ภัยพิบัติ

วันที่​ 7 พ.ค.​ 68 ที่จังหวัด​นครพนม นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่อำเภอธาตุพนมอย่างเร่งด่วน หลังเกิดเหตุวาตภัยพัดกระหน่ำเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ส่งผลให้เสาไฟฟ้าหักโค่นถึง 26 ต้น และบ้านเรือนประชาชนในตำบลพระกลางทุ่ง หมู่ 3 และ 12 ได้รับความเสียหาย 3 หลังคาเรือน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 13.30 – 14.30 น. สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างเนื่องจากเสาไฟฟ้าล้ม ทันทีที่รับทราบสถานการณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้สั่งการให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาเสาไฟฟ้าที่โค่นล้ม เพื่อให้ประชาชนกลับมามีไฟฟ้าใช้ได้โดยเร็ว กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ได้ออกประกาศแจ้งเตือนทุกอำเภอให้เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจเกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล และกำลังพล เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากได้รับการร้องขอ ขณะนี้ สถานการณ์วาตภัยในพื้นที่จังหวัดนครพนมได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบต่อไป โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

สุราษฎร์ธานี-สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี และโรงแรมไดมอนด์พลาซ่า ติดตามการทดสอบสัญญาณเตือนภัยพิบัติ cell broadcast พร้อมทั้ง จัดการฝึกซ้อมอพยพกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน     บรรยากาศการทดสอบ การแจ้งเตือนภัยพิบัติด้วยระบบ cell boardcast ระดับกลาง พื้นที่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ที่จุดโรงแรมไดมอนต์ พลาซ่า ซึ่งเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในจังหวัด มีถึง 21 ชั้น โดยเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 7 พฤษภาคม 2568 ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณโรงแรม ทั้งพนักงานโรงแรม และผู้มาใช้บริการ ต่างได้รับสัญญาณและขอความแจ้งเตือนพร้อมกัน ตามเวลา   นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงผู้ประกอบการโรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จัดการฝึกซ้อมรับมือภัยพิบัติ ด้วยการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ตึก หลังได้รับสัญญาณแจ้งเตือน ตามแผนเผชิญเหตุของโรงแรม ซึ่งทางโรงแรมได้จัดเจ้าหน้าที่ เดินถือธงนำพนักงานและผู้มารับบริการออกจากโรงแรมทางประตูต่างๆ เพื่อไปยังจุดรวมพล และภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ มีข้อเสนอแนะอยากให้ระบบดังกล่าวมีสัญญาณเตือนดังนานมากกว่า 8 วินาที หรือมีการแจ้งเตือนซ้ำ

สระแก้ว – เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังสินค้าตู้แช่มือสองและร้านรับซื้อของเก่า พบเปลวเพลิงโหมลุกไหม้ และมีกลุ่มควันปกคลุมเมืองสระแก้วกว่า 10 กม. ในพื้นที่ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว  เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 7 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สาโรจน์ บุบผา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งจุดเกิดเหตุตั้งอยู่ริมถนนสาย 359 (สระแก้ว-เขาหินซ้อน) และปั๊ม ปตท.สาขาถนนสาย 359 เมืองสระแก้ว จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า จุดเกิดเหตุเป็นร้านรับซื้อของเก่าและตู้แช่มือสอง \”นุกูล\” เลขที่ 99/9 หมู่ 7 ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โดยร้านดังกล่าวประกอบกิจการ จำหน่ายสินค้ามือสอง ประเภทตู้แช่ เหล็ก โลหะ พลาสติกและโฟม เป็นต้น พร้อมทั้งประสานรถบรรทุกน้ำดับเพลิงจากเขตใกล้เคียงและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนกว่า 20 คัน

  เมื่อเวลา 13:20 น. วันนี้ (7 พฤษภาคม 2568) เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญ เมื่อพายุฝนฟ้าคะนองและลูกเห็บขนาดใหญ่ ถล่มอย่างหนักในพื้นที่ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม โดยเฉพาะในพื้นที่ บ้านบุ่งฮี หมู่ 3 ตำบลพระกลางทุ่ง ก่อนเกิดเหตุ สภาพอากาศอบอ้าวจัด จู่ๆ ก็เกิดลมกระโชกแรง ตามมาด้วยพายุลูกเห็บกระหน่ำนานประมาณ 20 นาที แรงลมหมุนได้พัดกระหน่ำ เสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนน 4 เลน สายนครพนม-ธาตุพนม หักโค่นล้มระเนระนาดถึง 26 ต้น ตั้งแต่หน้า องค์การบริหารส่วนตำบลพระกลางทุ่ง ไปจนถึง โค้งปากทางเข้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 เป็นระยะทางยาวกว่า 900 เมตร ส่งผลให้กีดขวางการจราจรถึง 2 ช่องทาง และทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างหลายจุด นายอ่อนศรี พรหมอารักษ์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าด้วยความตกใจว่า ก่อนเกิดเหตุ ท้องฟ้ามืดครึ้ม จากนั้นก็เกิดพายุลูกเห็บตกอย่างรุนแรง

