฟาร์มขยับขึ้นก่อนตรุษจีนแล้วทางเราก็จำเป็นจะต้องขึ้นหรือขยับราคาตามกันไปหากไม่ขึ้นก็ต้องแบต้นทุนหรือไม่ได้กำไรเลยตอนนี้ราคาหมูเนื้อแดง จากเดิมกิโลกรัมละ 150 บาท ตอนนี้ขึ้นมา 160 บาท ส่วนเนื้อหมูสันในจากเดิมราคา 170 บาท ขึ้นมาเป็น180 บาท  สันนอกจากเดิมกิโลกรัมละ 150  ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมบะ 160 บาทหมู 3 ชั้น จากเดิมกิโลกรัมละ 190 ตอนนี้ กิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนซี่โครงจากราคาเดิมกิโลกรัมละ 190 บาท ก็ขึ้นมาเป็ฯกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งบรรดาแผงหมูที่อยู่ใลตลาดบอกว่าลูกค้าที่มาซื้อก็บ่นกันระนาวว่าขึ้นครั้งละ 10 บาทกันเลยทีเดียวแต่ก็อธิบายเหตุผลของการขึ้นไปว่าทางเขียงนั้นไม่ได้ขึ้นเองเนื่องจากราคาหมู่ป็นก่อนเชือดหน้าฟาร์มขึ้นมาแบบนั้นก็ต้องขยับตามหากไม่ขึ้นก็ต้องแบบต้นทุนไว้หรือขายขาดทุนแน่นอน และแน่นอนเป็นไปตามที่คาดไว้พอหลังจากที่กมูขึ้นราคาตลาดนั้นก็แทบจะไม่มีคนเดินเลยเพราะหนีไปซื้อหมูของร้านขายติดแอร์หรือร้านที่ทันสมัยกว่า (เช่นของซีพี)