สำนักงานเกษตรกาญจน์เปิดเวทีรณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day)

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ม.ค.68 ที่ บริเวณ ศาลาอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนตำบลแสนตอ ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผวจ.กาญจนบุรี ได้มอบหมายให้ ว่าที่ ร.ต.ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รอง ผวจ.กาญจนบุรี เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน เวที รณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day) โดยมีนางอรทัย วงศ์วัชรมงคล นอภ.ท่ามะกา พร้อมด้วยนายวีระศักดิ์ สุขทอง เกษตรจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดงาน\"\" \"\" ในงานยังได้มีการจัดนิทรรศการจากภาครัฐ และเอกชน ให้ความรู้กับเกษตรกรที่เดินทางเข้ามาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก เช่นการป้องกันการเผาในพื้นที่เกษตรและจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ กิจกรรมสาธิตในแปลงอ้อย การใช้เทคโนโลยีโดรนพ่นสาร การใช้เทคโนโลยีสางใบอ้อย และมีกิจกรรมฐานเรียนรู้จำนวน 5 ฐาน อาทิ การย่อยสลายวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การพัฒนาอ้อยพันธุ์ดี โรคและแมลงศัตรูพืช การใช้เทคโนโลยีลดการเผาในอ้อย และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร\"\" \"\"นางอรทัย วงศ์วัชรมงคล นอภ.ท่ามะกา กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอท่ามะกาแบ่งเขตการปกครองเป็น 17 ตำบล 153 หมู่บ้าน 19 ชุมชน มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 21 แห่ง พื้นที่ทั้งหมด 247,697 ไร่ เป็นพื้นที่การเกษตร 114,434 ไร่ มีประชากร 132,148 คน มีพืชเศรษฐกิจหลักคือ ข้าว อ้อยโรงงาน และข้าวโพดฝักอ่อน โดยข้าวมีพื้นที่ปลูก จำนวน 57,126 ไร่ อ้อยโรงงานมีพื้นที่ปลูกจำนวน 40,202 ไร่ และข้าวโพดฝักอ่อน มีพื้นที่ปลูกจำนวน 13,761 ไร่ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกข้าวโพดและอ้อยโรงงานซึ่งเป็นพืชที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดการเผาในพื้นที่การเกษตรส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันปกคลุมปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือพีเอ็ม 2.5 ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งยังส่งผลเสียต่อการทำอาชีพเกษตรกรโดยตรง กล่าวคือ ทำให้ดินเสื่อมโทรม ขาดความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ผลผลิตที่ได้รับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะช่วยให้คำปรึกษาและแนะนำการแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรในจังหวัดกาญจนบุรี และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรและการทำการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป\"\" \"\"ทางด้านนายวีระศักดิ์ สุขทอง เกษตรจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมและมลพิษทางอากาศเป็นประจำทุกปีโดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ การขนส่งและการคมนาคม โรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้าง มลพิษข้ามแดน การเผาในพื้นที่โล่งและพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เกษตรกรรมและชุมชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการในพื้นที่และจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด เกษตรกรยังคงเผาเศษวัสดุในพื้นที่เพื่อทำการเกษตรในฤดูถัดไปหรือปล่อยทิ้งไม่นำมาใช้ประโยชน์ซึ่งวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมีปริมาณมากและเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้หลากหลายการส่งเสริมให้เกษตรกรและชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพื้นที่และจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร จะเกิดเครือข่ายความร่วมมือในชุมชนส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็งเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน\"\" \"\" นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและตระหนักถึงความสำคัญในการร่วมมือเพื่อบริหารจัดการพื้นที่การเกษตรกรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรีจัดเวทีรณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรเป้าหมายผู้เข้าร่วมงานเป็นเกษตรกรในจังหวัดกาญจนบุรีรวมทั้งทั้งสิ้น 350 ราย