แม้แผ่นดินไหว ที่หอโหวดยังปลอดภัย เที่ยวได้ตามปกติ 

แม้แผ่นดินไหว ที่หอโหวดยังปลอดภัย เที่ยวได้ตามปกติ 
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่.    ในประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้หลายพื้นที่ของไทยได้รับแรงสั่นสะเทือน มีอาคารพังถล่มในบางจังหวัด รวมถึงมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สร้างความกังวลให้กับประชาชน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงได้มีหนังสือสั่งการให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจตรวจสอบอาคารสูง ในจังหวัดต่างๆ เพื่อ สร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน
\"\"
\"\"
วันที่ 29 มีนาคม 2568 นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทีมวิศวกรจากกรมโยธาธืการและผังเมือง วิศวกรเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร ร้อยเอ็ดทาวน์เวอร์ หอสูงชมเมือง รูปทรงโหวด สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมืองร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด  เป็นอาคารสูง 101 เมตรตามชื่อจังหวัด มี 35 ขั้น ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา
\"\"
\"\"
นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า  จังหวัดร้อยเอ็ด เรามีตึกสูง ที่ เข้าข่ายต้องตรวจสอบอยู่ 2 แห่ง คือ หอโหวด ร้อยเอ็ด และ อาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลร้อยเอ็ด โดย การบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ประกอบด้วยผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด วิศวกรจากกรมโยธาธิการและผังเมือง วิศวกรจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดร้อยเอ็ด มาร่วมตรวจสอบ  วันนี้เราก็ได้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ของโครงสร้าง โดยปกติอาคารหอโหวดจะรับน้ำหนักในแนวดิ่ง การตรวจสอบความเสียหาย จากแผ่นดินไหวเราจะต้องตรวจสอบอาคารในแนวด้านข้าง จุดต่อต่างๆทั้ง 4 ส่วน เพื่อดูความแข็งแรง ความสมบูรณ์ของอาคาร มีการตรวจสอบที่ชั้น 1 และชั้น 4 เพื่อดูจุดเชื่อมต่อต่างๆว่าได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่ มีการขยับตัวขนาดไหน ตัวปล่องทรงกรมของหอโหวด ซึ่งเปรียบเสมือนทำหน้าที่เป็นเสา มีความหนา 50 เซ็นติเมตรตลอดแนว และมีคานเชื่อมคอนกรีต อยู่ตรวกลางปล่องเป็นข่วงๆเพื่อเพื่มความแข็งแรง  จากการตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยแตกร้าว หรือความเสียหาย ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ทางกายภาพก็ไม่พบสิ่งของตกหล่น แตกเสียหายแต่อย่างใด จากข้อมูลของวิศวกรฯทราบว่า การยืดหยุ่นในตัวตึกนี้ สามารถรับแรงขยับตัวด้านข้างได้ถึง 22 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นปกติของการออกแบบอาคารสูงให้สามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้  ส่วนที่มีข่าวลือว่าที่ชั้น 34 มีการขยับตัวเมื่อวานนั้นตรงนี้น่าจะเกิดจากการขยับตัวของอาคารตามแรงลมปกติ ซึ่งผลการตรวจสอบวันนี้จะได้ประสานฝ่ายที่ควบคุมการตรวจสอบ ขอให้มีผลการตรวจสอบ อย่างเป็นทางการภายใต้กฎหมาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว เกิดความมั่นใจว่ามีความปลอดภัย อย่างที่บอกครับ อาคารแห่งนี้ออกแบบมา เพื่อรับแรงของแผ่นดินไหว สามารถรับแรงลมด้านข้าง 200 กิโลเมตรต่อตารางเมตรหรือ 0.2 ตันต่อตารางเมตรจากดารสังเกตุพบว่า หอโหวดรับแรงขนาดนี้ได้ ผมคิดว่ามีความเป็นมาตรฐานสูง เพราะการออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง โดยวิศวกรของกรมโยธาธิการและผังเมืองทั้งหมด
\"\"
\"\"
ด้านนายพัฒนพงศ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าทีมตววจสอบของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะวิศวกรของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด โดยปกติแล้วเรามีทีมงานมากำกับดูแล บำรุงรักษา  มีวิศวะกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิศวกรโยธา และสถาปนิก ดูแลเรื่องต่างๆประจำอยู่แล้ว  จากการตรวจสอบร่วมกับคณะผู้ว่าฯ วันนี้ เรามั่นใจว่าหอโหวดของเรา มีการออกแบบการก่อสร้าง เป็นไปตามมาตรฐาน ตามหลักวิศกรรมทุกอย่างอยู่แล้ว  ขอให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวมั่นใจได้ มาเที่ยวชมหอโหวดได้ปกติและมีความปลอดภัยแน่นอนครับ
\"\"
\"\"