ชัยภูมิ – ชาวตำบลหนองนาแซง หน่วยงานภาคเอกชนร่วมชาวบ้านจิตอาสาในพื้นที่เร่งออกมาช่วยกันเก็บ-กำจัดผักตบชวาในบึงหนองนาแซงที่มีพื้นที่รับน้ำและเก็บน้ำได้กว้างกว่า 1,000 ไร่ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ฝนเริ่มตกหนักลงมาต่อเนื่องในพื้นที่ช่วงนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์เสี่ยงเกิดน้ำท่วม-ภัยแล้ง ในปีนี้ให้มีผลกระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ในปีนี้ ( 4 พ.ค.68 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ขณะที่ช่วงนี้ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือนว่าในพื้นที่ภาคอีสาน หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ จะมีพายุฤดูร้อนฝนฟ้าคะนองตกหนักลงมาในพื้นที่ต่อเนื่องไปตลอดช่วงเดือน พ.ค.68 นี้ และขณะที่มีรายงานจาก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 3 (สทนช. 3)  ขอนแก่น คาดการณ์ว่าจะมีฝนในอีสานเดือนพฤษภาคมจะมีปริมาณฝนตกมากมาเร็วกว่าทุกปีช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.ปี68 นี้ และหลังจากนี้เริ่มมีฝนจะลดน้อยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยแล้งยาวไปถึงปีหน้า ซึ่งเป็นสัญญาเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติจะรุนแรงหนักกว่าทุกปี ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและเกิดภัยแล้งอย่างรวดเร็วตามมาในปีนี้ยาวไปจนถึงปีหน้าด้วย ซึ่งขณะที่ได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ชาวตำบลหนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ กลุ่มชาวบ้าน หน่วยงานจิตาสา และยังได้รับความอนุเคราะห์จาก ตัวแทนภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเรือเก็บกำจัดผักตบชวา โดยมี นายอนุชา  เจริญรักษ์ อดีต นายอำเภอเมืองชัยภูมิ ได้ช่วยประสานนำเรือเก็บกำจัดผักตบเข้ามาช่วยให้ชาวบ้านในจุดนี้ด้วยอีกทาง ในการที่ชาวบ้านจิตอาสาในพื้นที่ดังกล่าว ที่จะได้ช่วยกันร่วมแรงร่วมใจกันเร่งออกมาช่วยกันเก็บ-กำจัดผักตบชวาในบึงหนองนาแซงที่มีพื้นที่รับน้ำและเก็บได้มีพื้นที่กว้างกว่า 1,000 ไร่ เพื่อเป็นการเปิดทางระบายน้ำที่มีผักตบชวากีดขวางจำนวนมากในปัจจุบันและเปิดพื้นที่รับน้ำให้ได้จำนวนมากขึ้น

วันที่ 3 พ.ค.68 หลายหน่วยงานของอำเภอเสริมงาม ขังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบบริเวณจุดที่เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำหมู่บ้าน บ้านโป่งน้ำร้อนหมู่ 1 ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง และเป็นสถานที่ที่พักผ่อน เที่ยวชมบ่อน้ำแร่ น้ำพุร้อน และสามารถลวกไข่หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาในพื้นที่ป่าเหนือหมู่บ้านเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 20.00 น.โดยประมาณ เกิดน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายผลกระทบในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้บ่อน้ำพุร้อนติดลำห้วยแม่เสริม พังเสียหายหลายจุด เบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบประมาณ 10 หลัง ถูกเศษดินโคลนไหลเข้าทับถมในตัวบ้าน โชคดีเหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับอันตราย นอกจากนี้น้ำป่าที่ไหลหลากในลำห้วยแม่เสริมยังส่งผลกระทบไปในอีกหลายหมู่บ้าน ชุมชน ที่อยู่ติดลำห้วย ยังอยู่ระหว่างสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่

