ภัยพิบัติ

สตูลชาวบ้านกว่า 100 คนร้องสะพานชำรุดหวั่นฤดูฝนชาวบ้านข้ามไปทำสวนไม่ได้

สตูลชาวบ้านกว่า 100 คนร้องสะพานชำรุดหวั่นฤดูฝนชาวบ้านข้ามไปทำสวนไม่ได้ ชาวบ้านหมู่3 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูลประมาณ 100 คนได้รวมตัวกันที่บริเวณจุดที่สะพานพังไม่สามารถใช้งานได้ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล หลังจากชาวบ้านประสบปัญหาคอสะพานขาดเป็นบริเวณกว้างทำให้ชาวบ้านที่มีสวนยาง สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถข้ามไปเก็บผลอาสินจากสวนมาจำหน่ายได้ เคยแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังอำเภอและอบต.ในพื้นที่แต่เรื่องยังเงียบ  สะพานที่ได้รับความเดือดร้อน พบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นคลองไทรและชาวบ้านได้นำเสาไฟฟ้าซึ่งเป็นเสาปูนพาดและมีการลาดคอนกรีตทับด้านบนความยาวประมาณ 15 เมตร ใต้สะพานรองด้วยท่อซีเมนต์ขนาดใหญ่และใต้สะพานมีกอไม้เศษสวะติดอยู่มากมายจนน้ำไม่สามารถไหลผ่านได้ กระแสน้ำเปลี่ยนไปทางคอสะพานทำให้คอสะพานขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ใกล้กับสะพานมีทางเบี่ยงซึ่งเป็นทางเก่าที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาในช่วงสะพานขาด ซึ่งเป็นทางที่เตี้ยติดกับพื้นคลอง นายสมใจ เกลี้ยงกลม(เสื้อสีฟ้า) ผญบ.หมู่ 3 กล่าวว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สวนของชาวบ้าน ทั้งสวนปาล์มน้ำมัน ยางพารา สวนผลไม้เช่นทุเรียน ลองกอง เงาะมังคุด ประมาณ 1 พันไร่ ชาวบ้านจะข้ามไปทำสวนทุกวันเนื่องจากมีรายได้เลี้ยงครอบครัวจากสวนดังกล่าว ต่อมาเมื่อสวนเริ่มได้ผลผลิตชาวบ้านต้องการสะพานเพื่อนำผลอาสินออกมาขายจึงรวบรวมเงินทำสะพานไม้(สะพานเก่า)เมื่อฝนตกหนักสะพานไม้หัก ทางอบต.นำเครื่องจักรกลมาช่วยทำเป็นสะพานคอนกรีต แต่เนื่องจากพื้นสะพานต่ำเมื่อฤดูฝนน้ำท่วมสูงทำให้ชาวบ้านที่ขับรถนำผลอาสินทั้งน้ำยางสด ขี้ยาง ปาล์มและผลไม้ บางคนไม่สามารถขับฝ่าน้ำไปได้ ทั้งรถทั้งของหล่นน้ำได้รับบาดเจ็บก็มี ต่อมาชาวบ้านรวบรวมเงินกันอีกครั้งเพื่อทำสะพานใหม่(สะพานที่ชำรุด)โดยซื้อเสาไฟฟ้ามาพาดและทางส.ส.เขต 2 ได้ออกคอนกรีต ทางอบต.ปาล์มพัฒนา นำเครื่องจักรกลมาช่วยจนกลายเป็นสะพานชาวบ้านสามารถใช้สัญจรไป-มาได้และเมื่อเดือนก.ย.67 เป็นช่วงน้ำท่วมใหญ่ มีเศษสวะลอยมาติดใต้สะพานตนได้ขอให้ทางหน่วยงานราชการมาช่วยนำเศษสวะออกแต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จนกระทั่งกระแสน้ำเปลี่ยนทิศกัดเซาะคอสะพานขาดรถขับผ่านไม่ได้ […]

สตูลชาวบ้านกว่า 100 คนร้องสะพานชำรุดหวั่นฤดูฝนชาวบ้านข้ามไปทำสวนไม่ได้ Read More »

