แม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่ชายแดนจัดกิจกรรมจิตอาสา พบปะพัฒนาสัมพันธ์ทหารกัมพูชา เตรียมจัดประชุม ครม.ร่วมไทย-กัมพูชา

สระแก้ว – แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 1 เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว จัดกิจกรรมจิตอาสาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา  และกระชับความสัมพันธ์ร่วมกับฝั่งประเทศกัมพูชา เตรียมจัดประชุม ครม.ร่วมไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นในห้วงเดือนกรกฎาคมไปแล้ว 
พล.ท. อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 1 เดินทางมาเป็นประธานจัดกิจกรรมจิตอาสาในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว โดยมี พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ,ผบ.กองกำลังบูรพา และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์, พล.ต.ถนัด พูลนายม ผู้บัญชาการมลฑลทหารบกที่ 19 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มลฑลทหารบกที่ 19 ร่วมกิจกรรม เดินทางเยี่ยมอาการป่วย และมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับ ผู้ป่วยโรคซีด เพศหญิง อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นมารดาของกำลังพลผู้มีรายได้น้อย ที่โรงพยาบาลค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
\"\" \"\"
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมคณะได้เดินทางต่อไปยัง บ้าน กม.2 ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อมอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จำนวน 2 ราย หลังจากนั้น เดินทางไปร่วมกิจกรรมจิตอาสาในสถานศึกษาพื้นที่ชายแดน ที่โรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยภายในกิจกรรมมีการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในพื้นที่ชายแดน จำนวน 10 ทุน, มอบจักรยานให้กับนักเรียนในพื้นที่ชายแดน จำนวน 10 คัน, มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนในพื้นที่ชายแดนในระดับอนุบาล และระดับประถมศึกษา, มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยจากทุนระเบิดในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 10 ราย และร่วมกิจกรรมทาสีปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณอาคารมูลนิธิมวลชนทัพภาค 1 โรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เยี่ยมชมการออกหน่วยบริการตัดผมให้นักเรียนที่มาร่วมกิจกรรม และในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่1 ยังได้ร่วมปลูกต้นไม้ บริเวณ สนามเด็กเล่นโรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย อ.อรัญประเทศ จ.สรแก้ว จำนวน 4 ต้น ด้วย
\"\" \"\"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้พบปะพัฒนาสัมพันธ์กับผู้นำทหารฝั่งกัมพูชา พลเอก แอก ซ้อมโอน รองผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 เพื่อประสานต่อความสำเร็จการประชุมของนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศ และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา หรือ GBC ที่ผ่านมา รวมทั้งการเตรียมการสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC โดยมีผลการดำเนินการที่สำคัญ โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการหารือการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับความร่ามมือในด้านการป้องกันและปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด เรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ และการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเห็นชอบร่วมกันให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารโดยใกล้ชิด ด้วยใช้แนวทางการดำเนินการในลักษณะเดียวกับความร่วมมือที่ได้ดำเนินการมาแล้ว เมื่อช่วงเกิด COVID-19 คือ การจัดทำแนวทางสกัดกั้น เป็น 2 แนว คือ บริเวณแนวชายแดนและบริเวณพื้นที่ตอนใน รวมทั้งประสานฝ่ายปกครองในการสร้างและพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการหารือ และเห็นร่วมกันในการนำผลการประชุม GBC ไทย–กัมพูชา ครั้งที่ 17 ไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเห็นชอบร่วมกันให้มีการพัฒนาความร่วมมือ และการสร้างความเข้มแข็งของความ ร่วมมือทางทหาร โดยสร้างความเข้มแข็งของความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว เช่น การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติ โดยให้มีการฝึกร่วมกัน
\"\" \"\"
นอกจากนั้น ยังเสนอให้จัดกิจกรรมการดำเนินการที่สามารถดำเนินการได้ง่าย หน่วยงานของทั้ง 2 ประเทศ เช่น การแข่งขันกีฬา กิจกรรมตามประเพณี และกิจกรรมร่วมกันของหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนาน การริเริ่มมความร่วมมือด้านอื่น ๆ เช่น งานด้าน การแพทย์ การบริการประชาชนของหน่วยแพทย์ทหารในพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาระบบการติดต่อและสื่อสารของผู้นำในแต่ละระดับ เพื่อให้สามารถติดต่อกันได้โดยตรง เมื่อมีปัญหาหรือสามารถจะติดต่อกันในเรื่องสำคัญอื่น ๆ ได้โดยทันที เห็นควรร่วมกันในการพัฒนาระบบการประชาสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูล ด้วยการจัดตั้งกลไกที่จะประสานสานเกี่ยวกับระบบการประชาสัมพันธ์ และกลไกการตรวจสอบและให้ข่าวตอบโต้ข่าวที่กระทบต่อความสัมพันธ์ทั้ง 2 ฝ่าย เห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะได้นำนโยบาย และผลการประชุมของหน่วยเหนือ ในแต่ละระดับมาทำให้เป็นรูปธรรม
\"\" \"\"
ขณะเดียวกัน สำหรับการดำเนินการในห้วงการประชุมที่เหมาะสม ควรเป็นหลังจากที่มีการจัดประชุม ครม.ร่วมไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นในห้วงเดือนกรกฎาคมไปแล้ว ทั้งนี้ ในเรื่องหัวข้อการประชุมจะเกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และผลการประชุม GBC ซึ่งจะนำแนวความคิดดังกล่าว ไปกำหนดเป็นหัวข้อการหารือ และจัดทำเป็นบันทึกการประชุม ที่สามารถจะเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป โดยสถานที่ในการประชุม ซึ่งทางกัมพูชาเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ไม่ขัดข้องที่จะจัดการประชุมที่กรุงพนมเปญ เพื่อยกระดับความสำคัญของการประชุม อย่างไรก็ตาม จะได้หารือความเหมาะสม และแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบอีกครั้งหนึ่งต่อไป
\"\" \"\"
————————–
ภาพ/กกล.บูรพา