เชียงราย-การขุดลอกลำน้ำสายตามสัญญาพม่าขุดตั้งแต่หัวฝายไปถึงสะพานแห่งที่ 2 ยังไร้วี่แววขุด  ชุมชน 2 ประเทศอาจจะได้รับผลกระทบน้ำป่าทะลักอีกครั้ง  หลังจากที่ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และคณะพร้อมด้วย พลโทสิริภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่างกองทัพบก นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย และผู้แทนผู้นำท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้างานก่อสร้างแนวป้องกันชั่วคราว-กึ่งถาวร 5 แบบ จากดินโคลนน้ำหลากแม่น้ำสายตั้งแต่บริเวณชุมชนหัวฝาย ชุมชนถ้ำผาจม ชุมชนสายลมจอย ตำบลเวียงพางคำและตำบลแม่สาย อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยใช้การเดินเท้าและใช้เรือสำรวจ โดยในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านนั้นจะเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกลำน้ำสายทั้งหมดตั้งแต่ชุมชนหัวฝายตำบลเวียงพางคำอำเภอแม่สาย ไปจนถึงตำบลเกาะช้างอำเภอแม่สาย ในตอนแรกนั้นฝ่ายไทยเสนอเป็นผู้ขุด แต่ว่าฝั่งประเทศเพื่อนบ้านนั้นการไประชุมกันแล้วเสนอว่าต้องการเป็นผู้ขุดลอกในส่วนนี้เอง   โดยจะเริ่มขุดลอกตั้งแต่เดือนเมษายน 68 แต่จนถึงบัดนี้แล้วเดือนพฤษภาคม  ก็ยังไม่มีการเริ่มขุด อาจเป็นได้จากหลายสาเหตุ เช่นเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในเมียนมา  หรือมีการสู้รบอย่างดุเดือดในบางพื้นที่  ทำให้การขุดลอกลำน้ำสายยังไม่มีการดำเนินการของฝ่ายประเทศเพื่อนบ้าน โดยการขุดลอกของฝ่ายประเทศเพื่อนบ้านอาจจะไม่ทันก่อนฤดูฝน หรือไม่ต้องติดตามดูต่อไป เรื่องนี้ทำให้เกิดกระแสติดตามอย่างกว้างขวางในเขตพื้นที่อำเภอแม่สาย เพราะหากฝั่งไทยทำได้เพียงการทำพนังและอุดทางน้ำที่จะไหลเข้าชุมชน และอาจจะมีการขุดริมตลิ่งใกล้ ๆ แต่แม่น้ำสายตอนนี้ตื้นเขินหมดแล้ว เพราะมีดินทรายตกตะกอนอยู่เต็ม เมื่อมีน้ำบ่าลงมาความเสียหายจะเกิดขึ้นได้ง่าย

เชียงราย-เจ้าหน้าที่ทหารเร่งทำผนังกันน้ำ 5 รูปแบบ พร้อมขอให้ประชาชนที่อยู่ในเขตเช่าธนารักษ์ย้าย  วันที่ 2 พ.ค.2568 เวลา 14.30 น.นายชรินทร์ ทองสุข ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วย พลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมทหารช่างกองทัพบก ได้ลงพื้นที่สำรวจตรวจงานสร้างแนวป้องกันตลิ่งชั่วคราว เพื่อป้องกันแม่น้ำสาย มีน้ำป่าหลากในห่วงฤดูฝนที่ใกล้จะถึงนี้ เพื่อไม่ให้ซึ่งรอยในช่วงน้ำป่าหลากปี 2567 ที่ผ่านมา จนเกิดอุทกภัยเป็นวงกว้าง ในพื้นที่บ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำสาย ไปจนถึงพื้นที่การเกษตร และซ้ำเติมด้วยบอมเลน ที่ถาโถมทับถมบ้านเรือนประชาชนจมไปด้วยดินโคลน มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ระดมกำลังเครื่องจักรอุปกรณ์เข้ามาช่วยเหลือจำนวนมาก พี่น้องประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัย รอจนกว่าสถานกาณ์คลี่คลายสู่ภวะปกติ   พลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมทหารช่างกองทัพบก เผยว่า การก่อสร้างป้องกันอุดรอยรั่ว และสร้างความแข็งแรง ก่อนถึงฤดูฝนนี้เพื่อป้องกันน้ำที่จะทะลังเข้าตอนใน เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่เสี่ยง เช่น บ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย บ้านเกาะทราย บ้านไม้ลุงขน บ้านเหมืองแดง ซึ่งถือเป็นหมูบ้านพื้นที่เสี่ยง ซึ่งเป็นแนวทางเดิมที่เคยทำไว้ก่อนหน้า  โดยแบ่งเป็น 5 แบบ 1.งานก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งด้วยเข็มไอเสียบแผ่น 2.งานเสริมกำแพงกันน้ำ

1 พฤษภาคม 2568 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุโขทัย รายงานความเสียหายจากพายุฝนลมกระโชกแรงในพื้นที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าที่หมู่ 4 และหมู่ 10 ตำบลเขาแก้วศรีสมบูรณ์ มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย จำนวน 3 หลังคาเรือน ทางหน่วยงานท้องถิ่นจึงเตรียมให้ความช่วยเหลือต่อไป ขณะที่หมู่ 5 ตำบลวังลึก อำเภอบ้านด่านลานหอย พบว่ามีเรื่องน่าเศร้าใจ หลังฝนฟ้าคะนองเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฟ้าผ่าฝูงวัวของนายปรีชา  หล้ามูล ที่เลี้ยงไว้บริเวณใต้ต้นไม้ในคอกกลางทุ่ง ตายจำนวน 13 ตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอฯ และ อบต.วังลึก ได้เข้าตรวจสอบเตรียมให้ความช่วยเหลือแล้ว