“TJA” จัดเวทีเสวนา “สังคยานาระบบเตือนภัย” แผ่นดินไหว  

“TJA” จัดเวทีเสวนา “สังคยานาระบบเตือนภัย” แผ่นดินไหว                         นักวิชาการเร่งสังคายนา ระบบเตือนภัยพิบัติ “ด้วยเซลล์บอร์ดแคสต์”ต้องใช้ได้จริงพร้อมตรวจสอบการใช้งบประมาณ เผย 3 รอยเลื่อนใหญ่ทำแผ่นดินไหว กระทบประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่อ่อนไหวขนาดยักษ์ เพิ่มแรงเขย่า 3-4 เท่า ลุยตรวจสอบอาคารอ่อนไหวในภาคเหนือเสริมความแข็งแกร่ง กรุงเทพฯ ( 2 เมษายน 2568) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หรือ TJA ได้จัดกิจกรรมราชดำเนินเสวนาในหัวข้อ “สังคายนาระบบเตือนภัย” เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวให้กับสื่อมวลชน และประชาชน อันจะนำไปสู่การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักรู้ และเตรียมความพร้อมให้ประชาชนในการรับมือกับแผ่นดินไหว โดยมี ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหว สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และ รศ.ดร.คมสัน มาลีสี

“TJA” จัดเวทีเสวนา “สังคยานาระบบเตือนภัย” แผ่นดินไหว   Read More »

ร้อยเอ็ด…บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่ก็ไม่เว้น…เกิดเหตุไฟไหม้บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวอดทั้งหลัง

ร้อยเอ็ด…บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่ก็ไม่เว้น…เกิดเหตุไฟไหม้บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวอดทั้งหลัง วันนี้ (2 เม.ย.68) เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.พูลศักดิ์ โพลังกา พนักงานสอบสวนเวร สภ.โพนทอง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน หมู่ที่ 2 บ้านโคกสีดา ต.อุ่มเม่า อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก ครึ่งตึก ครึ่งไม้ ของนายเฉลิมชัย สินธุแสง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 บ้านโคกสีดา ต.อุ่มเม่า อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ที่ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลังเห็นเพียงเสาไม้ดำเป็นตอตะโกไผล่ชี้ฟ้า สอบถามเบื้องต้น ผู้ที่เห็นเหตุเหตุการณ์เล่าว่า ได้กลิ่นควันไฟไหม้ จึงหันมองไปดูบนบ้าน ตรงต้นเสาที่มีสายไฟฟ้าหลักของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าบ้านมีเสียงดังก๊อปแก๊ปคล้ายไฟลุกไหม้อยู่บนบ้านเกิดและมีลมกรรโชกมาแรง พัดกระหน่ำเอาเปลวไฟเข้าไปเผาไหม้บ้านอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านได้ช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ แต่ก็ไม่สามารถสะกัดเพลิงไว้ได้เกรงว่าไฟจะลุกลามบ้านข้างเคียง จึงได้โทรศัพท์แจ้งไปยังสภ.โพนทองเพื่อให้ประสานงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยตำบลโพธิ์ทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ให้มาช่วยเหลือแต่ทะว่าช่วงที่เกิดเหตุลมแรงมากทำให้เพลิงโหมลุกไหมอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาควบคุมเพลิงกว่า45 นาทีจึงสามรถควบคุมเพลิงไว้ได้ เพลิงได้เผาไหม้บ้านพักและทรัพย์สิน วอดไปทั้งหลัง เหลือแต่เสาไม้ดำเป็นตอตะโก โดยทรัพย์สินที่ถูกเพลิงพิโรธเผาเป็นจุลในครั้งนี้ประกอบด้วย โทรทัศน์ 1 เครื่อง พัดลมตั้งโต๊ะ ตู้เสื้อผ้า

ร้อยเอ็ด…บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่ก็ไม่เว้น…เกิดเหตุไฟไหม้บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวอดทั้งหลัง Read More »

