ภัยพิบัติ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองหนองปรือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุ ไฟไหม้ป่าหลังชุมชนซอยบุญสัมพันธ์ 14 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว สร้างความหวาดวิตกให้กับประชาชนในพื้นที่ บริเวณที่เกิดเหตุเป็น พื้นที่ชุมชน มีร้านค้าตั้งอยู่จำนวนมาก และด้านหลังเป็นป่ารกติดกับบ่อลึก พบว่า เปลวเพลิงกำลังลุกโหมอย่างหนัก เนื่องจากกระแสลมที่พัดแรง ส่งผลให้ไฟลามเป็นวงกว้าง ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกดังกล่าวต่างพากันหวาดกลัวว่าไฟจะลุกลามเข้าสู่พื้นที่อยู่อาศัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำสกัดไฟอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปถึงบ้านเรือนประชาชน แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถดับเพลิงได้สำเร็จ แต่ควันไฟที่หนาทึบกระจายไปทั่วพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อประชาชนในบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมถึงเด็กและผู้สูงอายุที่ต้องสูดดมฝุ่นละอองและเขม่าควัน เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุของไฟไหม้ครั้งนี้ได้ แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าอาจเกิดจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ประกอบกับมีลมพัดแรง ทำให้ไฟปะทุและลุกลามอย่างรวดเร็ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงฝากเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการจุดไฟทิ้งขยะเพื่อลดความเสี่ยงต่อเหตุไฟไหม้ป่าในอนาคต

ระทึกรถดับเพลิงไปดับไฟลามทุ่ง เกิด ผิดพลาด รถติดหล่มถูกไฟคลอกรถเสียหายทั้งคัน

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 28 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่จับกุม นายศราวุธ หรือดูด แช่มอุบล อายุ 40 ปี ตัวมือเผาป่าที่บริเวณเขาพลอง ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท สร้างความเสียหายกว่า 100 ไร่ ไฟเริ่มโหมไหม้ตั้งแต่ค่ำวันที่ 27 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องใช้เวลากว่า 1 วัน จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในช่วงเย็น (28 ม.ค. 2568) โดยแจ้งข้อหาเผาป่าหรือกระทํา ด้วยประการใดๆ อันเป็นการทําลายป่า โดยมิได้รับอนุญาต โทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (ถ้าได้กระทําเกินเนื้อที่เกินกว่า 25 ไร่ จําคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่อำเภอเขาชัยสน ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชน หลังประสบภัยน้ำท่วม พร้อมตรวจพื้นที่แหล่งน้ำทะเลพระ แหล่งน้ำเพื่อการบริโภคและทำการเกษตร วันที่ 27 มกราคม 2568 เวลา 13.30 น. ที่วัดห้วยแตน ตำบลหานโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และคณะลงพื้นที่อำเภอเขาชัยสน ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนหลังประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งพื้นที่ของอำเภอเขาชัยสนนั้น ถูกน้ำท่วมทุกพื้นที่ทั้งหมด จำนวน 5 ตำบล 58 หมู่บ้าน โดยเฉพาะหมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 10 ตำบลหานโพธิ์ ถูกน้ำท่วมสูงประชาชนทุกครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน หน่วยงานทางราชการเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น และเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 จังหวัดพัทลุงได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) พัทลุง และหลังจากน้ำลดลง ทางเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอเข้าสำรวจความเสียหายและความเดือดร้อนของประชาชนโดยทันที ซึ่งประชาชนในพื้นที่ของอำเภอเขาชัยสน ที่ได้รับความเดือดร้อน ได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากรัฐบาล ครอบครัวละ

