สตูลชาวบ้านกว่า 100 คนร้องสะพานชำรุดหวั่นฤดูฝนชาวบ้านข้ามไปทำสวนไม่ได้
ชาวบ้านหมู่3 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูลประมาณ 100 คนได้รวมตัวกันที่บริเวณจุดที่สะพานพังไม่สามารถใช้งานได้ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล หลังจากชาวบ้านประสบปัญหาคอสะพานขาดเป็นบริเวณกว้างทำให้ชาวบ้านที่มีสวนยาง สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถข้ามไปเก็บผลอาสินจากสวนมาจำหน่ายได้ เคยแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังอำเภอและอบต.ในพื้นที่แต่เรื่องยังเงียบ สะพานที่ได้รับความเดือดร้อน พบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นคลองไทรและชาวบ้านได้นำเสาไฟฟ้าซึ่งเป็นเสาปูนพาดและมีการลาดคอนกรีตทับด้านบนความยาวประมาณ 15 เมตร ใต้สะพานรองด้วยท่อซีเมนต์ขนาดใหญ่และใต้สะพานมีกอไม้เศษสวะติดอยู่มากมายจนน้ำไม่สามารถไหลผ่านได้ กระแสน้ำเปลี่ยนไปทางคอสะพานทำให้คอสะพานขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ใกล้กับสะพานมีทางเบี่ยงซึ่งเป็นทางเก่าที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาในช่วงสะพานขาด ซึ่งเป็นทางที่เตี้ยติดกับพื้นคลอง
นายสมใจ เกลี้ยงกลม(เสื้อสีฟ้า) ผญบ.หมู่ 3 กล่าวว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สวนของชาวบ้าน ทั้งสวนปาล์มน้ำมัน ยางพารา สวนผลไม้เช่นทุเรียน ลองกอง เงาะมังคุด ประมาณ 1 พันไร่ ชาวบ้านจะข้ามไปทำสวนทุกวันเนื่องจากมีรายได้เลี้ยงครอบครัวจากสวนดังกล่าว ต่อมาเมื่อสวนเริ่มได้ผลผลิตชาวบ้านต้องการสะพานเพื่อนำผลอาสินออกมาขายจึงรวบรวมเงินทำสะพานไม้(สะพานเก่า)เมื่อฝนตกหนักสะพานไม้หัก ทางอบต.นำเครื่องจักรกลมาช่วยทำเป็นสะพานคอนกรีต แต่เนื่องจากพื้นสะพานต่ำเมื่อฤดูฝนน้ำท่วมสูงทำให้ชาวบ้านที่ขับรถนำผลอาสินทั้งน้ำยางสด ขี้ยาง ปาล์มและผลไม้ บางคนไม่สามารถขับฝ่าน้ำไปได้ ทั้งรถทั้งของหล่นน้ำได้รับบาดเจ็บก็มี ต่อมาชาวบ้านรวบรวมเงินกันอีกครั้งเพื่อทำสะพานใหม่(สะพานที่ชำรุด)โดยซื้อเสาไฟฟ้ามาพาดและทางส.ส.เขต 2 ได้ออกคอนกรีต ทางอบต.ปาล์มพัฒนา นำเครื่องจักรกลมาช่วยจนกลายเป็นสะพานชาวบ้านสามารถใช้สัญจรไป-มาได้และเมื่อเดือนก.ย.67 เป็นช่วงน้ำท่วมใหญ่ มีเศษสวะลอยมาติดใต้สะพานตนได้ขอให้ทางหน่วยงานราชการมาช่วยนำเศษสวะออกแต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จนกระทั่งกระแสน้ำเปลี่ยนทิศกัดเซาะคอสะพานขาดรถขับผ่านไม่ได้ เคยแจ้งไปยังอำเภอที่ประชุมกำนัน ผญบ. และแจ้งอบต. ซึ่งทางอบต.ก็รับปากว่าจะมาทำภายใน 2 สัปดาห์แต่นี้ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ยังไม่มีการแก้ปัญหา หากเข้าสู่ฤดูฝนอีกชาวบ้านจะลำบากเพราะจะใช้ทางเบี่ยงไม่ได้ ชาวบ้านไม่มีรายได้จากการทำสวนตรงนี้จะเพิ่มภาระติดหนี้ ตอนนั้นคอสะพานไม่ได้กว้างขนาดนี้ แต่เมื่อน้ำเปลี่ยนทิศคอสะพานพังกว้าง 5 เมตร จนใช้ไม่ได้แล้ว ทางเบี่ยงที่ใช้หากน้ำมากก็ผ่านไม่ได้
ด้านนายดลกอเฉ็ม เสียงดัง(ผ้าขาวม้าพาดที่คอ) ชาวบ้านหมู่ 3 กล่าวว่าตนและเพื่อนบ้านเดือดร้อนมาก อยากให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ ตอนนี้ยังใช้สะพานเก่าที่เป็นทางเบี่ยงได้ แต่หากเข้าช่วงหน้าฝนสะพานเบี่ยงจะใช้ไม่ได้เพราะน้ำจะท่วมสูง ที่ผ่านมามีรถหลายคันบรรทุกขี้ยางออกมา ทั้งคนทั้งขี้ยางหล่นลงคลองคนบาดเจ็บ ขี้ยางก็หายไปกับน้ำ ชาวบ้านอาศัยรายได้จากสวนเพียงอย่างเดียวหากฤดูฝนข้ามไปทำงานไม่ได้ก็เท่ากับขาดรายได้ไปเลย วอนให้เร่งแก้ปัญหาเพราะชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆ จะซ่อมหรือสร้างสะพานให้เลยก็ได้
นายภาณุ เพ็ชรประดับ นายกอบต.ปาล์มพัฒนา กล่าวว่าปัญหาดังกล่าวตนได้มอบหมายให้รองนายกไปดำเนินการ ซึ่งในส่วนของพื้นที่ต.ปาล์มพัฒนานั้นในเรื่องการพัฒนาสิ่งสาธารณูปโภคหลายอย่างติดขัดกับปัญหาพื้นที่ป่าไม้และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทั้งถนนและสะพานการจะดำเนินการสร้างต้องได้รับอนุญาติจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขต6สงขลา ซึ่งขณะนี้ถนนหลายสายที่ชำรุดตนได้ขอไปและได้รับอนุญาติแล้วแต่ติดขัดเรื่องการเมืองในพื้นที่มีการคัดค้านจึงไม่สามารถทำได้ ส่วนเรื่องของสะพานก็เช่นกันหากจะดำเนินการต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ และหากได้รับอนุญาตต้องเขียนโครงการและดำเนินการภายใน 3 ปีต่อการขออนุญาต 1 ครั้ง ส่วนสะพานที่มีปัญหานั้นขณะนี้มีปัญหาอยู่ 2 แห่งที่สะพานขาด คือที่หมู่ 3 และหมู่ 5 ทางอบต.พิจารณาดูแล้วว่าพื้นที่หมู่ 3 ยังคงใช้สะพานเบี่ยงได้อยู่ แต่พื้นที่หมู่ 5 ไม่มีสะพานเบี่ยงจึงเข้าไปดำเนินการพื้นที่หมู่ 5 ก่อน หากแล้วเสร็จก็จะย้ายเครื่องมือไปซ่อมแซมให้พื้นที่หมู่3ต่อไป คาดว่าคงจะเสร็จก่อนฤดูฝนแน่นอนเพราะเราต้องดำเนินการตามระดับความสำคัญก่อน