สุไลมาน แวมามะ

นายเจตนา เหมมุน ผอ.ศปพ.จชต. (DSI) พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานราชการ และเจ้าหน้าที่ ศปพ.จชต.ได้เข้าพบปะ บาบอบาซิ กาตอง ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา และได้มอบอินทผาลัมพร้อมน้ำหวาน ให้เจ้าหน้าที่และบุคลากร​ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา สำหรับใช้ในการละศีลอด (เปิดบวช) เนื่องในโอกาสเข้าสู่ห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา  ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จากนั้น นายเจตนา เหมมุน ผอ.ศปพ.จชต. พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานราชการ และเจ้าหน้าที่ ศปพ.จชต.ได้เข้ามอบอินทผาลัมพร้อมน้ำหวาน ให้แก่ผู้บริหาร บุคลากร​ นักศึกษามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตยะลา ที่นับถือศาสนาอิสลาม สำหรับใช้ในการละศีลอด (เปิดบวช) เนื่องในโอกาสเข้าสู่ห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐโดยมี ผศ.สมรรถชัย คันธมาทน์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตยะลา เป็นผู้รับมอบ ณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตยะลา นายเจตนา เหมมุน ผอ.ศปพ.จชต. (DSI) กล่าวว่า ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568 เป็นวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน

  หนึ่งวันก่อนหน้านี้ คนร้ายซุ่มยิงกำลังพลในฐานที่ฐานปฏิบัติการบ้านรอตันบาตู ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำให้ ส.ต.ท.ก่อพงศ์ บุญอ่อน ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 (ผบ.หมู่ กก.ตชด.42) ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส  การโจมตีทั้งสองเหตุการณ์ พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ฝ่ายแบ่งแยกดินแดนของแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ (BRN) ไม่เคยมีความตั้งใจที่จะหยุดการกระทำที่รุนแรงของพวกเขาแม้ในช่วงเดือนรอมฎอนที่เต็มไปด้วยผลบุญในการปฏิบัติติตนที่ดีงาม  คําถามคือการโจมตีและการสังหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและชาวไทยมุสลิมผู้บริสุทธิ์จะดำเนินต่อไปตลอดใน 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนซึ่ง ได้เริ่มในวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา  แน่นอนว่าชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยต้องการนมัสการอย่างสงบรวมถึงการนมัสการในมัสยิดและสุเหร่า แต่เจตนาอันสูงส่งนั้นจะถูกทำลายโดยกลุ่ม BRN ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังคงแข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับรัฐบาลไทยหรือไม่  ในช่วง 10 คืนสุดท้าย สิ่งที่ชาวไทยมุสลิมต้องการได้ยินคือเสียงการอ่านอัลกุรอานแทนที่จะเป็นเสียงร้องไห้ของสมาชิกในครอบครัวที่ญาติมิตรถูกสังหารโดย BRN สิ่งที่ชาวไทยมุสลิมต้องการได้ยินคือ เสียงประทัดที่เชียร์พวกเขาเพื่อเฉลิมฉลองวันรายอแทนที่จะเป็นเสียงระเบิดที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์  ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียระบุว่าการกระทำของ BRN ในการเปิดฉากการโจมตีในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นเดือนรอมฎอนปีนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยได้รับการคัดค้านจากประชากรไทยมุสลิมทั่วประเทศ  พวกเขาจะยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้น หาก BRN ยังคงก่อการร้ายด้วยการโจมตีใน 10วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน  \”เพราะการกระทำของ BRN ขัดแย้งกับการแถลงการณ์ของจุฬาราชมนตรีว่า“ประเทศไทยให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา และเผยแผ่ศาสนา อันเป็นปกติ ดังนั้นถือเป็นดินแดนแห่งสันติภาพ (ดารุสลาม) และไม่ใช่ดินแดนให้สงคราม

วันที่ 20 มีนาคม 2568 ณ มัสยิดอิบาดุรเราะห์มาน โรงเรียนบำรุงอิสลาม จังหวัดปัตตานี มหาวิทยาลัยฟาฏอนี นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.อิสลามอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดี ได้ให้การต้อนรับคณะจาก ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ (DSI) ที่นำโดย นายเจตนา เหมมุน ผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในโอกาสจัด โครงการรอมฎอนสัมพันธ์ ซึ่งเป็นโครงการพบปะผู้นำศาสนาและผู้บริหารมหาวิทยาลัยเพื่อแนะนำตัว รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะสำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโอกาสเดียวกัน ผู้แทนของ พ.อ.ปฐพี พุทธผล ผู้อำนวยการกองสันติวิธี ศูนย์สันติวิธี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เข้าร่วมในพิธีมอบเงินช่วยเหลือ พร้อมทั้งอินทผลัมและอาหารแห้ง เพื่อสนับสนุนกิจกรรมในช่วงเดือนรอมฎอน สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาในการสร้างสังคมที่เกื้อกูลและสงบสุข ในการต้อนรับครั้งนี้ มี อาจารย์สุวิทย์ หมาดอะดำ อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ พร้อมด้วยแกนนำนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเข้าร่วม ทั้งนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยในการยกระดับศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ด้วยหลักการอิสลามและแนวทางจากอัลกุรอาน มหาวิทยาลัยฟาฏอนีขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนและร่วมมือกันในโครงการครั้งนี้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนา สังคมที่สันติสุขและยั่งยืน บนพื้นฐานของ การอยู่ร่วมกันอย่างเคารพซึ่งกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรม

