ท่องเที่ยว

วันนี้ (26 มกราคม 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคมคาดการณ์ว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกว่า 4 ล้านคน โดยในจำนวนกว่า 7 แสนคน เป็นนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 22.6 ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวแล้ว เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้ร่วมมือกับหน่วยงานในท่าอากาศยาน เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในทุกจุดบริการทั้งขาเข้าและขาออก เช่น ช่องตรวจคนเข้าเมือง การรับกระเป๋าสัมภาระ การเช็คอิน และการตรวจค้น จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษาเพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังเสริมเจ้าหน้าที่เวรนอกเวลาเพื่อให้บริการทุกช่วงเวลา ทั้งนี้ ทอท. ได้ประมาณการปริมาณจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) […]

ในหลวง-ราชินี เสด็จฯ เปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ “วชิรสถิต” และ “วชิรธำรง”           กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 เวลา 17.12 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินฯ ทรงประกอบพิธีเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ณ ซุ้มประตู “วชิรสถิต 72 พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต และ ซุ้มประตู “วชิรธำรง 72 พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี ถนนเจริญกรุง ถนนสายมังกรแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดสร้างในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 และร่วมฉลองครบ 50 ปีแห่งสัมพันธภาพระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะเป็นหมุดหมายแห่งใหม่ที่สำคัญของประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตลอดสองฟากฝั่งบนถนนเจริญกรุง ตั้งแต่บริเวณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต 72

จุดตะเกียงเคียงดาวแคมป์คึกคักสีสันงานประกวดตะเกียงเก่าโบราณ อายุ 100 ปี สืบสานและอนุรักษ์ของเก่าให้มีชีวิตอีกครั้ง ที่นครนายก บริเวณอ่างเก็บน้ำคลองโบสถ์ ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ได้มีการจัดกิจกรรมตะเกียงเคียงดาวแคมป์ครั้งที่ 1 เข้าชมฟรี โดยมีประชาชนชาวจังหวัดนครนายกและจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นกลุ่มอนุรักษ์ตะเกียงเก่านำตะเกียงเก่าโบราณมาประกวดกันค่อนข้างคึกคัก ซึ่งมีบรรดาวัยรุ่นและประชาชนทั่วไปแห่เข้าชมกันเป็นจำนวนมาก บริเวณภายในงานก็มีการซ่อมตะเกียงที่ชำรุดก็จะซ่อมให้ฟรีถ้าไม่ชำรุดแบบไม่มาก เช่นตะเกียงไม่ติดหรือมีปัญหาเล็กน้อยก็จะบริการซ่อมฟรี กิจกรรมการแคมป์ปิ้ง การประกวดตะเกียงโบราณเก่าที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี 60 ปี 70 ปี ถึง 100 ปี ซึ่งเป็นตะเกียงโบราณที่หาดูได้ยากสำหรับคนในยุคปัจจุบัน จากการสอบถาม พันโทอภิเดช แก้วกระจาย ประธานชมรมคนรักษ์ตะเกียงโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เล่าว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกและก็เปิดให้เข้าชมฟรี เพื่อให้น้องๆวัยรุ่นยุคใหม่ได้เห็นและได้ศึกษาตะเกียงโบราณที่หาดูได้ยากแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเข้ามาร่วมงานได้มากขนาดนี้ ภายในงานมีการสาธิตในการจุดตะเกียงเก่าโบราณ มีตะเกียงโบราณตั้งแต่อายุ 50-100 ปี ตั้งแต่รุ่นแรกๆ จนถึงปัจจุบันที่หลายต่อหลายคนนำมาใช้ในการกางแคมป์ปิ้งในปัจจุบัน ซึ่งในงานนี้ก็มีกลุ่มคนรักตะเกียงที่มาหลากหลายจังหวัดพี่ชอบอนุรักษ์ของเก่าได้มาร่วมงานด้วย ที่สำคัญก็อยากให้น้องๆ เพื่อนๆพี่ๆ รวมถึงพี่น้องประชาชนทุกคนที่เข้ามาในงานนี้ร่วมสืบสานของเก่าที่เราเคยใช้กันมานานเพื่อให้มันมีชีวิตและมีแสงอีกครั้งหนึ่งแบบทุกคนที่มาในงานนี้ก็คือรักษ์ในแสงรักษ์ในกลิ่นไอของน้ำมันก๊าด คือมันจะมีความสุขมากในเวลาจุดเห็นแสงของเขาหรือว่าถ้าเป็นของเก่าที่เก็บมานานเป็น 10-20 ปี 30 ปีซึ่งไม่มีแสงมานานมากแล้ว เราก็จะมาทำให้มันมีไฟขึ้น หรือปลุกเขาถ้าเป็นภาษาในกลุ่มก็จะบอกว่าปลุกคุณปู่ ปลุกคุณปู่ให้มีชีวิตให้มีแสงขึ้นมาอีดครั้ง เราก็จะมีความภาคภูมิใจและมีความสุขกับมันนั่นเอง..  

