สุไลมาน แวมามะ

ช่วงบ่ายวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายธีรชัย สุขเกษมผอ.ป.ป.ช.ปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ บูรณาการร่วมกับ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 โดยนายสุจินต์ อินทรัตน์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการพิเศษ เข้าตรวจสอบเสาเข็มของโครงการฯ ณ พื้นที่ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานบริเวณแยกตะลุโบะ ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี โดยมีนายเชษฐพงศ์ บางอวด นายช่างควบคุมงาน และผู้รับจ้าง เป็นผู้นำตรวจ จากการเข้าตรวจสอบเสาเข็มโดยวิธี Sonic Logging Test ตำแหน่งตามแบบแปลน หลุมที่ RL 2 บริเวณทางเบี่ยงลงจากสะพานฝั่งมุ่งหน้าไปนราธิวาส พบว่าเสาเข็มเจาะขนาดเส้นผ่าศูนยย์กลาง 1 เมตร มีความลึกอยู่ที่ประมาณ 60 เมตร และเสาเข็มมีความสมบูรณ์ ส่วนการก่อสร้างสะพานในภาพรวม วิศวกร ชี้แจงว่า โครงการมีความก้าวหน้ากว่าแผนการดำเนินงานที่กำหนด โดยในส่วนของฐานของสะพานข้ามแยกฝั่งซ้ายมุ่งหน้าไปนราธิวาส อาทิ เสาเข็ม และตอหม้อ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ คงเหลือส่วนฝั่งขวาที่มุ่งหน้าไปหาดใหญ่ ฐานของสะพานใกล้จะดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนเสาเข็มเจาะที่เหลืออีกประมาณ 80 ต้น ฝั่งขวามุ่งหน้าไปหาดใหญ่

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2568 ที่ คณะสังคมศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นายเจตนา เหมมุน ผอ.ศปพ.จชต. ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ (อาจารย์​พิเศษ)​ หลักสูตรศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและการบังคับใช้กฎหมาย ในหัวข้อวิชาอาชญากรรมในสังคมสมัยใหม่ให้แก่นักศึกษา​คณะสังคมศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ภายใต้หัวข้ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   ในการนี้ นายเจตนา เหมมุน ได้บรรยายเกี่ยวกับบทบาท อำนาจ และหน้าที่สำคัญของกรมสอบสวน​คดี​พิเศษ​และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่้เกี่ยวข้องกับกรณีศึกษา​ในหัวข้อดังกล่าว เพื่อเป็นการให้ความรู้ และถ่ายทอดประสบการณ์แก่ผู้เข้าร่วมฟังการบรรยาย

วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมเป็นประธานการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจากหลายหน่วยงาน ณ ห้องประชุมสมาคมนายทหารชั้นสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี การประชุมในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อ “รับฟังเสียงจากพื้นที่จริง” โดยเป็นเวทีเปิดกว้างให้เจ้าหน้าที่แนวหน้าสะท้อนสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมแลกเปลี่ยนปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะแบบถึงลูกถึงคน ในบรรยากาศล้อมวง พูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ แตกต่างจากการประชุมเชิงนโยบายทั่วไป นายภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า รัฐบาลยึดมั่นในหลัก “สันติวิธี” เป็นแนวทางหลักในการคลี่คลายปัญหาความไม่สงบที่ยืดเยื้อในพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมย้ำว่า การแก้ปัญหาจะเกิดผลได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่าย – ทั้งภาครัฐ ทหาร และประชาชน – ต้องเดินไปด้วยกัน โดยเฉพาะการรับฟังเสียงจากประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง “เราต้องเลิกคิดว่าเป็นเรื่องของความมั่นคงฝ่ายเดียว ต้องมองให้รอบด้าน มิติสังคมวัฒนธรรม ศาสนา และการพัฒนาเศรษฐกิจต้องเดินควบคู่กัน…ความมั่นคงที่ยั่งยืนต้องมาจากความไว้วางใจของประชาชน ไม่ใช่กำลังทหารเพียงอย่างเดียว” นายภูมิธรรมกล่าวอย่างหนักแน่น เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จริงได้สะท้อนภาพรวมของสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา โดยระบุถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการก่อเหตุ ความท้าทายในการเข้าถึงชุมชน และข้อจำกัดในด้านทรัพยากรบุคลากรและงบประมาณ พร้อมเสนอแนวทางเชิงโครงสร้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวของเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิง ขณะกำลังวิ่งออกกำลังกายภายในหมู่บ้านระเวง ตำบลดอนทราย อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานีจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ อส. เสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 3นายโดยคนร้ายจำนวน 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเจ้าหน้าที่ขณะออกกำลังกาย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้เดินทางไปยังบ้านของ อส.อ.มะรอซาลี โต๊ะเส้ง ที่หมู่ 5 ตำบลไทรทอง อำเภอไม้แก่น และบ้านของ อส.อ.ซูไฮมี อาบู ที่หมู่ 3 ตำบลดอนทรายพร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวละ 500,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่บ้านของ อส.อ.มะรอซาลี โต๊ะเส้ง ผู้เสียชีวิต ผู้สื่อข่าวได้พบกับนางซาลีนา โต๊ะเส้ง อายุ 43

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 จากกรณี 4 คนร้ายใช้รถ จยย. 2 คันเป็นพาหนะใช้อาวุธสงครามกราดยิงเจ้าหน้าที่ อส. จำนวน 5 นายขณะกำลังวิ่งออกกำลังกายบนถนนภายในหมู่บ้านระเวง ม.3 ต.ดอนทราย อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ใกล้ฐานปฏิบัติการณ์ชุดคุ้มครองตำบลไม้แก่น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียใจให้กับครอบครัว ญิตพี่น้อง และเพื่อร่วมงานของอส.ทั้งหมด โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้พี่น้องชาวไทยพุทธได้รวมตัวและขอเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่ อส. ชุดคุ้มครองตำบลดอนทรายที่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ประสานไปยัง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จากนั้น พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบหมายให้ ศูนย์สันติวิธี ดำเนินการพากลุ่มชาวไทยพุทธ เข้าเยี่ยมและให้กำลังเจ้าหน้าที่ อส.จากเหตุดังกล่าว โดยวันนี้

วันที่ 20 พฤษภาคม นายเจตนา เหมมุน ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายเเดนภาคใต้ พร้อมด้วย นางสาวรมยกร จิตติอาภรณ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ นายภัทรดนัย สุทธิคณะ พนักงานสอบสวนชำนาญการ นายไชยาจันทร์สุข เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ เเละเจ้าหน้าที่สนับสนุนงานสืบสวน ลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลประวัติส่วนบุคคลของสมาชิกสมาคม ผู้ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเบตง เเละบันทึกถ้อยคำเพิ่มเติม จำนวน 13 ราย พร้อมทั้งประสานงานกับนายประเสริฐเกาะกลาง ประธานสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกินเเละอยู่อาศัยเบตง เเละผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเดิม​ ในท้องที่หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะเเมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อประกอบการพิจารณาสิทธิการเช่าที่ราชพัสดุตามสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ของศาลจังหวัดยะลา ระหว่างผู้เช่าเดิมกับสมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเบตง ในเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ กรณี สมาคมผู้ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเบตง ที่ได้ยื่นขอให้รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม​ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ช่วยเหลือ โดยการดำเนินการในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนสถานที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา     อนึ่ง​  เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากได้มีการไกล่เกลี่ยร่วมกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ เช่นสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯยะลา(สาขาเบตง), ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเบตง, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ,สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ยะลา,

วันนี้ (14 พ.ค.2568) สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประชุมให้ความเห็นร่างนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2568-2570 ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นนโยบายให้ส่วนราชการในพื้นที่นำไปใช้ในการปฏิบัติงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยนโยบายการบริหารและการพัฒนาฯ กำหนดวิสัยทัศน์ \”จชต.เข้าสู่สภาวะปกติที่ปราศจากความรุนแรง และได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน\” กำหนดวัตถุประสงค์-ประเด็นนโยบาย 8 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1.เสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนและผลักดันให้เกิดการยุติเหตุรุนแรงในพื้นที่ จชต. โดยสมบูรณ์ภายในปี 2570 ประเด็นที่ 2.บริหารจัดการความขัดแย้งตามหลักสันติวิธีและขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข ภายใต้เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งขจัดเงื่อนไขที่เอื้อต่อการยกระดับความขัดแย้งเพิ่มเติม ประเด็นที่ 3.พัฒนาอำนวยความยุติธรรมและการเยียวยาให้เป็นธรรมทั่วถึง ขจัดเงื่อนไขความไม่เป็นธรรมรวมทั้งเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน ประเด็นที่ 4.ยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาทุกระดับในพื้นที่ให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่และมีมาตรฐาน พร้อมกับส่งเสริมโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้และต่อยอดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประเด็นที่ 5. ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่บนพื้นฐานของการสร้างโอกาสทางรายได้ให้แก่ประชาชนในระดับฐานราก และคำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประเด็นที่ 6 เสริมสร้างสังคมทุกระดับในพื้นที่ ให้มีความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความกลมกลืนกัน โดยไม่แบ่งแยก ประเด็นที่ 7.เสริมสร้างความเข้าใจและประสานความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ให้เกื้อหนุนต่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหา และประเด็นที่ 8.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาครัฐให้สามารถตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาและเตรียมการเปลี่ยนผ่านไปสู่กลไกปกติของข้าราชการ โดยสมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เสนอปรับแก้และเพิ่มเติมร่างนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ 2568-2570 ในประเด็นต่างๆอาทิ เสนอให้เพิ่มเติมประเด็น