น้ำทะลักท่วมบ้านเรือน ปชช.กลางดึกทั้งที่ฝนไม่ตก! ล่าสุดผู้ว่าฯนำกำลังช่วยชาวบ้านเปิดช่องระบายน้ำ จ.พัทลุง

จังหวัดพัทลุง-ชาวบ้านเป็นงง จู่ๆเกิดน้ำทะลักท่วมกลางดึกทั้งที่ฝนไม่ตก เผยชลประทานกลัวหลังอุตุฯ เตือน สั่งระบายน้ำไม่แจ้งขนของหนีกันไม่ทันเดือดร้อนหลายครอบครัว ล่าสุดผู้ว่าฯพัทลุง สั่งนายอำเภอควนขนุน และ ปภ.นำกำลังช่วยชาวบ้านเปิดช่องระบายน้ำ หลังมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังมีการแจ้งเหตุจากประชาชน พื้นที่ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุนจังหวัดพัทลุงว่า มีน้ำจากคลองท่าแนะล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนประมาณ 18 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน เมื่อช่วงกลางคืน ของวันที่ 1 เมษายน 2568 ล่าสุด นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงจึงได้สั่งการให้ นายพะเนตร อุทัยรังษี นายอำเภอควนขนุน เข้าตรวจสอบพื้นที่และแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน ในการนี้นายอำเภอควนขนุน จึงพร้อมด้วยกำลังฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง โครงการชลประทานพัทลุง สำนักงานชลประทานที่ 16 แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดพัทลุง ได้ลงพื้นที่บริเวณเกิดเหตุ หมู่ที่ 6 ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เข้าทำการเปิดช่องระบายน้ำจนสามารถพร่องน้ำที่เข้าท่วมบ้านเรือนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ส่วนสาเหตุ มาจากการเกิดฝนตกหนักในพื้นที่บริเวณเทือกเขาบรรทัด ซึ่งเป็นต้นน้ำของคลองท่าแนะ เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมฝายท่าแนะได้ระบายน้ำจากฝายเพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับรองรับมวลน้ำใหม่ ขณะที่ท้ายหมู่ที่ 6 ตำบลมะกอกเหนือ ได้มีการว่าจ้างเหมาปรับปรุงถนนและก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กสายบ้านสวน –

น้ำทะลักท่วมบ้านเรือน ปชช.กลางดึกทั้งที่ฝนไม่ตก! ล่าสุดผู้ว่าฯนำกำลังช่วยชาวบ้านเปิดช่องระบายน้ำ จ.พัทลุง Read More »

กทม. เร่งค้นหาผู้รอดชีวิต จ่อเสนอแผนติดระบบตรวจแรงสั่นในอาคาร

กทม. เร่งค้นหาผู้รอดชีวิต จ่อเสนอแผนติดระบบตรวจแรงสั่นในอาคาร พร้อมเดินหน้ามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว (2 เม.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเข้าประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ถึงกรณีโลกโซเชียลที่มีการแชร์ และกล่าวถึงเป็นวงกว้างเรื่องภาพตนเองขณะนั่งพักที่อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า จริง ๆ ก็เป็นช่วงกินข้าวเสร็จ กำลังนั่งมอง นึกถึงว่าคนที่อยู่ หากมีชีวิตรอด ก็ขอให้อดทนอีกหน่อย หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ช่วงนั้นก็ไม่มีอะไรมาก คอยนั่งสังเกตการณ์จากมุมนั้น ก็จะเห็นหมดว่า การทำงานเป็นอย่างไร ใครขาดเหลืออะไร ซึ่งเราจะมีประชุมทุกวันเวลา 08.00 น. เวลา 13.00 น. และเวลา 18.00 น. ร่วมกับหลายหน่วยงาน หน้างานมีชาวต่างชาติที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษด้วย เราก็ไปช่วยสื่อสารบ้าง ในฐานะผู้นำก็ต้องเข้าใจสถานการณ์และช่วยเข้าไปคุยในประเด็นที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ ทำให้เราเข้าใจสถานการณ์ดีขึ้น นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ

กทม. เร่งค้นหาผู้รอดชีวิต จ่อเสนอแผนติดระบบตรวจแรงสั่นในอาคาร Read More »

