ภัยพิบัติ

ร้อยเอ็ด…ร้าว…แต่ไม่กระทบโครงสร้าง…ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด นำทีมลงพื้นที่ตรวจโรงพยาบาลร้อยเอ็ด หลังแผ่นดินไหวเมียนมา พบรอยร้าวบางจุด แต่ไม่กระทบโครงสร้าง วันนี้ (29 มีนาคม 2568) เวลา 11.30 น นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และวิศวกรเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด อ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อตรวจสอบผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบรอยร้าวบางจุดบริเวณผนังของอาคาร แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักของอาคาร และยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ทีมวิศวกรจะทำการสำรวจในรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อประเมินความเสียหายและรับรองความปลอดภัยของอาคาร นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ กล่าวว่า \”เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชน จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารยังคงปลอดภัยและสามารถใช้งานได้ตามปกติ\” ทั้งนี้ โรงพยาบาลร้อยเอ็ดเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ในจังหวัดร้อยเอ็ด ให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง การตรวจสอบโครงสร้างอาคารหลังเกิดแผ่นดินไหวจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์  

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน กรมทางหลวงขอนแก่นได้เร่งดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานในความรับผิดชอบ เพื่อประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว  วันนี้ (29 มี.ค. 68) แขวงทางหลวงขอนแก่นที่ 1 ได้ทำการตรวจสอบถนนทางหลวงหมายเลข 2 ตอนขอนแก่น-หินลาด บริเวณทางลอดสามเหลี่ยม และหมวดทางหลวงพระลับ ได้ตรวจสอบสะพานข้ามทางรถไฟและสะพานข้ามทางหลวงในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ สะพานทางหลวงหมายเลข 230 ข้ามทางรถไฟหน้าหมู่บ้านเมืองเอก สะพานทางหลวงหมายเลข 230 ข้ามทางหลวงหมายเลข 12 บ้านดอนดู่ สะพานทางหลวงหมายเลข 230 ข้ามทางรถไฟเมืองเก่า สะพานทางหลวงหมายเลข 230 ข้ามทางหลวงหมายเลข 2 เมืองเก่าสะพานข้ามทางรถไฟทางหลวงหมายเลข 2 กุดกว้าง  จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่าถนนและสะพานดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแต่อย่างใด และยังคงใช้งานได้ตามปกติ ด้านนายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ วัดหนองแวง พระอารามหลวง, โรงเรียนกัลยาณวัตร, โรงแรมฮ็อปอิน ถนนมะลิวัลย์ และโรงพยาบาลศรีนครินทร์  จากการตรวจสอบเบื้องต้น

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 มีนาคม 2568 นายปสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สั่งการให้ นายอนันต์ สิริพฤกษา โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ส่งทีมวิศวกรโยธาร่วมกับเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงโครงสร้างของ \”สกายวอร์ค-แม่กลอง\” สถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คกาญจนบุรี โดยทีมวิศวกรได้ตรวจสอบโดยละเอียดทุกจุดการเชื่อมต่อกระจกนิรภัยลวดสลิงยึดรวมทั้งเสาแต่ละต้นใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด โดยทางเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ได้งดให้บริการขึ้นชมชั่วคราวจนกว่าจะได้ข้อสรุปผลการตรวจสอบครั้งนี้เพื่อความปลอดภัย สำหรับการงดบริการให้ขึ้นชมวิวแม่น้ำสองสี ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากันเป็นจำนวนมาก ต่างผิดหวังที่ไม่ได้เดินบนสกายวอร์ค แต่ก็เข้าใจในมาตรการความปลอดภัย มาแล้วยังไงก็ต้องได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในจุดอื่นต่อไป.

[สรุปคอนโดที่มีรายงานความเสียหายหรือผู้พักอาศัยไม่กล้ากลับเข้าไป หลังเหตุแผ่นดินไหว] 1. Rhythm Ari – ห้ามขึ้น มีการจัดคิวให้เก็บของเท่านั้น 2.- 3. Knightsbridge Prime สาทร – ให้ขึ้นเก็บของเป็นรอบ ห้ามพักค้าง 4. IDEO Q Victory – รอยร้าวหลายจุด 5. IDEO 93 – ผนังห้องร้าว 6. IDEO Mobi สุขุมวิท Eastgate – พื้น-ผนังแตกร้าว 7. IDEO Q จุฬา-สามย่าน – ผู้พักอาศัยหลายคนโพสต์กังวล 8. Noble Revolve รัชดา – บางคนย้ายออกชั่วคราว 9. Chapter One Eco รัชดา – ผนังห้องร้าว 10. Elio

วันที่ 29 มีนาคม 2568 เวลา 08.30 น. พลตรี วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 32 จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ที่ 32 และจิตอาสาพระราชทานกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 17 รวมจำนวน 40 นาย เข้าช่วยเหลือและสนับสนุน ร่วมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ในการเคลื่อนย้ายสิ่งของ เก็บเศษวัสดุอุปกรณ์ ที่ร่วงหล่น   จากแรงสั่นสะเทือนจนได้รับความเสียหายและผลกระทบจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 13.20 น. ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลลำปาง   เพื่อให้สถานที่ภายในบริเวณโรงพยาบาล มีความพร้อม เป็นระเบียบเรียบร้อยดังเดิม สำหรับการเปิดใช้งานและพี่น้องประชาชนจะได้ใช้บริการด้านการรักษาตามปกติโดยเร็วต่อไป อย่างไรก็ตาม มณทลทหารบกที่ 32 และหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดลำปาง พร้อมที่จะสนับสนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานณ์และภัยพิบัติต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อความสุขและให้ ประชาชนได้มีความอุ่นใจว่าทหารพร้อมอยู่เคียงข้างและเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

