ตรัง ชาวสวนปาล์มเรียกร้องรัฐเร่งทำแผนระบายปาล์มหลังลดไบโอดีเซล

 

ตรัง-สมาคมชาวสวนปาล์มยื่นหนังสือต่อรมว.อุตสาหกรรมและรมว.พลังงาน เรียกร้องเร่งจัดทำแผนระบายปาล์มน้ำมันในอีก 3 เดือนข้างหน้าที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก และปริมาณปาล์มที่เหลือจากการลดการผลิตไบโอดีเซลจากบี 7 เหลือบี 2 และแก้ไขปัญหาด้านราคาที่ไม่เป็นธรรม ด้านรมว.อุตสาหกรรมนัดตัวแทนเกษตรกรเข้าพบที่สภาประมาณปลายเดือนนี้ 

ที่ท่าอากาศยานตรัง สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง ในฐานะตัวแทนของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันทั่วประเทศ นำโดยนายชัยวัฒน์ โภคาวัฒนา นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน และกรรมการ รวมประมาณ 10 คน ยื่นหนังสือต่อนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้เร่งแก้ปัญหาเกี่ยวปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นพืชสำคัญในระบบบเศรษฐกิจของภาคได้ แต่ยังขาดการบริหารจัดการที่เอาจริงเอาจัง แม่นยำ ราคาปาล์มน้ำมันจึงมีความผันผวนไม่เป็นไปตามกลไกตลาด และในบางครั้งโรงงานร่วมมือกันลดหรือหยุดรับชื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกร ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันลดลงทันที ในขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบและสำเร็จรูปยังคงเท่าเดิม และในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ราคาผลผลิตปาล์มสด ถูกกำหนดจากเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่สกัดโดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม โดยไม่มีเครื่องมือวัดเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ทำให้ราคาที่เกษตรกรได้รับไม่เป็นธรรมและมีความผันผวนไม่เป็นไปตามราคาที่ควรจะได้และไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด (กฎหมายกำหนด โรงงานต้องรับซื้อในราคาที่ไม่ต่ำกว่า 18 เปอร์เซ็นต์น้ำมัน แต่ซื้อจริงช่วงที่ผลผลิตออกมากที่ราคา 14-16 เปอร์เซ็นต์น้ำมัน หรือประมาณ 3 บาทเศษ ) สร้างความเดือดร้อนและไม่เป็นธรรมแก่เกษตรกร และให้มีการติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยให้สามารถตรวจสอบปริมาณน้ำมันปาล์มในสต๊อกได้ตลอดเวลาและควรเปิดเผยข้อมูลให้เกษตรกร และประชาชนรับทราบเป็นรายวัน ผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ที่ผ่านมาดูไม่ได้ ทำให้เกษตรกรไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน

และยื่นผ่านนายเอกนัฎไปถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมานตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อเรียกร้องให้เร่งออกแผนระบายปาล์มน้ำมัน หลังกองทุนน้ำมันจะยกเลิกการชดเชยราคาเชื้อเพลิงชีวภาพในปี 2569 และกระทรวงพลังงานมีการลด B 7 เหลือ B2 ยิ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันปาล์มล้นตลาดมากขึ้น และในอีก 3 เดือน ( กพ.-เมย. 68) นี้จะมีปริมาณผลผลิตปาล์มออกมามาก แต่รัฐยังไม่มีมาตรการระบายผลผลิต สุดท้ายผลกระทบจะทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันล้นตลาดมากยิ่งขึ้น ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ ส่งผลกระทบกับกับเกษตรกรชาวสวนปาล์มโดยตรง ซึ่งเหตุการณ์เกิดเร็วก่อน 2569 ดังนั้น สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง เป็นตัวแทนของเกษตรกรทั้งประเทศ จึงขอให้กระทรวงพลังวานช่วยหามาตรการรองรับ เพื่อระบายผลผลิตปาล์มน้ำมันที่จะล้นตลาด จากผลผลิตปาล์มที่จะออกมามากในอีก 3 เดือน ข้างหน้าและผลผลิตปาล์มที่ถูกลดการใช้จากการลด B7เป็น B2 และเร่งการยกร่างกฎหมาย เหมือนพ.ร.บ. อ้อยและน้ำตาล พ.ศ. 2567 ให้เป็นกฎหมายปาล์มน้ำมันและอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอย่างเร่งด่วน

\"\"

ทางด้านนายฉัตรชัย รัตวิวัฒนาพงศ์ กรรมการสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจ.ตรัง บอกว่า ได้ยื่นหนังสือถึง 2 รมว.คือ รมว.อุตสาหกรรม เรื่องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโรงงาน ทั้งราคารับซื้อ และเปอร์เซ็นต์น้ำมัน และยื่นรองนายกและรมว.พลังงาน ทั้งนี้ เกษตรกรไม่ได้คัดค้านเรื่องการลดน้ำมันไบโอดีเซลจาก B7เป็น B2 ของกระทรวงพลังงาน เพราะเกษตรกรเข้าใจได้ว่าต้นทุนปาล์มแพง ทั้งนี้ รัฐเคยลดจาก B7เหลือ B5 เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาแล้วก็ขยับลดจาก B 5 เหลือB2 แต่เท่าที่ติดตามรัฐยังไม่แผนที่จะระบายสินค้าออกมาเลย ซึ่งในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเราก็จะเจอปัญหาผลผลิตล้นตลาด และจะกระทบทำให้ราคาตกต่ำ แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนเรื่องของการระบายสินค้า ทั้งนี้ ตอนทำน้ำมัน B7 เราสามารถดึงปริมาณปาล์มไปใช้ผลิตได้ร้อยละ 20 ของปริมาณผลผลิตทั้งประเทศ หรือประมาณ 5,000,000 กว่าตันต่อปี ซึ่งถือว่าไม่น้อยหรือประมาณ 1 ใน 3 ของผลผลิตที่ออกมาทั้งประเทศ ถ้าไม่มีแผนตรงนี้เกษตรกรก็จะแย่แน่นอนฤดูกาลหน้านั้นผลผลิตออกมาก ซึ่งตอนนี้ผลของภัยแล้งทำให้ผลผลิตออกช้ากว่าเดิมประมาณ 2 เดือน แต่ประมาณมี.ค.-พ.ค. จะออกมากอยู่แล้ว ซึ่งหากไม่วางแผนการใช้ปาล์มที่เหลือจากการลดไบโอดีเซลจะเอาไปไหน จะกระทบกับเกษตรกร ทั้งนี้ รมว.อุตสาหกรรมนัดให้ตัวแทนเกษตรกร ซึ่งตนจะประสานตัวแทนเกษตรกรจากทั้ง 7 จังหวัดพื้นที่ปลูกปาล์มร่วมกันขึ้นไปเสนอปัญหาและแผนการแก้ทั้งระบบปลายเดือนนี้

\"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\"