สืบสานอาหารฮาลาลพื้นถิ่น แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดกิจกรรม ฮาลาล ฟู๊ด คอนเทสต์ ประจำฮิจเราะห์ศักราช 1446 รอบชิงชนะเลิศ ฮาลาล ซีฟู๊ด ที่ โรงแรมเซาท์เทิร์นวิวปัตตานีอ.เมือง จ.ปัตตานี เสน่ห์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้มีมากมายหลายอย่าง ทั้งวิถีชีวิตที่หลากหลายในสังคมพหุวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และการแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นมลายูปลายด้ามขวาน แต่หนึ่งสิ่งสำคัญที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนต่างถิ่นให้มาสัมผัสกับบรรยากาศปลายด้ามขวาน คือ “อาหารฮาลาล” เมนูจานเด็ด จากภูมิปัญญาท้องถิ่น วัตถุดิบสดใหม่ และกรรมวิธีจากบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมาซึ่งในครั้งนี้ ลูกหลานคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ ได้ร่วมกันรังสรรค์อาหารฮาลาล ชูรสชาติพื้นถิ่น ให้ทุกคนได้ลิ้มรสแห่งความภูมิใจ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลา 17.30 น. ที่ ห้องจัดเลี้ยง ชั้น 9 โรงแรมเซาท์เทิร์นวิวปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในกิจกรรมการแข่งขันฮาลาล ฟู๊ดคอนเทสต์ (การประกวดอาหารฮาลาล)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 มีนาคม ที่ ห้องประชุมศรีวังสา คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วยภาคประชาสังคมในพื้นที่หลากหลายองค์กร อาทิ สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้สมาคมผู้นำอิสลามชายแดนใต้ เครือข่ายคัดค้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ขัดกับศีลธรรม เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) ภาคใต้ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนล่าง ฯลฯ โดยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์การผลักดัน พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย และปัจจัยเสี่ยงอื่น ที่นับวันยิ่งเพิ่มจำนวนและมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยจากการขับเคลื่อนงานในการป้องกันเด็กและเยาวชนจากภัยทุกรูปแบบในพื้นที่ ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและวิตกเป็นอย่างมาก หากปล่อยปละละเลย ไม่มีมาตรการทางสังคมที่ชัดเจน อาจส่งผลให้ปัญหายิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และจะทำให้การแก้ไขปัญหามีความซับซ้อนในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ความห่วงใยยิ่งเพิ่มมากขึ้นหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นและผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น ยังคงมีข้อห่วงใยเกี่ยวกับศีลธรรมและความสงบเรียบร้อยของประชาชนพร้อมทั้งต้องเพิ่มแนวคิดเรื่องการควบคุมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันอย่างรัดกุม เพิ่มสมดุลระหว่างการส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยว ด้วยการควบคุมรับมือผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการฟอกเงินและอาชญากรรมข้ามชาติตลอดจนต้องคำนึงถึงผลกระทบอันโหดร้ายที่จะเกิดขึ้นต่อกลุ่มเด็กและเยาวชน ตลอดจนพี่น้องประชาชน ในการนี้เครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอร่วมส่งเสียงเพื่อเป็นพลังหนึ่งในอันที่จะปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน อันเป็นลูกหลานและทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของสังคมไทย  ตลอดจนพี่น้องประชาชน จากภัยอันตรายที่จะก่อเกิดมาจาก พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex)  การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย และปัจจัยเสี่ยงอื่น

เดือนรอมฎอน นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของพี่น้องไทยมุสลิมทั่วโลก เป็นเดือนแห่งการถือศีลอด การสวดภาวนา และทำความดี ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชน ช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยบรรยากาศของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การละศีลอดร่วมกัน และการแสวงหาความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้า อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้พี่น้องมุสลิมได้ฝึกฝนความอดทน อดกลั้น และพัฒนาตนเองในด้านจิตใจเพื่อความสงบสุขและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน   โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 เวลา 17.30 น. ที่ สำนักงานสมาคมเยาวชนสานใจไทยสู่ใจใต้ (สำนักงานใหญ่ปัตตานี) ตำบลจะบังติกอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พลโทไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมกิจกรรม “ละศีลอด แบ่งปันสุขให้น้อง ๆ เด็กกำพร้า” ปีที่ 3 ประจำปี ฮิจเราะห์ศักราช1446 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคณะกรรมการสมาคมเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่มีจิตอาสา แบ่งปันความสุขให้กับน้อง ๆ เด็กกำพร้า ตามเจตนารมณ์ของสมาคมฯ ในการช่วยเหลือสังคมและเกิดมาตอบแทนคุณแผ่นดิน อีกทั้งยังเป็นการทำความดีในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐยิ่งของพี่น้องชาวไทยมุสลิม โดยมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นางสาวกามีละ