แม้แผ่นดินไหว ที่หอโหวดยังปลอดภัย เที่ยวได้ตามปกติ  จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่.    ในประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้หลายพื้นที่ของไทยได้รับแรงสั่นสะเทือน มีอาคารพังถล่มในบางจังหวัด รวมถึงมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สร้างความกังวลให้กับประชาชน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงได้มีหนังสือสั่งการให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจตรวจสอบอาคารสูง ในจังหวัดต่างๆ เพื่อ สร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน วันที่ 29 มีนาคม 2568 นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทีมวิศวกรจากกรมโยธาธืการและผังเมือง วิศวกรเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร ร้อยเอ็ดทาวน์เวอร์ หอสูงชมเมือง รูปทรงโหวด สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมืองร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด  เป็นอาคารสูง 101 เมตรตามชื่อจังหวัด มี 35 ขั้น ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า 

ชัยภูมิ – ซึ่งล่าสุดอาการคุณยายท่านนี้ปลอดภัยแล้ว รวมทั้งในส่วนตัวอาคาร รพ.ชัยภูมิ และอาคารในพื้นที่ใกล้เคียง ผู้ว่า-จนท.หน่วยงานเกี่ยวข้องออกตรวจสอบเบื้องต้นโครงสร้างหลักไม่พบความเสียหายจากแผ่นดินไหวแต่อย่างใด ขอประชาชนอย่าแตกตื่นให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ จนท.และติดตามข่าวสารแจ้งเตือนจากจังหวัดอย่างใกล้ชิดเป็นหลักในช่วงนี้ด้วย! เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น.วันที่ 29 มี.ค.68 ขณะที่ จ.ชัยภูมิ หลังเมื่อช่วงบ่ายวานนี้( 28 มี.ค.68 ) ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา หรือพม่า ด้วยเช่นกัน ซึ่งประชาชนในเกือบทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ รับความรู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไวจึ้นได้ จนพากันแตกตื่นหลังเกิดบ้านเรือนประชาชนตึกในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วนานกว่า 2-3 นาที โดยเฉพาะจุดใจกลางเมืองชัยภูมิ ที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ที่มีตึกผู้ป่วยสูงขนาดใหญ่หลายหลังตั้งแต่ความสูงขนาด 5-8 ชั้นขึ้นไป ที่มีทั้งญาติและผู้ป่วยรักษาอยู่ไม่น้อยกว่า 2,500 คน ซึ่งในช่วงเวลาประมาณบ่ายที่ผ่านมา ประชาชนผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่โรงพยาบาลชัยภูมิ (รพ.ชัยภูมิ) ที่อยู่ใน รพ.ชัยภูมิ ในช่วงเกิดแผ่นดินไหวขึ้นครั้งนี้ว่า ได้รับความรู้สึกได้ว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นถึงพบว่าทั้งตึกของ รพ.ชัยภูมิ เกิดการสั่นสะเทือนเหมือนตึกโยกไปทั้งตึกเป็นเวลานานกว่า 2-3 นาที ก่อนที่นิ่งสงบลง และทางเจ้าหน้าที่ รพ.ชัยภูมิ ได้แจ้งประกาศด่วนให้อพยพผู้ป่วยนับกว่า 2,000 คน

เชียงใหม่–สั่นทั่วเชียงใหม่ เหตุแผ่นดินไหว 8.2 ริกเตอร์ เร่งสำรวจเสียหาย วันที่ 28 มี.ค. 68 เวลาประมาณ13.20 น. จังหวัดเชียงใหม่ รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 ริกเตอร์  โดยมีหลายพื้นที่ประชาชนรู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหว อย่างรุนแรง ต่างพากันทยอยอพยพออกจากอาคารหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทุกอำเภอกำลังเร่งสำรวจความเสียหายอยู่ว่ามีพื้นที่ไหนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบอาคารบ้านเรือน โบราณสถาน และโครงสร้างพื้นฐานอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน ควรตรวจสอบความปลอดภัยของบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง หากพบความเสียหายหรือสิ่งผิดปกติ ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขต่อไป นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกมาตรการรับมือแผ่นดินไหว 28 มีนาคม 68 1)ให้นายอำเภอทุกอำเภอ, นายกเทศมนตรี นายกอบต., ปลัดเทศบาล, ปลัดอบต. ผู้รักษาการแทนนายก อปท. ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือไม่ ทรัพย์สินอาคารบ้านเรือน เน้นในที่ชุมนุมคน, สถานที่มีคนรวมตัวอยู่จำนวนมาก, อาคารที่มีอายุมาก,

ร้อยเอ็ด…ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด นำทีมตรวจสอบหอโหวด 101 หลังแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา ยืนยันโครงสร้างแข็งแรง วันที่ 29 มีนาคม 2568 เวลา 08.00 น นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบหอโหวด 101 อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นหอชมเมืองสูงที่สุดในภาคอีสาน หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อโครงสร้างของหอโหวด ภายหลังการตรวจสอบ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบผลกระทบใดๆ ต่อโครงสร้างของหอโหวด 101 เนื่องจากหอโหวดได้รับการออกแบบให้รองรับสถานการณ์แผ่นดินไหวตามกฎหมายควบคุมอาคาร และสามารถต้านทานแรงลมได้ถึง 0.2 ตันต่อตารางเมตร อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโครงสร้างอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและให้หอโหวด 101 อยู่คู่กับชาวร้อยเอ็ดไปนาน  ๆ ซึ่งหอโหวด 101 เป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด