ปิดล้อมตรวจค้นเพิงพักคนงานกลางไร่อ้อยจับไม่แจ้งที่พักและกัมพูชาทำงานผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.สระแก้ว ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.ท.สิริฤกษ์ชัย เป้ามณี รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต ต.ณัฐวุฒิ กลิ่นเกษร สว.ตม.จว.สระแก้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนฯ (ชป.2) ตรวจสอบโรงแรม ที่พักอาศัย บ้านเช่าสถานประกอบการ ชุมชนต่างๆ ตาม  ม.37,38 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบและประชาสัมพันธ์ โรงแรมที่พักอาศัย สถานประกอบการที่มีบุคคลต่างด้าวเข้าพักอาศัย ตาม ม.37, ม.38 ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่รับผิดชอบ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบเพิงพักคนงานกลางไร่อ้อย หมู่ที่ 3 บ้านทับยาง ต.คลองทับจันทร์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบ นายวิชัย ดาทา อายุ  47 ปี ที่อยู่ 92 หมู่ที่  3 บ้านยาง ตำบลคลองทับจันทร์ อำเภออรัญประเทศ  จังหวัดสระแก้ว แสดงตนเป็นเจ้าของเพิงพักดังกล่าว พบชาวต่างด้าว พักอาศัยอยู่ภายในบ้าน จำนวน 3 ราย มีรายชื่อดังนี้คือ 1.MRS.CHEM HAN อายุ 52 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่อยู่ จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา, 2.MR.TOUCH LENG อายุ 37 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่อยู่ จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา และ 3.MR.CHEM SOK อายุ 46 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่อยู่ จ.บันเตียนเมียนเจย ประเทศกัมพูชา

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบว่า การเข้าพักอาศัยอยู่ภายในบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสอบถามถึงการแจ้งเข้าพักอาศัย ตามมาตรา 38 ผู้ถูกจับแจ้งว่ายังไม่ได้ดำเนินการแจ้งการเข้าพักอาศัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และแจ้งว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฏหมาย จึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการแจ้งที่พักทางออนไลน์ให้ผู้ถูกจับได้ทราบต่อไป

ขณะเดีวกัน ช่วงเวลา 16.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว โดยชุดสืบสวน ชป.2 สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ 1. MR.CHEA CHUOT อายุ 37 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่อยู่ ประเทศกัมพูชา ,ผู้ต้องหาที่ 2. MR.SAMBUON KRIM อายุ 19 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่อยู่ประเทศกัมพูชา และ 3. MR.PHOR HAM อายุ 35 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมด้วยของกลาง 1.ตู้เชื่อมเหล็กไฟฟ้า ยี่ห้อ  SMART รุ่น STICK300 พร้อมหัวเชื่อม จำนวน 1 ตู้ 2.สวาลไฟฟ้ายี่ห้อฮุนได รุ่น HD-902-28G พร้อมอุปกรณ์จำนวน 1 ตัว 3.สวาลไร้สายยี่ห้อฮุนได รุ่น HD-691H  จำนวน 1 ตัว 4.ชุดประแจหกเหลี่ยม จำนวน 1 ชุด และ 5. เครื่องเจียไฟฟ้ายี่ห้อฮุนได จำนวน 2 ชุด

โดยเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหาว่า MR.CHEA CHUOT ผู้ถูกจับที่ 1 \”ห้ามผู้ใดรับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ และให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ส่วนผู้ต้องหาที่ 2-3 ถูกตั้งข้อหาว่ากระทำผิดฐาน \”ห้ามคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ”

สำหรับพฤติการณ์ของกลุ่มชาวกัมพูชาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ออกปฏิบัติหน้าที่สืบสวนปราบปราม จับกุม บุคคลต่างด้าวที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และความผิดที่เกี่ยวเนื่องในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ขณะปฏิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนาม(หวังสินบนนำจับ) ว่ามีบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานบริเวณ หน้าร้านขายอุปกรณ์การแพทย์ ถนนราษฎร์อุทิศ  ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบ ผู้ถูกจับที่ 2 -3 กำลังทำงานอยู่โดยกำลังต่อเติมกันสาด โดยมีผู้ถูกจับกุมที่ 1 กำลังควบคุมการทำงานอยู่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนว่า เป็นเจ้าพนักงานตำรวจและได้สอบถามผู้ถูกจับว่าเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ ผู้ถูกจับที่ 1 แจ้งว่าเป็นชาวกัมพูชาและได้แสดงหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ระบุชื่อ MR.CHEA CHUOT อายุ 37 ปี

ส่วนผู้ถูกจับที่ 2 -3 แจ้งว่า เป็นคนต่างด้าว(ชาวกัมพูชา) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขอตรวจเอกสารการเดินทางและหนังสืออนุญาตทำงาน ผู้ถูกจับที่ 2-3 ได้แสดงหนังสือผ่านแดนชั่วคราว แต่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน แจ้งว่า ยังไม่ได้จัดทำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สอบถามผู้ถูกจับที่ 2-3 ว่าผู้ใดเป็นนายจ้างและได้รับค่าจ้างวันละเท่าไหร่ ผู้ถูกจับที่ 2-3 ให้การว่าผู้ถูกจับที่ 1 เป็นนายจ้างและคุมงานด้วย ได้รับค่าจ้างจากการทำงานวันละ 400 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและทำการจับกุมและแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับ และนำตัวส่ง ให้พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

—————————