วันนี้ (25 ม.ค. 68) ที่บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดขอนแก่น ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานเทศกาลตรุษจีนขอนแก่น สามแผ่นดิน โดยมี ท่าน Liu Hongmei กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น ท่านกงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ จังหวัดขอนแก่น ท่านสมสัก วิไลทอน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปโตยประชาชนลาว ณ จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำ 24 องค์กรจีน ผู้นำสมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม องค์กรเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น ร่วมงาน  สำหรับการจัดงานเทศกาลตรุษจีนขอนแก่น สามแผ่นดิน ภายใต้แนวคิด ชิม แชะ ชิล สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมบุญ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 26 มกราคม 2568 ณ บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดขอนแก่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในด้านการค้า การลงทุน และด้านการท่องเที่ยวภายในจังหวัดให้เกิดการกระจายรายได้สู่คนในพื้นที่ให้เกิดการต่อยอดเชื่อมโยงธุรกิจผ่านการสร้างกิจกรรมเมือง สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนนำไปสู่การเป็นเครือข่ายการทำงานในอนาคต

25 ม.ค.68 ที่สวนน้ำอวกาศ ภายในสวนนกชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ประชาชนชาวชัยนาท และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กๆแห่ลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน   หลังสวนน้ำแห่งนี้ปิดให้บริการมาเป็นเวลานานตั้งแต่ช่วงโควิด19ระบาดเมื่อปี 2563 และได้ทำการปรับปรุงมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ใช้งบประมาณกว่า 6 ล้านบาท เปิดให้บริการฟรีจนถึงวันที่ 28 ก.พ.2568 นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท(อบจ.ชัยนาท) มีภารกิจในการบริหารจัดการสวนนกชัยนาท หลังเข้ารับตำแหน่งได้เล็งเห็นว่ามีบางส่วนที่จะต้องปรับปรุงให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น  โดยภายในสวนนกชัยนาทมีสวนน้ำอวกาศให้บริการด้วย ซึ่งถูกปิดมาตั้งแต่ปี 2563 ช่วงการระบาดของโควิด19  ขณะนี้ อบจ.ชัยนาท ได้ทำการปรับปรุงสวนน้ำอวกาศ แล้วเสร็จกว่าร้อยละ 90  ใช้งบประมาณกว่า 6 ล้านบาท แต่ในส่วนของสไลเดอร์หุ่นยนต์ ซึ่งมีความสูงและไม่ปลอดภัย จึงยังไม่เปิดให้บริการในส่วนนี้   วันนี้(25ม.ค.68)เป็นวันแรกที่เปิดให้บริการสวนน้ำอย่างเป็นทางการ  ในส่วนที่ปรับปรุงเสร็จแล้วให้เด็กๆได้สนุกกันอย่างปลอดภัย เพราะระบบน้ำเป็น “ระบบเกลือ” คือ ใช้ระบบฆ่าเชื้อโรคในน้ำด้วยเกลือบริสุทธิ์ แทนการใส่สารเคมี จะเป็นการสร้างคลอรีนจากเกลือ  ซึ่งปลอดภัยมากกว่าการใช้สารเคมีนั่นเอง   โดยเปิดให้บริการฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์