ตรัง – ราคายางดิ่ง หลังสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นกำแพงภาษี ทำบริษัทยักษ์ใหญ่ฉวยโอกาสกดราคา ทั้งๆที่ยางมีน้อย เพราะยังอยู่ในช่วงปิดกรีด และแม้แต่ภาวะปกติ ผลผลิตยางทั่วโลกก็มีไม่พอขาย ด้านประธานบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย ระบุ ราคายางที่ตกลงยังไม่ใช่เพราะปัญหากำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา แต่เกิดจากความตื่นตระหนกของผู้มีส่วนในการผลิตยาง และการฉวยโอกาสของคนบางกลุ่มที่รอสถานการณ์กดราคา ขอทุกฝ่ายตั้งสติอย่าตื่นตระหนก เพราะคนที่จะกระทบจากปัญหานี้คือ พลเมืองอเมริกา ไม่ใช้ผู้ผลิตยางต้นน้ำ เพราะทั่วโลกขณะนี้มียางรวมกันไม่เพียงพอความต้องการใช้ และสหรัฐอเมริกาก็จำเป็นต้องซื้อยางจากทั่วโลก โดยวันนี้วันเดียว ราคาน้ำยางสดดิ่ง 10 บาท จากเมื่อวานกก.ละ 58 บาท วันนี้เหลือกก.ละ 48 บาท
ที่โรงแรมวัฒนาพาร์ค อ.เมือง จ.ตรัง นายเพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด การยาง) ได้กล่าวกับผู้นำสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง และเกษตรกรชาวสวนยาง จาก 6 จังหวัดในสังกัดการยางแห่งประเทศไทยเขตภาคใต้ตอนกลาง ประกอบด้วย ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ พังงา และภูเก็ต รวมถึงพนักงานการยางแห่งประเทศไทย ประมาณ 200 คน ในกรณีกระแสโลกการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าต่างๆจากหลายประเทศของผู้นำสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้ผู้ส่งออกสินค้าไปประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนจากกำแพงภาษีใหม่ที่สูงขึ้น โดยยางพาราและผลิตภัณฑ์จากยางพาราหลายชนิดของไทยก็ส่งออกไปสหรัฐอเมริกาด้วย โดยขณะนี้ผลกระทบกำลังเกิดขึ้นกับเกษตรกรชาวสวนยางคือ ราคาน้ำยางสดลดลงอย่างรวดเร็ว หลังมีการประกาศปรับภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาดังกล่าว
โดยนายเพิก เลิศวังพง ประธานบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย บอกกับเกษตรกรว่า ปัญหาราคายางพาราที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็วขณะนี้ เกิดจาก 2 สาเหตุคือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิต และส่งออกยางพารา รวมทั้งเกษตรกรเองเกิดความแตกตื่นกับกระแสโลก โดยไม่ได้เข้าใจถึงข้อเท็จจริง จึงทำให้เกิดความปั่นป่วนในวงการตลาดโดยไม่มีข้อมูล 2.มีคนบางกลุ่มที่รอจังหวะสถานการณ์ฉวยโอกาสกดราคายางพาราลงอยู่แล้ว จึงอยากให้ทุกคนตั้งสติให้ดีและวิเคราะห์ข้อมูลให้รอบด้าน เพราะขณะนี้ยางพาราในบ้านเราออกสู่ตลาดน้อย เพราะยังอยู่ในช่วงฤดูปิดกรีด ขณะเดียวกันแม้จะเป็นช่วงที่ผลผลิตยางพาราออกจำนวนมาก แต่ขณะนี้ปริมาณยางทั่วโลกรวมกันมีน้อยกว่าความต้องการใช้ และอเมริกาก็ต้องการใช้ยาง คนที่จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์นี้จะต้องเป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาเอง ไม่ใช้ผู้ผลิตยางต้นทางอย่างประเทศไทยและทุกประเทศที่ผลิตยาง จึงขอให้ตั้งสติ อย่าแตกตื่น จะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ ซ้ำเติมความยากลำบากให้แก่พวกเรากันเองไม่ใช่สาเหตุเพราะกำแพงภาษี ขณะที่การยางฯ เองก็อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์ว่าวิธีการที่ดีที่สุดจะต้องทำอย่างไร เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่ เชื่อว่าอีก 3 เดือน รู้เรื่องว่าทิศทางจะไปอย่างไร สิ่งที่จะขอจากชาวสวนยางคือ อย่าเรียกร้องให้แทรกแซงราคา และชดเชยรายได้ เพราะไม่เกิดประโยชน์สูญเสียเงินอย่างมหาศาล เงินภาษีที่นำมาใช้กลายเป็นผลประโยชน์ของคนอื่น เกษตรกรถูกนำไปเป็นข้ออ้างในการนำเงินไปใช้ จึงขอให้เป็นไปตามกลไกของตลาด และกยท.จะเร่งหามาตรการกำหนดแนวทางและมาตรการสู้กลับ เพื่อดึงราคาให้กลับขึ้นมาโดยเร็วที่สุด หรือให้ลงน้อยที่สุด เกษตรกรต้องได้ขายยางในราคาเดิมโดยให้ตลาดเป็นตัวกำหนด ขอให้รอดูสถานการณ์ต่อไป ขณะเดียวกัน กยท.ก็มีโครงการชะลอยางที่เดิมมีงบประมาณไว้ให้จำนวน 400 ล้านบาท ขณะนี้เพิ่มเป็น 1,200 ล้านบาท เพื่อเอาไว้ให้ใช้ในโครงการชะลอยาง ซื้อยางเก็บเอาไว้ในช่วงราคาตกไว้รอขายในช่วงราคาดี
สำหรับราคาน้ำยางสดเมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมาราคาน้ำยางสดอยู่ที่กก.ละ 70 บาท แต่ราคาตกลงอย่างรวดเร็วโดยเมื่อวานนี้ สหกรณ์ยางรับซื้อน้ำยางสดกก.ละ 62 บาท เกษตรกรขายจุดรับซื้อทั่วไปกก.ละ 58-59 บาท แต่มาวันนี้ ราคาน้ำยางสดดิ่งลงวันเดียวกก.ละ 10 บาท ทำให้เกษตรกรขาย ณ. จุดรับซื้อทั่วไปเหลือกก.ละ 48 บาท และแนวโน้มยังลดลงอีกต่อเนื่อง ขณะที่เกษตรกรส่วนใหญ่ยังหยุดกรีด น้ำยางออกสู่ตลาดน้อย