โผล่อีก! อาคารรพ.สงขลา ผวารุดตรวจอาคารบริษัทเครือข่ายสร้างตึกสตง. ถล่มรับงาน 400 ล้าน

สงขลา – รพ.สงขลา คุมเข้มมาตรฐานก่อสร้างอาคารผู้ป่วย มั่นใจความปลอดภัย หลังพบผู้รับเหมาถูกเชื่อมโยงเหตุอาคาร สตง. ถล่ม    จากกรณีอาคารสำนักงาน สตง. ในกรุงเทพฯ พังถล่มหลังเกิดแผ่นดินไหว และพบว่าผู้รับเหมาก่อสร้างคือ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ล่าสุดมีการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวมีส่วนร่วมในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ โรงพยาบาลสงขลา อาคารสูง 9 ชั้น มูลค่าโครงการ 426.9 ล้านบาท ซึ่งสัญญาจะสิ้นสุดกลางปีนี้ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหารือแนวทางดำเนินการต่อไป นายแพทย์รัตนพล ล้อประเสริฐกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลา เปิดเผยว่าโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือของกิจการร่วมค้า AKC โดยมีบริษัท อัคกร ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ถือหุ้น 51% และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 49% ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 50% แต่ล่าช้ากว่าแผนงานถึง40% อย่างไรก็ตาม

โผล่อีก! อาคารรพ.สงขลา ผวารุดตรวจอาคารบริษัทเครือข่ายสร้างตึกสตง. ถล่มรับงาน 400 ล้าน Read More »

มข.ตั้งระบบเตือนแผ่นดินไหวใช้เอง ผ่านระบบ Google Chat ตรวจติดตามสถานการณ์ได้ไกลถึง 2,000 กม.

ฝ่ายการศึกษาและดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น เดินหน้าใช้ระบบอัจฉริยะ KKU IntelSphere ออกแบบ KKU Emergency Alert แจ้งเตือนแผ่นดินไหวพิกัดไม่เกิน 2,000 กิโลเมตรจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นผ่าน Google Chat  จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดในประเทศเมียนมา โดยแรงสั่นสะเทือนบางส่วนรับรู้ได้ถึงประเทศไทย รวมถึงในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยเฉพาะภายในอาคารสูงของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2568 ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาและดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้นำเทคโนโลยี KKU IntelSphere มาประยุกต์ใช้ในการสร้างระบบแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหว KKU Emergency Alert โดยดึงข้อมูลจาก U.S. Geological Survey (USGS) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้ในการส่งการแจ้งเตือนผ่านระบบ KKU Google Chat สำหรับ KKU Emergency Alert ตั้งค่าระยะห่างรัศมีการแจ้งเตือนไว้ที่ 2,000 กิโลเมตรจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมกำหนดระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่ต้องการให้มีการแจ้งเตือน เบื้องต้นตั้งไว้ที่

มข.ตั้งระบบเตือนแผ่นดินไหวใช้เอง ผ่านระบบ Google Chat ตรวจติดตามสถานการณ์ได้ไกลถึง 2,000 กม. Read More »

นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” ติดตามการค้นหาผู้สูญหายจากตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม พร้อมให้กำลังใจญาติผู้สูญหาย ย้ำรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือเต็มที่

นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” ติดตามการค้นหาผู้สูญหายจากตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม พร้อมให้กำลังใจญาติผู้สูญหาย ย้ำรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ วันนี้ (2 เมษายน 2568) ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ก่อนเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรีได้ไปติดตามความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม  และให้กำลังใจญาติผู้สูญหายที่เดินทางมาจากหลายจังหวัดเพื่อมาติดตามการค้นหา บริเวณเต็นท์พักคอยที่ทางกรุงเทพมหานครจัดเตรียมไว้ให้ โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยสอบถามและให้กำลังใจกับบรรดาญาติของผู้สูญหาย พร้อมบอกให้ทุกคนดูแลตัวเอง  อย่าลืมกินข้าวกินน้ำด้วยจะได้ไม่ป่วย และทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่  ยืนยันจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเจ้าหน้าที่ประจำเต็นท์พักคอยว่ามีญาติมาติดตามการค้นหาทั้งหมดกี่คนเบื้องต้นมีคนมาลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 73 คน จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้กระทบต่อการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมีภารกิจ ในการต้อนรับ นายเค พี ศรรมะ โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาลและภริยา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit)

นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” ติดตามการค้นหาผู้สูญหายจากตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม พร้อมให้กำลังใจญาติผู้สูญหาย ย้ำรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ Read More »

ผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมลงพื้นที่ตรวจพระธาตุพนม หลังแผ่นดินไหว ยืนยันไม่พบความเสียหาย

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น. นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม นายอำเภอธาตุพนม และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรธาตุพนม ได้เดินทางลงพื้นที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจสอบผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยทีมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม พบว่าองค์พระธาตุพนมไม่ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายใด ๆ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและคณะได้เดินทางไปยังกุฏิเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เพื่อกราบนมัสการพระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และรายงานผลการตรวจสอบให้ท่านทราบ ในโอกาสนี้ พระไมเคิล พระภิกษุที่สมเด็จย่าแห่งภูฏานทรงอุปถัมภ์ให้การบรรพชาและอุปสมบท ได้เดินทางเข้ากราบนมัสการพระธรรมวชิรโสภณด้วย เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ได้สร้างความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากพระธาตุพนมเป็นโบราณสถานสำคัญและเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ การลงพื้นที่ตรวจสอบของหน่วยงานราชการในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าพระธาตุพนมยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และปลอดภัย

ผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมลงพื้นที่ตรวจพระธาตุพนม หลังแผ่นดินไหว ยืนยันไม่พบความเสียหาย Read More »

คาดผลกระทบแผ่นดินไหวต่อเศรษฐกิจไตรมาสสองรุนแรง ปัญหามาตรฐานอาคารสูงในกรุงเทพเผยโฉมทุจริตหยั่งรากลึก

พาเหรดขาย “คอนโด” กดราคาต่ำ คาดยอดขายตกต่ำ แผ่นดินไหวเขย่าให้เห็นถึงปัญหาคอร์รัปชันและความอ่อนแอของระบบการรับมือภัยพิบัติขนาดใหญ่ เร่งช่วยเหลือ “แรงงาน” ด้วยกองทุนเงินทดแทน ไทยขาดความพร้อมภัยพิบัติขนาดใหญ่ ที่ บ้านพิทักษ์ธรรม เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 15.00 น. วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2567 รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ อดีตกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยว่า คาดผลกระทบแผ่นดินไหวต่อเศรษฐกิจไตรมาสสองรุนแรง ในเบื้องต้นประเมินว่า อาจทำให้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาสสองขยายตัวติดลบเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายได้สูงเกือบ 4% แม้นเหตุการณ์แผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนสะกายบริเวณใจกลางประเทศเมียนมาจะเกิดขึ้นปลายไตรมาสแรก แต่ผลกระทบจะเกิดขึ้นอย่างชัดเจนต้นไตรมาสสอง เหตุการณ์ After Shocks ที่ยังไม่สามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ สร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการชะงักงันและชะลอตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจจำนวนหนึ่ง เกิดความไม่มั่นใจต่อความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานและอาคารสูง เช่น เขื่อน ทางยกระดับ สะพาน อาคารสูงในกรุงเทพและปริมณฑล เป็นต้น เกิดภาระและต้นทุนในการตรวจสอบว่า สิ่งก่อสร้างเหล่านี้สามารถรับมือแผ่นดินไหวได้หรือไม่ ภาวะดังกล่าวส่งผลต่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆอยู่ระยะหนึ่งก็จะคืนสู่ภาวะปรกติ มีผลต่อภาคการท่องเที่ยวโดยตรง การชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม

คาดผลกระทบแผ่นดินไหวต่อเศรษฐกิจไตรมาสสองรุนแรง ปัญหามาตรฐานอาคารสูงในกรุงเทพเผยโฉมทุจริตหยั่งรากลึก Read More »