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 27 ม.ค.68  เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบล กรมทางหลวง ปภ.จังหวัด และเทศบาลเมืองชัยนาท กว่า 20 คัน ระดมดับเพลิงที่ลุกไหม้ป่าบนเขาพลอง ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับสวนนกชัยนาท โดยเพลิงลุกลามลงมาจนเกือบถึงสวนน้ำอวกาศ(หุ่นยนต์ NAKA ROBOT) และอาคารพิพิธภัณฑ์ไข่นก แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการสกัดเพลิงไว้ได้ นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท  เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณเขาพลองตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ยังไม่มากขณะที่เมื่อช่วงเช้ามีลมแรง ทำให้ไฟกระจายออกไปมากยิ่งขึ้น จนช่วงค่ำได้ลามมาจนถึงบริเวณหลังสวนนกชัยนาท จึงได้ประสานระดมรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ นายจิระ ชูแก้ว หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยว อบจ.ชัยนาท เปิดเผยว่า  วิธีการดำเนินงานดับเพลิงวันนี้ ได้นำรถแมคโครไปทำแนวกันไฟส่วนหนึ่งแล้ว และชุดเดินเท้าของท้องถิ่นด้วย และทำแนวกันป้องกันวัดเขาพลองด้วย  สำหรับส่วนที่เป็นไฟติดกระจายอยู่เป็นท่อ PE ซึ่งจะไม่มีผลอะไร ส่วนที่เหลือยังลุกลามอยู่ที่หลังสวนน้ำ เป็นหน้าผาไม่สามารถขึ้นไปดับได้ ใช้วิธีทำแนวกันไฟ และเมื่อไฟลามลงมาใช้น้ำแรงดันสูงยิงขึ้นไปดับ นายจิรศักดิ์ เจริญศิลป์ นายกเทศมนตรีตำบลบางหลวง หัวหน้าทีมผจญเพลิง เปิดเผยว่า  เรามีแผนในการดำเนินงานโดยแบ่งเป็น 2 ชุด คือ เดินเท้า

เชียงราย-คณะกรรมธิการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พร้อมด้วยคณะ ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องการจัดการประหาเรื่องน้ำท่วมอำเภอแม่สาย  วันที่ 26 มกราคม 2568 นายจักรัตน์ พั้วช่วย ประธานคณะกรรมธิการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พร้อมด้วยคณะ ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงาน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการจัดการปัญหาเรื่องน้ำท่วมอำเภอแม่สาย โดยมีนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายให้การต้อนรับ ขณะเดียวกัน ด้านส.ส. หญิง จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม พรรคประชาชน เชียงรายเขต 6 แม่สาย ได้รับการประสานจากประชาชนบ้านผามควายเหมืองแดง โดยได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือร้องปัญหาขอให้ย้าย หรือยกเลิกบ่อบำบัดน้ำเสีย ในพื้นที่บ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย โดยทางชาวบ้านผามควาย กล่าวว่า การก่อสร้างบ่อบัดน้ำเสีย ที่ติดกับหมู่บ้านผามควายเหมืองแดง ก่อเกิดปัญหาน้ำท่วมขังทุกครั้ง  เมื่อมีน้ำเอ่อล้นจากลำน้ำแม่สาย เข้าท่วมขังบ้านผามควายเป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะเกิดจากบ่อบำบัดน้ำเสีย ที่มีความสูงกว่าระดับบ้านผามควายเหมืองแดง ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม มลภาวะทางกลิ่น อันส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพอนามัย  ของชาวบ้านบ้านผามควายเหมืองแดง และหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งหมู่บ้านผามควายเหมืองแดง มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมธิการ ได้เดินทางมารับฟังปัญหา ในการทำงานของหน่วยงาน  ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำไปเสนอการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในอำเภอแม่สาย ซึ่งทางหน่วยงานได้ชี้แจงปัญหาในการทำงาน ทราบว่าที่ผ่านมาได้มีการประชุมไทย-เมียนมา ในการขุดลอกลำน้ำตลอดแนวชายลำน้ำแม่สาย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ม.ค. 2568 พ.ต.ท.ชัชชัย ฟักศรี พนักงานสอบสวน สภ.สรรพยา จ.ชัยนาท รับแจ้งเหตุไฟไหม้โกดังเก็บของเก่าพื้นที่ ม.3 ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท รุดตรวจสอบพร้อมประสานรถดับเพลิง ที่เกิดเหตุ เป็นโกดังเก็บของเก่า มีทั้งเครื่องยนต์ ถังแก้สกว่า 10 ถัง ขวดพลาสติก ลังกระดาษ และอื่นๆ ถูกไฟโหมไหม้จนวอด ไฟลุกไหม้ถึงหลังคา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวน 5 คัน จากเทศบาลตำบลบางหลวง เทศบาลตำบลบ้านกล้วยและพื้นที่ข้างเคียง สลับสับเปลี่ยนช่วยกันสกัดเพลิงไฟไม่ให้ลุกลามไปบ้านเรือนประชาชนรอบข้าง ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นมี รถยนต์กระบะสำหรับบรรทุกของเก่าถูกไฟไหม้วอด และของต่างๆที่เก็บไว้รอขายไหว้จนไม่เหลือชิ้นดี เสียหายกว่า 3 แสนบาท แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมลงพื้นที่เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป นายสมใจ ทรัพย์พืช อายุ 66 ปี เจ้าของโกดัง เผว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังออกไปกินข้าว มองมาเห็นไฟขึ้นสูงเหนือหลังคา จึงรีบกลับบ้านเพื่อมาเอารถกระบะคู่ใจออกมาแต่ก็ไม่ทันเพราะไฟโหมจนร้อนอยู่ไม่ไหวต้องจำใจออกมา ซึ่งปกติก็ทำมาหากินอาชีพนี้มาโดยตลอดไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้

สงขลา – ผู้ว่าฯ แถลงความคืบหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ครัวเรือนละ 9,000 บาท ควบคู่ขับเคลื่อนนโยบาย “เสน่ห์สงขลา” สร้างเศรษฐกิจและพัฒนาเมืองปลอดภัย เตรียมรับมือภัยแล้ง ยืนยันอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จังหวัดสงขลาได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลผ่านการทำงานร่วมกันของหน่วยงานราชการส่วนกลาง 221 หน่วยงาน ส่วนภูมิภาค 34 หน่วยงาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 141 แห่ง โดยมีการประชุมติดตามผลอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน เน้นขับเคลื่อนภายใต้หัวข้อสำคัญ “เสน่ห์สงขลา” ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 23 ครอบคลุม 13 หมุดหมายที่เชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ สังคม เศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อย และทรัพยากรธรรมชาติ ในด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจ จังหวัดสงขลาได้ใช้เอกลักษณ์ความโดดเด่นแต่ละอำเภอ เช่น อำเภอหาดใหญ่ ชูไก่ทอดหาดใหญ่ พระพุทธมงคลมหาราช และน้ำตกโตนงาช้าง อำเภอเมืองสงขลาโดดเด่นด้วยนางเงือกทอง อำเภอสทิงพระมีวัดจะทิ้งพระและวัดพะโคะ ส่วนอำเภอกระแสสินธุ์มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

ส.ส.นิติศักดิ์ ธรรมเพชร ลงพื้นที่ช่วยเหลือบ้านทรุดที่ทะเลน้อย หลังน้ำ พัทลุง – ส.ส.นิติศักดิ์ ธรรมเพชร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในชุมชนหัวป่าเขียว ตำบลทะเลน้อย หลังประสบปัญหาบ้านทรุดตัวจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้ ส.ส.นิติศักดิ์ ได้นำปูนสำเร็จรูปจำนวน 1 คันรถไปมอบให้แก่ นางสาวอรนุมา ซุ่นสั่น อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 41 หมู่ 7 ตำบลทะเลน้อย เพื่อสนับสนุนการซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย** พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือจากผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันช่วยเหลืออย่างเต็มที่** นางสาวอรนุมา ซุ่นสั่น เจ้าของบ้านที่ได้รับความช่วยเหลือ เปิดเผยว่า บ้านของตนทรุดตัวลงอย่างมากหลังเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมา และไม่มีงบประมาณสำหรับการซ่อมแซม ทำให้ต้องอยู่อย่างลำบาก โดยก่อนหน้านี้ ส.ส.นิติศักดิ์ เคยลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและรับปากว่าจะช่วยเหลือ และในวันนี้ได้กลับมาช่วยเหลือตามคำสัญญา “ถ้า ส.ส.นิติศักดิ์ ไม่ช่วย บ้านของฉันก็คงต้องอยู่แบบเอียงและรอวันพังลงมาจริง ๆ” นางสาวอรนุมา กล่าว ทางด้าน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลทะเลน้อย กล่าวชื่นชมและขอบคุณ